Page 19 - หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
P. 19
กฎหมาย หลักธรรมาภิบาล คุณธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู 12-9
2. ความสำ� คญั ของกฎหมาย
กฎหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐก�ำหนดข้ึน เพื่อใช้ในการควบคุมพฤติกรรมของประชาชนให้อยู่ในกรอบ
ท่ีรัฐเห็นว่าเหมาะสม ในประเทศท่ีมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้มีหน้าที่ออกกฎหมาย คือ รัฐสภา
ซ่ึงประกอบด้วยตัวแทนของประชาชนในส่วนต่าง ๆ ของประเทศ ส่วนในประเทศท่ีมีการปฏิวัติรัฐประหาร
หรือประเทศที่มิได้ปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้ออกกฎหมายมักจะเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติผู้ที่ยึดอ�ำนาจ
ได้ซ่ึงเป็นผู้มีอ�ำนาจสูงสุด โดยท่ัวไปกฎหมายท่ีออกมาใช้บังคับแล้วจะมีผลบังคับใช้ตลอดไปจนกว่าจะถูก
ยกเลิกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงในภายหลัง กฎหมายที่ออกมาจะใช้บังคับกับประชาชนทุกคนท่ีอยู่ในอาณาเขต
ของรัฐนั้น ๆ โดยไม่เลือกว่าเป็นชนชาติใด ภาษาใด ท้ังน้ีเพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุข ผู้ท�ำผิด
กฎหมายมักจะถูกลงโทษตามท่ีกฎหมายก�ำหนด โดยไม่สามารถอ้างเหตุว่าไม่รู้กฎหมายได้
ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของ
ประเทศ มีรัฐสภาท�ำหน้าท่ีบริหารประเทศ เพื่อให้การบริหารประเทศและการอยู่ร่วมกันของประชาชนเป็นไป
อย่างมีระบบระเบียบ และมีความชัดเจนในการประพฤติปฏิบัติตนในสังคมของคนในชาติ รัฐสภาจึงตรา
กฎหมายต่าง ๆ ข้ึนหลายฉบับ ดังน้ัน จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนท่ีต้องศึกษากฎหมายที่บังคับใช้อยู่
ในปัจจุบัน เพ่ือให้สามารถด�ำเนินชีวิตของตนด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายท่ีบัญญัติข้ึนไว้แล้วอย่างถูกต้อง
และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
3. ประเภทของกฎหมาย
หากจะแบ่งประเภทของกฎหมายตามลักษณะความสัมพันธ์หรือตามข้อความของกฎหมาย จะแบ่ง
ไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คอื กฎหมายมหาชน (Public Law) กฎหมายเอกชน (Private Law) และกฎหมายระหวา่ ง
ประเทศ
การแบ่งกฎหมายออกเป็นกฎหมายมหาชนและกฎหมายเอกชนนั้น มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา
4 ประการ ได้แก่ เกณฑ์องค์กร เกณฑ์วัตถุประสงค์ เกณฑ์วิธีการในการก่อนิติสัมพันธ์ และเกณฑ์เน้ือหา
เกณฑ์องคก์ ร ยึดถือตัวบุคคลผู้ก่อนิติสัมพันธ์เป็นเกณฑ์ ท้ังน้ี กฎหมายมหาชนจะใช้บังคับกับนิติ
สมั พนั ธท์ กี่ อ่ ขนึ้ ระหวา่ งรฐั หรอื หนว่ ยงานของรฐั กบั เอกชน หรอื ระหวา่ งหนว่ ยงานของรฐั ดว้ ยกนั เอง กฎหมาย
เอกชนใช้บังคับกับนิติสัมพันธ์ท่ีก่อข้ึนระหว่างเอกชนด้วยกันเท่าน้ัน
เกณฑว์ ตั ถปุ ระสงค์ ยึดถอื จดุ ประสงค์ของนิติสัมพนั ธ์ทผ่ี ้กู ่อนิติสมั พนั ธท์ งั้ สองฝา่ ยท�ำขน้ึ เป็นเกณฑ์
กล่าวคือ กฎหมายมหาชนใช้บังคับนิติสัมพันธ์ที่มีวัตถุประสงค์เพ่ือประโยชน์สาธารณะ (Public Interest)
คือ เพ่ือสนองความต้องการของประชาชนส่วนรวมนั่นเอง เช่น สัญญาสัมปทานท่ีรัฐท�ำกับเอกชนเพ่ือจัดท�ำ
สาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น กฎหมายเอกชนใช้บังคับกับนิติสัมพันธ์ท่ีมุ่งถึงผลประโยชน์ของตน ไม่ว่าจะ
เป็นทรัพย์สิน เงินทอง ช่ือเสียง เกียรติยศของบุคคลนั้น ๆ เองเป็นหลัก
เกณฑ์วิธีการในการก่อนิติสัมพันธ์ เป็นเกณฑ์ที่ท�ำให้กฎหมายท้ังสองลักษณะน้ีแตกต่างกัน
โดยสิ้นเชิง กล่าวคือ กฎหมายมหาชนใช้ส�ำหรับนิติสัมพันธ์ที่ไม่ต้องอาศัยความสมัครใจของคู่สัญญาอีก
ฝ่ายหนึ่ง (เอกชน) เลย รัฐสามารถออกค�ำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตได้ และถ้ามีการฝ่าฝืน รัฐสามารถบังคับ