Page 63 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 63

ความรดู้ า้ นการเมอื งการปกครอง 4-53
       การจัดตั้งสถาบนั การเมอื งต่างๆ เป็นการกระจายการตดั สนิ ใจทางการเมอื งไปสู่กลุ่มเจ้านาย แต่
ข้ันตอนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็ต้องอยู่ท่ีพระมหากษัตริย์ตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ปัญหาทาง
ดา้ นการเมอื งทอ่ี ำ� นาจการปกครองตกอยใู่ นหมพู่ ระราชวงศ์ ทำ� ใหก้ ลมุ่ ขา้ ราชการรนุ่ ใหมๆ่ ทจ่ี บการศกึ ษา
จากต่างประเทศไม่พอใจ ปัญหาทางสังคม ได้แก่ ปัญหาทางชนชั้นซ่ึงก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง
พระราชวงศก์ บั กลมุ่ สามญั ชน ไดท้ รงพยายามแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งตา่ งๆ และพยายามกระจายความรบั ผดิ ชอบ
ในดา้ นการปกครองออกไปสคู่ ณะเสนาบดแี ละคณะสภาองคมนตรี
       รัชกาลที่ 7 ทรงสนับสนุนการปกครองที่มาจากประชาชน พระองค์จึงให้ความส�ำคัญต่อการ
ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในรปู ของเทศบาล และไดอ้ อกรา่ งพระราชบญั ญตั เิ ทศบาลฉบบั แรกขน้ึ เมอ่ื พ.ศ. 2473
แตย่ งั ไม่ทนั ไดป้ ระกาศใช้กเ็ กดิ การเปล่ียนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 เสยี กอ่ น
       นอกจากน้ียังทรงมีแผนทจี่ ะพระราชทานรฐั ธรรมนญู ในรชั กาลนมี้ ีการรา่ งรฐั ธรรมนญู ถงึ 2 ฉบับ
ฉบบั แรกคอื ร่างรัฐธรรมนูญของพระยากัลยาณไมตรี ฉบับท่สี องร่างเสรจ็ เมื่อวนั ที่ 9 มนี าคม พ.ศ. 2474
เพยี ง 3 เดอื นคร่งึ กอ่ นการเปลยี่ นแปลงการปกครอง
       แผนพัฒนาการปกครองของรัชกาลที่ 7 สน้ิ สดุ ลงเมอื่ มีการเปลีย่ นแปลงการปกครองจากระบอบ
สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยม์ าเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตย โดยมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงอยใู่ ตก้ ฎหมายเมอื่ วนั ท่ี 24
มถิ ุนายน พ.ศ. 2475
       สาเหตทุ ค่ี ณะราษฎรไ์ ดท้ ำ� การปฏิวตั ิเพ่ือเปลีย่ นแปลงระบบการปกครองมดี ังน้ี
       1) 	ความเส่อื มศรัทธาการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เริม่ เส่ือมลงตัง้ แต่สมยั รชั กาลท่ี
6 มาจนถึงสมยั รชั กาลที่ 7
       2) 	ประชาชนชาวไทยบางสว่ นไดร้ บั การศกึ ษาแบบตะวนั ตก ไดส้ ง่ นกั เรยี นไทยไปศกึ ษายงั ประเทศ
ตา่ งๆ ในยุโรป นอกจากวิชาความรู้แลว้ ยงั รับอิทธิพลความคิดวัฒนธรรมแบบตะวนั ตกกลบั มาด้วย
       3)	 อิทธิพลของส่อื มวลชน ก่อนการปฏวิ ตั ิ พ.ศ. 2475 ในกรุงเทพฯ มีการออกหนังสือพิมพ์ของ
เอกชนหลายฉบบั หนงั สอื พมิ พเ์ หลา่ นไี้ ดพ้ ากนั วพิ ากษว์ จิ ารณก์ ารบรหิ ารงานทบี่ กพรอ่ งของรฐั บาลอยบู่ อ่ ย
คร้งั อกี ทั้งยงั ยกย่องระบอบประชาธปิ ไตยอกี ด้วย
       4) 	เกดิ ภาวะเศรษฐกจิ ตกตำ่� ภายในประเทศอยา่ งรนุ แรง เศรษฐกจิ ของประเทศไทยเรมิ่ ตกตำ�่ ตงั้ แต่
ปลายรัชกาลท่ี 6 เน่ืองจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัชกาลที่ 6 ทรงใช้จ่ายเงินจ�ำนวนมาก เมื่อถึงสมัย
รชั กาลที่ 7 เศรษฐกจิ โลกตกตำ�่ อยา่ งรา้ ยแรง รชั กาลท่ี 7 ทรงดำ� เนนิ นโยบายประหยดั เงนิ ทกุ วถิ ที าง พวก
ทน่ี ยิ มระบอบประชาธปิ ไตยตา่ งกลา่ วหาวา่ เปน็ เพราะความบกพรอ่ งของระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ และ
คณะราษฎรได้อ้างเหตผุ ลนีใ้ นการยดึ อำ� นาจการปกครอง
       คณะราษฎรไดจ้ ดั ตั้งการปกครองประเทศตามนโยบายของคณะราษฎร 6 ประการ ได้แก่
       1) 	จะต้องรักษาความเป็นเอกราชท้ังหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทาง
เศรษฐกจิ ฯลฯ ของประเทศใหม้ ัน่ คง
       2) 	จะตอ้ งรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ การประทษุ ร้ายต่อกันให้ลดนอ้ ยลงใหม้ าก
       3) 	จะตอ้ งบำ� รงุ ความสมบรู ณข์ องราษฎรในทางเศรษฐกจิ โดยรฐั บาลใหมจ่ ะหางานใหร้ าษฎรทกุ ๆ
คนทำ�  จะวางเศรษฐกิจแหง่ ชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68