Page 29 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 29
2-19
เรือ่ งท ่ี 2.2.1 ทฤษฎีกล่มุ พฤติกรรมน ยิ ม
สาระส งั เขป
ทฤษฎกี ลุม่ พฤตกิ รรมน ยิ ม (Behaviorism) มชี ือ่ ห ลายช ือ่ เชน่ Associationism หรอื S-R Theories
ส่วนในชื่อภ าษาไทย เรียกว ่าท ฤษฎีกลุ่มส ัมพันธ์ต ่อเนื่อง หรือคุ้นเคยก ันในชื่อว่า ทฤษฎีสิ่งเร้าแ ละก ารต อบ
สนอง ทฤษฎนี ีอ้ ธิบายว ่า พื้นฐ านก ารกร ะท ำ�ซึ่งเป็นผ ลม าจ ากก ารเรียนร ูข้ องแ ต่ละบ ุคคล ไดร้ ับอ ิทธิพลม าจ าก
สิ่งแวดล้อม หน้าที่ของผู้ส อน คือ คอยเป็นผู้จัดป ระสบการณ์ก ารเรียนร ู้ให้ก ับผ ู้เรียน ในส่วนของก ารเรียนร ู้
ทำ�อย่างไรจ ะให้ผู้เรียนม ีการเปลี่ยนพฤติกรรม อันมีผลมาจากประสบการณ์ท ี่ได้รับหรือม ีการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมในการเรียนรู้จากลักษณะไม่พึงประสงค์มาเป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ อันจะทำ�ให้การเรียน
การสอนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด แนวคิดในกลุ่มนี้ให้ความสำ�คัญกับเรื่องแรงจูงใจเป็นสำ�คัญ โดยอธิบาย
ไวว้ า่ แรงจ งู ใจเกดิ จ ากแ รงข บั หรอื ค วามต อ้ งการท างด า้ นร า่ งกาย ซึง่ เชือ่ มโยงก บั อ าหารท ไี่ ดร้ บั ซึง่ ถ อื วา่ เปน็ การ
เสริมแ รง ในท างการศ ึกษาเด็กจ ะไดร้ ับก ารกร ะต ุ้นใหเ้รียน เพราะอ ยากไดร้ ับคำ�ชมจ ากค รู เพราะว ่าในช ่วงแ รก
ของชีวิต เด็กจะคุ้นเคยกับการได้รับคำ�ชมจากแม่ในช่วงที่กินข้าว ซึ่งเชื่อมโยงกับการตอบสนองความหิว
ของเด็ก เป็นการเน้นเกี่ยวก ับพฤติกรรมภ ายนอกท ี่ส ังเกตได้ นักจิตวิทยากลุ่มน ี้ส นใจเฉพาะอ งค์ประกอบที่
สามารถส ังเกตเห็นได้ ไม่ส นใจการท ำ�งานข องกระบวนการท างส มอง ซึ่งเป็นสิ่งท ี่ม องไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ แต่
เชื่อว่าการเรียนร ู้ค ือ การเชื่อมโยงร ะหว่างส ิ่งเร้า (stimulus) กับการตอบสนอง (response)
ทฤษฎีกลุ่มพฤติกรรมน ิยมน ำ�มาใช้ในการจัดการเรียนการส อน ได้ด ังนี้
1. ผู้ส อนค วรน ำ�ความต้องการทางธ รรมชาติของผ ู้เรียนหรือส ิ่งท ี่ผ ู้เรียนช อบม าให้เป็นส ิ่งเร้าในก าร
จัดการเรียนรู้และให้รางวัลผ ู้เรียน เป็นการเสริมแรง จะท ำ�ให้ผ ู้เรียนเกิดการเรียนร ู้ได้ด ีขึ้น
2. ผู้ส อนค วรเสนอส ิ่งที่จะส อนไปพ ร้อม ๆ กับสิ่งเร้า เพื่อท ำ�ให้ผ ู้เรียนเกิดค วามสนใจ
3. ผู้สอนควรเสนอสิ่งเร้าในการสอนให้ชัดเจน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และตอบสนองได้
ชัดเจนข ึ้น
4. การนำ�สิ่งที่เคยส อนกลับมาส อนใหม่ จะท ำ�ให้ผ ู้เรียนเกิดการเรียนร ู้ได้ด ีข ึ้น
5. ผู้สอนควรจัดกิจกรรมการเรียนให้ต่อเนื่องและคล้ายคลึงกันระหว่างประสบการณ์เดิมและ
ประสบการณ์ใหม่ จะช ่วยให้ผ ู้เรียนเกิดก ารเรียนร ู้ได้ง่ายขึ้น
6. หากต ้องการให้ผ ู้เรียนเกิดพ ฤติกรรมใด ควรม ีสิ่งเร้าห ลายแ บบ แต่ควรเป็นส ิ่งเร้าท ี่ม ีการต อบ
สนองโดยไม่มีเงื่อนไขค ู่กันไปด้วย
(โปรดอา่ นเนอ้ื หาสาระโดยล ะเอียดในประมวลส าระชุดว ิชาหนว่ ยท่ี 2 ตอนท ี่ 2.2 เรอ่ื งท ี่ 2.2.1)