Page 20 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 20

4-10 ความรทู้ างสังคมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรับนักนิเทศศาสตร์
บญั ญตั ิ บงั คบั และตดั สนิ กฎหมายสำ� หรบั ประชาชนภายในอาณาเขตของรฐั เปน็ อำ� นาจสงู ในการปกครอง
ประเทศ ประเทศทเี่ ปน็ เอกราชจะตอ้ งมอี ธปิ ไตยเปน็ ของตนเอง คอื สามารถทจี่ ะดำ� เนนิ กจิ การภายในหรอื
ภายนอกประเทศได้โดยอิสระไม่ถูกบังคับควบคุม หรือแทรกแซงโดยประเทศอื่น อ�ำนาจอธิปไตยมี
3 ประการคอื (1) อำ� นาจนติ บิ ญั ญตั ิ (รฐั สภา) คอื อำ� นาจในการออกกฎหมาย (2) อำ� นาจบรหิ าร (รฐั บาล)
คอื อำ� นาจในการนำ� กฎหมายไปบงั คบั ใช้ และ (3) อำ� นาจตลุ าการ (ศาล) คอื อำ� นาจในการตดั สนิ คดตี าม
กฎหมาย

2. 	 ความส�ำคัญของการเมืองการปกครอง

       ความส�ำคญั ของการเมืองการปกครองมี 3 ประการ คือ
       2.1 	การเมืองการปกครองเป็นวิถีชีวิตแบบหนึ่งของมนุษย์ในรัฐ การเมอื งการปกครองสำ� คญั ใน
แงข่ องการดำ� เนนิ ชวี ติ เชน่ การปกครองจะดำ� เนนิ ไปไดด้ ว้ ยดกี ต็ อ่ เมอื่ มกี ารรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของทกุ ฝา่ ย
เพอ่ื คน้ หาเหตผุ ลและความถกู ตอ้ งทแ่ี ทจ้ รงิ เพราะเหตผุ ลเทา่ นน้ั ทจ่ี ะจรรโลงใหร้ ะบบการเมอื งการปกครอง
ดำ� เนนิ ไปได้ การรจู้ กั การประนปี ระนอม ยอมรบั การแกไ้ ขปญั หาความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ไี มน่ ยิ มความรนุ แรง
ตอ้ งรจู้ กั ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื ไมย่ ดึ มน่ั หรอื ดงึ ดนั แตค่ วามคดิ เหน็ ของตนเองโดยไมย่ อมผอ่ นปรน
แกไ้ ข และตอ้ งยอมเปลยี่ นแปลงแก้ไขความคดิ เห็นของตนเองเม่อื ผูอ้ ่นื มคี วามคดิ เหน็ ทด่ี ีกวา่
       การปกครองไมป่ รารถนาใหม้ กี ารใชก้ ำ� ลงั และการลม้ ลา้ งดว้ ยวธิ กี ารรนุ แรง เพราะถา้ มกี ารใชก้ ำ� ลงั
และความรนุ แรงแล้ว แสดงใหเ้ ห็นวา่ มนษุ ย์ไม่มหี รือไม่ใช้เหตผุ ล ซึ่งกข็ ดั กับหลกั ความเช่ือขนั้ มลู ฐานของ
การปกครองแบบประชาธิปไตยท่ีถือว่ามนุษย์มีเหตุผล มีระเบียบวินัย คือ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของ
บา้ นเมอื งอยา่ งสมำ่� เสมอ และชว่ ยทำ� ใหก้ ฎหมายของบา้ นเมอื งมคี วามศกั ดสิ์ ทิ ธโ์ิ ดยไมย่ อมใหผ้ ใู้ ดมาละเมดิ
ตามอำ� เภอใจ แตถ่ า้ มคี วามรสู้ กึ วา่ กฎหมายทใ่ี ชอ้ ยไู่ มเ่ ปน็ ธรรมกต็ อ้ งหาทางเรยี กรอ้ งใหม้ กี ารแกไ้ ขกฎหมาย
นั้นมิใช่ฝ่าฝืนหรือไม่ยอมรับ การใช้เสรีภาพเกินขอบเขตจนละเมิดหรือก้าวก่ายในสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น
ย่อมท�ำให้เกิดความไม่สงบข้ึนในสังคมเพราะสังคมที่ไม่มีการจ�ำกัดในเร่ืองสิทธิเสรีภาพเลยน้ันหาใช่สังคม
ประชาธปิ ไตยไม่ แตเ่ ป็นสังคมอนาธปิ ไตยท่ีเปรยี บเสมือนไม่มรี ัฐบาล ไมม่ ีกฎหมาย ไรร้ ะเบียบวินัยทาง
สงั คมโดยสิ้นเชิง
       2.2 	มนุษย์ภายในรัฐไม่อาจหลีกหนีให้พ้นจากผลกระทบทางการเมืองได้ เราอาจเคยสงสยั และ
ต้ังค�ำถามว่า เหตุใดมนุษย์จึงต้องปกครองกัน ท�ำไมไม่ปล่อยให้มนุษย์อยู่กันเอง กระท่ังอาจเคยได้ยิน
ค�ำกล่าวที่ว่า การเมืองกับการปกครองเป็นเรื่องใกล้ตัว ซ่ึงหลายคนจ�ำเพาะในกลุ่มผู้ที่ขาดความสนใจต่อ
ความเป็นมาในกิจการทางการเมืองอาจฟงั ดูไมก่ ระจ่างนัก ว่าเป็นเรือ่ งใกลต้ วั ประการใด คำ� ตอบตอ่ ความ
สงสยั ขอ้ แรกนน้ั โยงใยไปถงึ ขอ้ ความตอ่ มากลา่ วคอื มนษุ ยน์ นั้ โดยธรรมชาตเิ ปน็ สตั วส์ งั คม ทตี่ อ้ งอาศยั อยู่
รวมกนั เปน็ กลมุ่ เปน็ หมคู่ ณะ เมอื่ มนษุ ยม์ าอยรู่ ว่ มกนั หากมไิ ดก้ ำ� หนดกตกิ าอะไรสกั อยา่ งขน้ึ มากำ� กบั การ
อยรู่ ว่ มกนั ของมนษุ ยแ์ ลว้ นนั้ มนษุ ยด์ ว้ ยกนั เองยงั เชอื่ วา่ นา่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความสบั สนวนุ่ วายขน้ึ ในสงั คมและ
การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ เน่ืองจากโดยธรรมชาติมนุษย์มีความป่าเถ่ือน ขลาดกลัวและไม่เป็นระเบียบ
ดังท่ี โธมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) นักปรัชญาการเมืองโบราณ ได้เคยกล่าวไว้ในผลงานปรัชญา
การเมอื งเลอื่ งชอื่ เรอ่ื ง “Leviathan” ตพี มิ พใ์ นปี ค.ศ. 1651 วา่ เมอ่ื มนษุ ยจ์ ำ� ตอ้ งอาศยั อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25