Page 267 - การจัดการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
P. 267
การจัดการก ารผ ลิตไม้ใบกระถาง 14-41
ฤดูฝน ส่วนบอนที่ปลูกในกระถาง ควรนำมาเก็บในที่ร่ม งดให้น้ำ จนถึงฤดูฝนจึงนำออกมารับน้ำและแสงแดดรำไร
บอนจ ะแตกใบใหม่เจริญต่อไป
5.3.5 การปอ้ งกนั กำจดั ศ ัตรูพชื บอนสีไม่ค ่อยมีปัญหาเรื่องโรคแ ละแ มลง แต่หากใบถูกทำลายจากโรค
หรือถ ูกแมลงก ัดก ิน จะทำให้ข าดความงดงาม และอาจล ุกลามไปยังต้นอ ื่นได้ด้วย
1) โรคทีส่ ำคญั มีด ังนี้
(1) โรคราเม็ดผ ักกาด (stem rot) เชื้อสาเหตุ Sclerotium rolfsioi Sacc.
(1.1) ลักษณะอ าการ เชื้อราเข้าท ำลายบ ริเวณโคนต้น บริเวณท ี่ถูกท ำลายจ ะเปลี่ยน
เป็นสีเหลืองแ ละส ีน ้ำตาลไหม้ต ามลำดับ ถ้าม ีความชื้นสูงมากๆ จะพ บเส้นใยสีข าวแ ผ่ปกคลุมโคนต้น พร้อมกับม ีเม็ด
ขนาดเล็กกลมๆ สีขาว ต่อม าเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และสีน ้ำตาลค ล้ายเมล็ดผักกาด เรียก ส เคลอโรเทีย (sclerotia) เกิด
จากก ลุ่มของเส้นใยของเชื้อราอ ัดตัวกันแ น่นแ ล้วส ร้างผ นังมาห่อหุ้มไว้
(1.2) การแพร่ระบาด มักแ พร่ระบาดท ำความเสียหายม ากในช่วงฤ ดูฝ น หรือช่วงท ี่
มีความชื้นสูง เชื้อราจะแ พร่ก ระจายไปกับลมและน้ำ และเม็ดสเคลอโรเทียสามารถทนทานต่อการท ำลายของสารเคมี
และม ีช ีวิตอยู่ได้เป็นเวลาน านในส ภาพแวดล้อมท ี่ไม่เหมาะส ม โดยเชื้อสาเหตุมักอาศัยอ ยู่บริเวณผิวด ิน หรือติดไปก ับ
ต้นพ ันธุ์ นอกจากน ั้น การใช้ส ารด ูดซ ึมก ลุ่มเบโนม ิล (Benomyl) ติดต่อก ันเป็นเวลาน านๆ จะเป็นต ัวก ระตุ้นให้เกิดโรค
ดังก ล่าวได้ง่าย
(1.3) การป้องกันก ำจัด
(1.3.1) หากพ บว า่ เปน็ โรค ใหเ้ กบ็ ร วบรวมแ ลว้ เผาท ำลาย ไมใ่ หเ้ ปน็ แ หลง่ ส ะสม
ของเชื้อโรค
(1.3.2) ใช้สารป้องกันก ำจัดโรคพ ืช เช่น คาร์บ อกซ ิล หรืออีทริไดอะโซล และ
หากม ีก ารใช้เบนโนมิล ต้องไม่ใช้เดี่ยวๆ อาจใช้ร ่วมกับ แคปแ ทนหรือแมนโคเซป
(1.3.3) ต้นพ ันธุ์ และวัสดุท ี่ใช้เป็นเครื่องปลูก ต้องส ะอาดป ราศจากโรค โดย
เฉพาะเครื่องป ลูกไม่ควรวางบ นผิวด ินในช่วงฤ ดูฝ น เพราะเชื้อสาเหตุอ าจติดม ากับเครื่องปลูกได้
(2) โรคโคนเน่า (fusarium foot rot) เชื้อส าเหตุ เกิดจ ากเชื้อราห ลายชนิด ส่วนใหญ่เกิด
จากเชื้อรา Fusarium oxysporum F. moniliforme
(2.1) ลักษณะอ าการ เชื้อราจะเข้าท ำลายท างร ากห รือท างต าห น่อตรงโคนต ้น ทำให้
เกิดอ าการโคนเน่าอย่างช ้าๆ ใบเหี่ยว ทรุดโทรม และต ายในที่สุด
(2.2) การป้องกันกำจัด
(2.2.1) นำส่วนที่เป็นโรคพร้อมเครื่องปลูกบริเวณที่เป็นโรคไปเผาทิ้งเพื่อ
ทำลายแหล่งเพาะเชื้อโรค
(2.2.2) ใช้ปูนข าวโรยบริเวณหลุมดินที่เป็นโรค
(2.2.3) ใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชกลุ่มควินโทซีน (quintozene) หรือควิน
โทซ ีน + อีท ริไดอะโชล (quintozene + etridiazole)
(3) โรคใบไหม้ (leaf blight) ใบจ ุด ( leaf spot)
(3.1) ลักษณะอ าการ มักเกิดจากส ภาพป ลูกม ีความชื้นต่ำ มีแ ดดส่องม าก ประกอบ
กับได้ร ับน้ำไม่เพียงพ อ ทำให้ใบหยาบก ร้าน เกิดเป็นร อยไหม้ขึ้น
ลิขสิทธ์ขิ องมหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช