Page 22 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 22
4-12 ความรูท้ างสังคมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยสี �ำ หรบั นักนิเทศศาสตร์
2. ความส�ำคัญของการเมอื งการปกครองคอื ความสำ� คัญของการเมอื งมี 3 ประการ คอื
2.1 การเมืองการปกครองเป็นวถิ ีชีวติ แบบหนึง่ ของมนุษยใ์ นรฐั
2.2 มนษุ ย์ภายในรฐั ไม่อาจหลีกหนใี หพ้ ้นจากผลกระทบทางการเมอื งได้ และ
2.3 กจิ กรรมทางการเมอื ง จะนำ� ไปสกู่ ารใชอ้ ำ� นาจทางการเมอื งการปกครองเพอ่ื ออกกฎหมาย
พัฒนาประเทศ รวมทงั้ การแกป้ ัญหาของประเทศ
เร่ืองท่ี 4.1.2
ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองการปกครองกับสังคมและเศรษฐกิจ
ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองกับเศรษฐกิจ การเมืองเป็นแบบแผนของความสัมพันธ์ระหว่าง
มนษุ ยท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั อำ� นาจการปกครอง และการใชอ้ ำ� นาจ และเศรษฐกจิ เปน็ เรอ่ื งของการผลติ การจำ� หนา่ ย
จา่ ยแจกทรพั ยากรทมี่ อี ยอู่ ยา่ งจำ� กดั ใหแ้ กส่ าธารณชนเพอ่ื ความสมบรู ณพ์ นู สขุ แกส่ ว่ นรวม นกั เศรษฐศาสตร์
ยอมรับว่าความเจริญทางเศรษฐกิจมีอิทธิพลต่อระบบการเมืองของแต่ละสังคมเป็นอย่างย่ิง อริสโตเติลมี
ความเหน็ วา่ เสถียรภาพทางการเมอื งข้นึ อยกู่ บั สภาวะทางเศรษฐกิจมาก และได้เสนอรปู แบบการปกครอง
ทด่ี ที ส่ี ดุ คือ รปู แบบทเี่ รียกว่า มัชฌมิ วิถีอธิปไตย (Polity) คอื รปู แบบการปกครองท่มี ชี นช้นั กลางอย่ใู น
สงั คมจำ� นวนมาก เศรษฐกจิ กบั การเมอื งเปน็ สงิ่ ทเี่ กย่ี วพนั กนั อยา่ งแยกไมอ่ อก คอื ทง้ั การเมอื งและเศรษฐกจิ
ตา่ งก็มอี ิทธพิ ลตอ่ กนั
“เศรษฐกจิ ” คอื กจิ หรอื งานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การจดั การทรพั ยากรทม่ี อี ยา่ งจาํ กดั ดว้ ยวธิ ตี า่ งๆ เพอ่ื
สนองความตอ้ งการทไี่ มส่ น้ิ สดุ ของมนษุ ยใ์ หเ้ กดิ ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ และประหยดั ทส่ี ดุ สว่ น “การเมอื งการ
ปกครอง” เปน็ กระบวนการจดั สรรอาํ นาจตอ่ รองระหวา่ งกนั ในสงั คมภายใตค้ วามสมั พนั ธเ์ ชิงวฒั นธรรมใน
สังคมนัน้ ๆ เศรษฐกจิ ในสงั คมหนงึ่ ๆ จะเข้มแข็งหรือถดถอยเพียงใด กลไกทเ่ี ปน็ ตวั พยุงหรอื ผลักดนั คอื
ระบบการเมืองการปกครอง เพราะการเมืองในระบบทุนนิยมและระบบสังคมนิยม ก็ยังคงเป็นบุคคลท่ีถือ
พลงั อาํ นาจครอบครองปจั จยั การผลติ มากกวา่ เชน่ นายทนุ ในระบบการเมอื ง นายทนุ ในระบบการปกครอง
หรอื ชนช้ันสงู ในระบบการปกครอง ลว้ นเป็นผ้ทู ม่ี พี ลงั ความสามารถและศักยภาพพร้อม 3 ประการ ที่นํา
มาใช้เป็นพลงั อ�ำนาจตอ่ ความไดเ้ ปรยี บ เพ่อื ทำ� ใหเ้ กดิ ความมง่ั คง่ั ประกอบดว้ ย
1) การศกึ ษา (education) = “เพม่ิ พนู ปัญญา” เป็นหนทางสูค่ วามรงุ่ โรจน์ทางปญั ญา ทีไ่ ด้รบั
การฝึกฝนและพฒั นามาจากการแสวงหาความรู้วิชาการ (academic) ดว้ ยการใชท้ กั ษะการเรียนรู้ทีท่ �ำให้
เกดิ ความฉลาดหรอื เชาวนป์ ญั ญา (intelligence) แตก่ ารมกี ารศกึ ษาทด่ี ตี อ้ งเกดิ จากการกาํ หนดเปา้ หมาย
ท่แี นน่ อน