Page 18 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 18
4-8 ความรูท้ างสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรบั นกั นิเทศศาสตร์
กลมุ่ ทสี่ อง การเมอื งเปน็ เรอื่ งของการจดั สรรทรพั ยากรของรฐั หรอื สงิ่ ทม่ี คี ณุ คา่ ทางสงั คม
ซ่งึ จะใชค้ วามหมายการเมอื งดงั กลา่ วน้ีไดก้ ต็ อ่ เมอื่ ในสงั คมนัน้ ๆ บคุ คลหรอื กลุ่มบุคคลที่เกยี่ วขอ้ งทไ่ี ดร้ ับ
ผลกระทบจากทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม มคี วามเหน็ พอ้ งตอ้ งกนั และยอมรบั ในกตกิ าทก่ี ำ� หนดการใชอ้ ำ� นาจ
เพอ่ื แบง่ ปนั สง่ิ ที่มคี ุณค่าร่วมกัน สว่ นในสงั คมท่ยี งั ไมม่ คี วามเหน็ พ้องต้องกันเกีย่ วกับกติกาการกำ� หนดส่งิ
ทม่ี ีคุณคา่ ในสังคม การเมืองยงั คงเป็นเรอ่ื งของการแข่งขันกนั เพ่ือกำ� หนดหลกั เกณฑใ์ นการแบ่งปันคณุ ค่า
ทใ่ี หป้ ระโยชนแ์ กฝ่ า่ ยตนมากทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะเปน็ ได้ โดยนยั เชน่ น้ี การเมอื งจงึ มสี องระดบั ระดบั แรกคอื การเมอื ง
อยู่ภายใต้การแข่งขัน ขัดแย้งของฝ่ายต่างๆ เพื่อให้ได้มาซ่ึงอ�ำนาจทางการเมืองที่ทุกๆ ฝ่ายยอมรับได้
ส่วนระดับท่ีสองดูจะยอมรับในจุดเน้นว่ารัฐเป็นการรวมกันหรือประกอบกันของกลุ่มหลากหลายในสังคม
และรัฐไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการบริหาร และไม่ได้เป็นตัวกระท�ำทางการเมือง (actors) ที่จะช้ีน�ำการ
เปลย่ี นแปลงทางสงั คมและเศรษฐกจิ แตร่ ฐั เปน็ เพยี งรฐั บาล (state as government) ทท่ี ำ� หนา้ ทเี่ พยี งเออ้ื
อำ� นวยความสะดวกในการแข่งขันกนั ของกลุม่ หลากหลายเท่านน้ั
กลุ่มที่สาม การเมืองเป็นเร่ืองของความขัดแย้ง ท้ังนี้เนื่องจากทรัพยากรของชาติท่ีมีอยู่
อยา่ งจำ� กดั ขณะทผ่ี คู้ นซง่ึ ตอ้ งการใชท้ รพั ยากรนน้ั มอี ยมู่ ากและความตอ้ งการใชไ้ มม่ ขี ดี จำ� กดั การเมอื งจงึ
เปน็ เรอื่ งทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การทคี่ นในสงั คมไมอ่ าจตกลงกนั ไดห้ รอื เกดิ มคี วามขดั แยง้ ขนึ้ อยา่ งไรกด็ ี การมอง
การเมืองในลักษณะนี้มีข้อโต้แย้งอยู่มากว่า หากไม่อาจยุติข้อขัดแย้งท่ีเกิดขึ้นได้ บ้านเมืองย่อมตกอยู่ใน
สภาวะยงุ่ ยากวนุ่ วาย ตอ่ มาจงึ มผี ขู้ ยายมมุ มองการเมอื งใหมว่ า่ เปน็ เรอ่ื งของการประนปี ระนอมความขดั แยง้
มากว่าเปน็ เรื่องของความขัดแยง้
กลุ่มท่ีส่ี การเมืองเป็นเรื่องของการประนีประนอมผลประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด
ความขดั แย้งจากการด�ำเนนิ งานทางการเมืองท่ไี ม่มีทางออก
กลุ่มที่ห้า การเมืองเป็นเร่ืองที่เก่ียวกับรัฐและการบริหารประเทศ ในกิจกรรมหลกั 3 ด้าน
คอื งานทเี่ กย่ี วกบั รฐั การบรหิ ารประเทศในสว่ นทเ่ี กยี่ วกบั นโยบาย และการอำ� นวยการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
ซ่ึงเป็นการควบคุมให้มีการด�ำเนินงานตามนโยบาย ซึ่งหากพิจารณาให้ละเอียดแล้ว การเมืองโดยนัยนี้
เป็นเรื่องที่คาบเกี่ยวกับการเมืองในความหมายเชิงอ�ำนาจ เพราะอ�ำนาจทางการเมืองได้ถูกน�ำไปใช้ผ่าน
กระบวนการนโยบายและการแต่งต้ังคัดสรรผู้น�ำนโยบายไปปฏิบัติ (ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ) ใน
รูปของอ�ำนาจและการปฏิบัติงานทางการปกครอง และแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความสมั พนั ธ์ระหว่างการเมืองและ
การบรหิ ารหรอื การปกครองทยี่ ากจะแยกออกจากกันได้
กลมุ่ ทห่ี ก การเมอื งเปน็ เรอ่ื งของการกำ� หนดนโยบายของรฐั กลา่ วคอื การเมอื งคอื กจิ กรรม
ใดๆ ที่เกี่ยวกับการก�ำหนดนโยบาย หน่วยงานและเคร่ืองมือต่างๆ ที่ใช้ในการก�ำหนดนโยบาย โดยนัย
หน่ึง การเมืองกค็ ือกระบวนการกำ� หนดนโยบายของรฐั นัน่ เอง
1.2 การปกครอง คือ เร่ืองเก่ยี วกบั การบริหาร วางระเบยี บ กฎเกณฑส์ �ำหรบั สงั คมเพือ่ ให้สังคม
มคี วามสงบสขุ หรอื เพอื่ ใหเ้ กดิ การบำ� บดั ทกุ ข์ บำ� รงุ สขุ โดยการใชอ้ ำ� นาจของรฐั เขา้ จดั ระเบยี บและควบคมุ
สังคม
การปกครองมหี ลายรปู แบบ เชน่ การปกครองแบบประชาธปิ ไตย และการปกครองแบบเผดจ็ การ
นอกจากน้ีการปกครองยังมีได้หลายระดับ เช่น การปกครองส่วนกลาง การปกครองส่วนภูมิภาค และ