Page 68 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 68

11-16 ​พฤติกรรม​มนุษย์​และจ​ ริยธรรม​ทางเ​ศรษฐกิจ​และธ​ ุรกิจ

       สำหรับ ริ​ชาร์ด เอส​เท​อร์​ลิน จาก​มหาวิทยาลัย Southern California ประเทศ​สหรัฐอเมริกา ผู้ได้​รับ​การ​
ยกยอ่ งใ​หเ้ ปน็ บ​ ดิ าแ​ หง่ ค​ วามส​ ขุ (Father of Happiness) เพราะเ​ปน็ ผ​ บู​้ กุ เบกิ ง​ านศ​ กึ ษาว​ จิ ยั เ​กีย่ วก​ บั ค​ วามส​ ขุ แ​ ละค​ วาม​
อยู่ดีม​ ี​สุข​ในป​ ระเทศส​ หรัฐอเมริกา งาน​วิจัย​ชิ้น​แรกๆ ของ​เอสเ​ทอ​ ร์​ลิน พบว​ ่า คน​ที่​มีเ​งินม​ ากกว่า​ส่วน​ใหญ่​จะม​ ีค​ วาม​
สุข​มากกว่า​คน​ที่​มี​เงิน​น้อย​กว่า แต่​ว่า​เมื่อ​ราย​ได้​ของ​คน​ทั้ง​ประเทศ​เพิ่ม​ขึ้น​ไป​จนถึง​จุด​หนึ่ง​แล้ว ความ​สุข​กลับ​ไม่​เพิ่ม​
ขึ้น​ด้วย ซึ่ง​ถือ​เป็น​ภาวะ​ผกผัน ต่อ​มา​ได้​มี​การ​อธิ​บาย​ปราก​ฎ​การณ์​นี้​จาก​งาน​วิจัยที่สร้าง​ชื่อ​เสียง​ของ​เอส​เท​อร์​ลิน คือ
“The Easterlin Paradox” โดย​ใช้​ทฤษฎีก​ าร​เปรียบเ​ทียบท​ างส​ ังคม (social comparison theory) และท​ ฤษฎี​การ​
ปรับต​ ัว (habituation theory) ว่าค​ น​เรา​เมื่อม​ ีร​ ายไ​ด้ที่​เพิ่มข​ ึ้น​ไปจ​ นถึงจ​ ุด​หนึ่งแล้ว ก็จ​ ะ​เริ่ม​นำต​ ัวเ​องไ​ปเ​ปรียบเ​ทียบ​
กับค​ นอ​ ื่น การนำต​ ัวเ​องไ​ปเ​ปรียบเ​ทียบก​ ับค​ นอ​ ื่นจ​ ะม​ ีผ​ ลบ​ วกก​ ับค​ วามส​ ุขก็ต​ ่อเ​มื่อคนม​ ีร​ ายไ​ด้ที่ม​ ากกว่าค​ นอ​ ื่นเ​ท่านั้น
คน​ที่​มี​ราย​ได้​น้อย​กว่า​คน​ทั่วไป​ส่วน​ใหญ่​ก็​จะ​มี “ความ​สุข​สุทธิ” (net happiness) ที่​ได้​มา​จาก​การ​เปรียบ​เทียบ​ทาง​
สังคมเ​ป็น​ค่าล​ ด​ลงไ​ป เพราะฉ​ ะนั้น การ​เปรียบเ​ทียบท​ างส​ ังคม ก็​จะส​ ่ง​ผล​ให้ค​ นท​ ั่วไป​ส่วน​ใหญ่​ใช้ช​ ีวิต​ใน​ที่ท​ ำงานม​ าก​
ขึ้น และม​ ีเ​วลาใ​ห้ก​ ับค​ รอบครัวน​ ้อยล​ ง เพื่อท​ ี่จ​ ะผ​ ลักด​ ันใ​ห้ต​ นเองม​ ีร​ ายไ​ด้ที่ดีก​ ว่าค​ นอ​ ื่น เพื่อจ​ ะไ​ด้ม​ ีค​ วามส​ ุขม​ ากกว่า​
คนอ​ ื่น อย่างไร​ก็ตาม การเ​ปรียบเ​ทียบท​ างส​ ังคมอ​ าจไ​ม่เ​กิดป​ ระโ​ยช​ น์ใ​ดๆ ต่อค​ วามส​ ุขโ​ดยร​ วม เพราะค​ วามส​ ุขท​ ี่ไ​ด้ม​ า​
จากก​ ารเ​ปรียบเ​ทียบท​ ำใหจ้​ ำนวนข​ องค​ นท​ ี่ไ​ดจ้​ ะเ​ท่ากับจ​ ำนวนข​ องค​ นท​ ี่เ​สีย (zero-sum game) ส่วนค​ วามส​ ุขโ​ดยร​ วม​
อาจจ​ ะล​ ดล​ ง ถ้า​ความ​สุขท​ ี่เ​ราไ​ด้ม​ าจ​ ากร​ ายไ​ด้ที่เ​พิ่มข​ ึ้นน​ ั้นวัด​ได้น้อย​กว่าค​ วาม​สุขท​ ี่เ​ราค​ วรจ​ ะไ​ด้ร​ ับม​ าจ​ ากก​ ารใ​ช้เ​วลา​
อยู่​กับ​ครอบครัวแ​ ละค​ น​ที่เ​ราร​ ัก

       จาก​การศ​ ึกษาด​ ังก​ ล่าวข​ องเ​อส​เทอ​ ร์​ลิน สรุป​ได้​ว่า ความส​ ุขข​ องป​ ัจเจก​ชน​ที่​อาจ​เพิ่มข​ ึ้น​หรือล​ ด​ลงไ​ม่มี​ความ​
สมั พนั ธก​์ บั ร​ ายไ​ดแ​้ ละอ​ ตั ราก​ ารเ​จรญิ เ​ตบิ โตท​ างเ​ศรษฐกจิ กลา่ วค​ อื รายไ​ ดท้ เ​่ี พม่ิ ข​ น้ึ แ​ ละเ​ศรษฐกจิ ท​ เ​่ี ตบิ โตไ​ มไ​่ ดท​้ ำใหค​้ น​
มค​ี วามส​ ขุ เ​พม่ิ ข​ น้ึ ถงึ แ​ มจ​้ ะม​ น​ี ยั ส​ ำคญั ก​ บั ก​ ารเ​พิม่ ข​ ึน้ ห​ รอื ล​ ดล​ งใ​นร​ ะดบั ข​ องค​ วามส​ ขุ ก​ ต็ าม เนือ่ งจากค​ นม​ แ​ี นวโ​นม้ ท​ จี​่ ะ​
เปรยี บเ​ทยี บต​ นเองก​ บั บ​ คุ คลอ​ ืน่ นอกจากน​ ี้ ยงั ม​ ป​ี จั จยั เ​อือ้ ท​ สี​่ ง่ ผ​ ลต​ อ่ ก​ ารส​ รา้ งห​ รอื ล​ ดค​ วามส​ ขุ ด​ ว้ ย อาทิ อายขุ ยั ย​ นื ยาว
การไ​ด้​รับ​สวัสดิการ​ที่ด​ ี​จาก​รัฐ ชั่วโมงก​ ารท​ ำงาน สภาพ​แวดล้อม อาชญากรรม การว​ ่างง​ าน และ​เงินเฟ้อ เป็นต้น

       นอกจาก​นั้น ยัง​มี​การ​ศึกษา​จิตวิทยา​สมัย​ใหม่​ใน​เรื่อง​การ​สร้าง​สุข​ชื่อ​ว่า จิตวิทยา​เชิง​บวก (Positive​
Psychology) ซึ่งร​ ิเริ่มโ​ดย​ มารต์​ ิน เซล​ ิคแ​ มน (Martin Seligman) ผู้อ​ ำนวยก​ ารศ​ ูนย์จ​ ิตวิทยาเ​ชิงบ​ วกแ​ ห่งม​ หาว​ ิทยาล​ ัย
​เพน​ซิลเว​เนีย ประเทศ​สหรัฐอเมริกา โดย​จิตวิทยา​เชิง​บวก​นี้​มี​หลัก​คิด​อยู่​สาม​ประการ ประการ​แรก คือ อารมณ์​ดา้ น​
บวก (positive emotion) คือ ความส​ ุข​ใน​อดีต ปัจจุบัน และค​ วามห​ วังใ​น​อนาคต ประการท​ ี่ส​ อง คือ ลักษณะ​เฉพาะ​
ด้าน​บวก (positive individual traits) คือ จุด​แข็งแ​ ละค​ วาม​ดี​งาม​ของค​ น อาทิ อัจฉ​ริย​ภาพ ความ​กล้า​หาญ การ​
สร้างสรรค์ พรสวรรค์ ประการ​ที่ส​ าม คือ สถาบันท​ เ​ี่ ป็น​ด้าน​บวก (positive institutions) ที่ส​ ร้าง​เสริม​ความ​แข็งแกร่ง​
ให้​กับช​ ุมชน อาทิ ระบอบ​ประชาธิปไตย สถาบันศ​ าล และส​ ถาบันค​ รอบครัว​ที่​เข้ม​แข็ง การ​ไต่ถาม​โดย​เสรี เป็นต้น ซึ่ง​
ถ้า​ทั้ง​สาม​องค์​ประกอบ​ได้​รับ​การก​ระ​ตุ้น​และ​พัฒนา​อย่าง​ถูก​ต้อง​แล้ว คน​จะ​ประกอบ​คุณ​งาม​ความ​ดี และ​คน​ก็​จะ​ได้​
รับค​ วามส​ ุข​ใน​ที่สุด

       กล่าวโ​ดยส​ รุป การศ​ ึกษาค​ วามส​ ุขใ​นย​ ุคศ​ ตวรรษท​ ี่ 21 ได้ม​ ีก​ ารผ​ สมผ​ สานศ​ าสตร์ต​ ่างๆ เข้าไ​ว้ด​ ้วยก​ ันเ​พื่อก​ าร​
ศึกษาร​ อบด​ ้านเพื่ออ​ ธิบายค​ วามส​ ุข และส​ ร้างส​ ุขข​ องค​ น โดยเ​น้นก​ ารค​ ำนึงผ​ ลกร​ ะท​ บด​ ้านส​ ังคมร​ อบต​ ัวต​ ่างๆ ทีม่​ ตี​ ่อค​ น​
ทั้งใ​นแ​ ง่​ความส​ ัมพันธ์​ระหว่างม​ นุษย์ก​ ับม​ นุษย์ และ​มนุษย์ก​ ับส​ ิ่ง​แวดล้อม ซึ่ง​เป็นการพ​ ิจารณา​แบบ​บูรณ​าก​ าร​มากข​ ึ้น​
กว่า​ในย​ ุคแ​ รก รวม​ทั้งย​ ังไ​ด้ค​ ำนึงถ​ ึง​การพ​ ัฒนาส​ ุขภาพ​จิตใ​น​เชิง​สร้างสรรค์​เพื่อ​สร้างส​ ุข​อีก​ด้วย

                             ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73