Page 19 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 19
ความรูด้ ้านการเมอื งการปกครอง 4-9
การปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ซงึ่ ในสงั คมของแตล่ ะประเทศมคี วามแตกตา่ งกนั ในพนื้ ฐานดา้ นสงั คม วฒั นธรรม
ประเพณี ความเชอื่ วถิ ชี วี ติ การทจี่ ะปกครองประเทศใหม้ คี วามสงบสขุ ไดน้ น้ั จะตอ้ งมวี ธิ กี ารทแ่ี ตกตา่ งกนั
ไปจึงท�ำให้เกิดระบบการปกครองที่แตกต่างกัน เพอื่ ให้เหมาะสมในแตล่ ะสังคม
เพลโต และอรสิ โตเติล ปรมาจารยท์ างทฤษฎีการเมืองชาวกรกี ได้แบ่งรปู แบบการปกครองโดย
พจิ ารณาจากจำ� นวนผูเ้ ป็นเจ้าของอำ� นาจอธิปไตยดงั นี้
1) การปกครองโดยคนคนเดียวหรือ “เผด็จการ” หมายถงึ ระบบการปกครองทคี่ นๆ เดยี ว
มีอ�ำนาจอธิปไตยหรืออ�ำนาจสูงสุดเหนือบุคคลท้ังหลายโดยเด็ดขาด ซ่ึงประชาชนไม่สามารถควบคุมและ
ถอดถอนผู้ปกครองได้ ในระยะแรกมักมีรูปแบบการปกครองแบบ “ราชาธิปไตย” ท่ีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือ
ประชาชนแต่ต่อมามักจะแปรเปล่ียนเป็น “ทขุ นาธไิ ตย” หรอื “ทรราช” ทม่ี ีจดุ มุ่งหมายเพ่อื ผปู้ กครองจงึ
เปน็ การปกครองโดยเผด็จการ
2) การปกครองโดยคณะบุคคล หรือ “เผด็จการโดยคณะบุคคล” หมายถึง ระบบการ
ปกครองท่ีบุคคลคณะหน่ึงสามารถวางหรือก�ำหนดกฎเกณฑ์การบริหารประเทศได้ตามท่ีกลุ่มของตน
ปรารถนา ซงึ่ หากมจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ บำ� บดั ทกุ ขบ์ ำ� รงุ สขุ ใหร้ าษฎรกจ็ ะเปน็ รปู การปกครองแบบ “อภชิ นาธปิ
ไตย” หากมจี ดุ ม่งุ หมายเพ่อื ประโยชนข์ องพรรคพวกกจ็ ะเป็นรูปการปกครองแบบ “คณาธปิ ไตย”
3) การปกครองโดยคนทง้ั หมดหรอื เสยี งสว่ นใหญ่ หมายถงึ ระบบการปกครองทปี่ ระชาชน
เปน็ เจา้ ของอำ� นาจอธปิ ไตย ได้แก่ รปู แบบการปกครองแบบประชาธิปไตยซ่งึ มจี ดุ ม่งุ หมายเพ่อื ประชาชน
แตห่ ากมจี ดุ มุ่งหมายเพื่อผู้ปกครอง รูปแบบการปกครองกจ็ ะแปรเปลย่ี นเป็นการปกครองโดยฝงู ชน ซ่งึ มี
สภาพใกล้เคียงกับอนาอธิปไตย คือ สภาพแห่งการไม่มีรัฐบาลหรือไม่มีกฎหมายและสังคมมีแต่ความ
ระส่ำ� ระสาย ไมม่ คี วามสงบสขุ
1.3 การเมืองการปกครอง จงึ เปน็ การศกึ ษาเรอ่ื งเกยี่ วกบั การวางระเบยี บกฎเกณฑใ์ นการบรหิ าร
บา้ นเมอื งของรฐั โดยใชอ้ ำ� นาจทางการเมอื งเปน็ เครอื่ งมอื เพอ่ื ใหม้ นษุ ยม์ ที ง้ั ความสขุ ทง้ั ในความหมายของ
วตั ถุธรรมและนามธรรม คือ สขุ ทงั้ รา่ งกายและจิตใจ
การเมอื งการปกครองซงึ่ เปน็ สภาพการณแ์ ละผลทเี่ กดิ จากการกระทำ� ของมนษุ ย์ จงึ เปน็ สงิ่ ทเ่ี กย่ี ว-
ขอ้ งสมั พนั ธก์ บั ชวี ติ ของมนษุ ยอ์ ยา่ งไมอ่ าจปฏเิ สธได้ จงึ เปน็ ธรรมดาอยเู่ องทผ่ี ใู้ ดกต็ ามจำ� เปน็ ตอ้ งใหค้ วาม
สนใจกบั เรอื่ งการเมอื งการปกครองไมท่ างใดกท็ างหนง่ึ สงิ่ ทอ่ี อกมาจากสถาบนั ทางการเมอื ง ไมว่ า่ จะเปน็
ฝา่ ยนติ บิ ัญญตั ทิ ่ที ำ� หนา้ ที่ในการตรากฎหมายตา่ งๆ เพ่อื บงั คับใช้ หรือทมี่ าจากรฐั บาลในรปู ของนโยบาย
สาธารณะ โครงการพัฒนา และงานต่างๆ ที่ประกอบขึ้นหรือด�ำเนินไปโดยภาคราชการ รวมไปถึงการ
ตัดสินคดีความหรือข้อพิพาทท่ีเกิดขึ้นระหว่างบุคคลต่อบุคคล และบุคคลกับรัฐ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นเร่ือง
การเมืองทีส่ ่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างไม่อาจมองข้ามไปได้
ในขณะท่ีทรัพยากรหรือสิ่งท่ีมีคุณค่าในสังคมมีอยู่อย่างจ�ำกัด แต่ความต้องการของมนุษย์มีมาก
เกนิ ทำ� ใหก้ ารแกง่ แยง่ แขง่ ขนั ซงึ่ จะตอ้ งมผี ชู้ ข้ี าด ตดั สนิ หรอื มอี ำ� นาจบงั คบั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความยตุ ธิ รรมโดย
ใช้กฎ กติกา ข้อบังคบั หรือกฎหมายใดๆ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของมนษุ ยข์ องทกุ คนในรัฐ ซึ่งใน
ทางรฐั ศาสตรเ์ รยี กผทู้ ม่ี อี ำ� นาจนว้ี า่ รฐั าธปิ ตั ย์ หรอื องคอ์ ธปิ ตั ย์ (Sovereign) หรอื ผปู้ กครอง สว่ นอำ� นาจ
สูงสุดท่ีใช้ในการปกครองของรัฐหรือประเทศนั้นคืออ�ำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นอ�ำนาจเด็ดขาดและเต็มที่ท่ีจะ