Page 27 - การจัดการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
        P. 27
     การจ ัดการก ารผ ลิตไม้ต ัดใบ 6-25
       จำนวนเกษตรกรท ี่เข้าร ่วมโครงการก ับศ ูนย์พ ัฒนาโครงการห ลวงห ้วยโป่ง เพื่อผ ลิตเฟิร์นใบห นังม ีจำนวนท ั้ง
สิ้น 7 ราย พื้นที่ผลิตเฉลี่ย รายละ 2 งาน มีรายได้จ ากก ารจ ำหน่ายเฟิร์นใบหนังให้ก ับโครงการหลวง โดยส ่งเข้าโรงงาน
คัดบ รรจุเพื่อจ ำหน่ายใบสดและส ่งจำหน่ายให้ก ับโรงงานด อกไม้แห้ง ตั้งแต่ป ี พ.ศ. 2547-2551 เป็นดังนี้
ตารางท ่ี 6.6 ปรมิ าณผ ลผลติ แ ละร ายไ ดข้ องเกษตรกรท เ่ี ขา้ ร ว่ มโครงการป ลกู เฟริ น์ ใบห นงั ก บั ศ นู ยพ์ ฒั นาโครงการห ลวงห ว้ ยโปง่
ปี พ.ศ.         โรงงานคัดบรรจุ          โรงงานดอกไม้แหง้             รวมรายได้
         ปริมาณ (ใบ) รายได้ (บาท)  ปรมิ าณ (ใบ) รายได้ (บาท)          (บาท)
2547 226,520  167,671              115,780                   84,344  252,015
2548 354,050  236,479              120,760                   88,154  324,633
2549 265,870  171,073              109,720                   80,722  251,795
2550 311,710  173,325              134,380                   80,442  253,767
2551 344,020  205,588              134,630                   95,412  301,000
ที่มา: ดัดแปลงจากมูลนิธิโครงการหลวง
       	
       จะเห็นได้ว่าเกษตรกร 7 ราย ที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการปลูกเฟิร์นใบหนังบนพื้นที่ 2 งาน เฉลี่ย
รายละประมาณ 40,000 บาท ต่อปี
5. 	ปญั หาในก ารจดั การการผ ลิตเฟิรน์ ใบหนงั แ ละแ นวทางการแ กไ้ ข
       5.1 	ปญั หาในก ารจ ดั การก ารผ ลติ เฟริ น์ ใบห นงั   ปญั หาท สี่ ำคญั ในก ารผ ลติ ค อื เฟริ น์ ใบห นงั เจรญิ เตบิ โตร วดเรว็
ใหผ้ ลผลิตใบม าก ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายนป ระกอบก ับเป็นช ่วงเวลาท ีม่ คี วามต ้องการใช้ใบข องผ ูบ้ ริโภคน ้อย มี
ผลทำให้ราคาถ ูกลงโดย เกรด Extra ลดลงเหลือกำละ 8 บาท ขณะที่ในช ่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นช ่วงเวลาที่
มีค วามต ้องการเฟิร์นใบห นังส ดมาก แต่ผ ลผลิตม ีป ริมาณน้อย ทั้งนี้เนื่องม าจาก ในช่วงฤดูฝ น ระหว่างเดือนกันยายน
และตุลาคม มักเกิดปัญหาใบเน่า และเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งและอากาศหนาวเย็น เฟิร์นใบหนังเจริญเติบโตช้าผลผลิตต่ำ
ทำให้ มีร าคาสูงถึงก ำละ 24 บาท
       5.2 	แนวทางก ารแกไ้ ขป ัญหา
            - ทดสอบป ลูกเลี้ยงในโรงเรือนป ิด เพื่อท ี่จ ะได้ท ดลองก ารค วบคุมอ ุณหภูมิแ ละค วามชื้น เพื่อบ ังคับให้
เฟิร์นใบหนังเจริญเติบโตและให้ใบในช่วงที่ม ีค วามต้องการใช้สูง
            - แนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาเฟิร์นใบหนังตกต่ำ เนื่องจากมีความต้องการใช้น้อย ควรศึกษา
การนำมาแปรรูปใช้ประโยชน์ ดังเช่นการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ไม้ประดับแห้ง ซึ่งเป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าของเฟิร์น
ใบห นัง โดยโครงการหลวงได้ทำการร ับซื้อเพื่อน ำม าแปรรูปแ ละจำหน่าย ในราคาใบล ะ 5 บาท โดยในปี พ.ศ. 2551 มี
ยอดจ ำหน่ายถึง 139,687 ใบ
       	
	
              ลขิ สิทธิข์ องมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช





