Page 29 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 29

ความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม 9-19
            2) 	การวัด (Measuring) คอื การเลอื กและการใชเ้ ครอื่ งมอื ทำ� การวดั หาปรมิ าณของสงิ่ ตา่ งๆ
ออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง เช่น การใช้ไม้บรรทัดไว้ขนาดหนังสือ การใช้
ตาชัง่ ช่งั นา้ํ หนกั สง่ิ ของ เป็นตน้
            3) 	การค�ำนวณ (Using Numbers) คือ การนับจ�ำนวนของวัตถุและการน�ำตัวเลขแสดง
จ�ำนวนทีน่ บั ไดม้ าคิดค�ำนวณ เช่น การนำ� ความกว้าง ยาวของสง่ิ ของมาคำ� นวณหาพน้ื ที่ เปน็ ตน้
            4) 	การจ�ำแนกประเภท (Classifying) คอื การแบง่ พวกหรอื เรยี งลำ� ดบั วตั ถุ หรอื สง่ิ ทอี่ ยใู่ น
ปรากฏการณ์โดยมีเกณฑ์ในการแบ่งประเภท เช่น การจ�ำแนกประเภทของสัตว์ตามที่อยู่อาศัย เป็นสัตว์
บก สัตว์น้ํา เปน็ ต้น
            5) 	การหาความสัมพันธ์เก่ียวกับพ้ืนท่ีหรือท่ีว่าง (Space Relationships) สเปซของวัตถุ
หมายถึง ท่ีว่างที่วัตถุนั้นครองที่ซ่ึงจะมีรูปร่างลักษณะเช่นเดียวกันวัตถุน้ันซึ่งก็คือมิติ โดยท่ัวไปแล้วจะมี
3 มิติ คือ ความกว้าง ความยาว และความสูง ความสัมพันธ์ของสเปซนั้นสามารถพิจารณาระหว่าง
สเปซกับสเปซ และสเปซกบั เวลาได้ด้วย เช่น สเปสของวตั ถุทเี่ ปลย่ี นไปเมอ่ื เวลาเปลยี่ นไป
            6) 	การจัดกระท�ำข้อมูลและส่ือความหมาย (Organizing) คือ การน�ำข้อมูลที่ได้จาก
การสังเกตการวัด การทดลอง และแหล่งอ่ืนๆ มากระท�ำเสียใหม่ เพ่ือให้ผู้อ่ืนสามารถเข้าใจความหมาย
ของชุดข้อมูลน้นั ไดง้ า่ ยขนึ้ เช่น การจัดทำ� เกี่ยวกบั สถติ ิการเกิดภยั พบิ ัตธิ รรมชาติหรอื แผน่ ดนิ ไหว เพ่ือใช้
ในการคาดการณ์หรอื เตรียมพรอ้ มรับมอื กบั ภัยธรรมชาติทีอ่ าจจะเกิดข้ึนในอนาคต เป็นตน้
            7) 	การลงความคิดเห็นจากข้อมูล (Inferring) คือ การเพ่มิ ความคดิ เหน็ ใหก้ ับขอ้ มลู ที่ได้
จากการสงั เกตอยา่ งมเี หตผุ ล โดยอาศยั ความร้หู รอื ประสบการณเ์ ดมิ ช่วย
            8) 	การพยากรณ์ (Predicting) คือ การสรุปค�ำตอบล่วงหน้าก่อนจะทดลองโดยอาศัย
ปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนซํ้าๆ หลักการ กฎ หรือทฤษฎีท่ีมีอยู่แล้วในเร่ืองนั้นๆ มาช่วยในการสรุปและ
คาดการณ์
       2.2 	ทักษะขั้นบูรณาการ 5 ทักษะ ประกอบไปดว้ ย
            1)	 การต้ังสมมติฐาน (Formulating Hypothesis) คอื การคิดคน้ หาคำ� ตอบล่วงหนา้ ก่อน
จะมีการทดลองโดยอาศัยการสังเกต ความรู้ ประสบการณ์เป็นพ้ืนฐาน โดยสมมติฐานอาจจะถูกหรือผิด
กไ็ ด้ซงึ่ จะทราบไดห้ ลงั จากที่มกี ารทดลองหาคำ� ตอบแล้ว เชน่ การตงั้ สมมตฐิ านว่าวัตถุตกจากทส่ี งู ลงลา่ ง
เป็นผลจากแรงโน้มถ่วงของโลก เปน็ ตน้
            2) 	การกำ� หนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร (Defining Operationally) คอื การกำ� หนดความหมาย
และขอบเขตของค�ำต่างๆ ให้เข้าใจตรงกันและสามารถสังเกตและวัดได้ เช่น แต่ละคนอาจนิยามค�ำว่า
“อากาศรอ้ น” ไมเ่ หมอื นกนั แตก่ ารนยิ ามใหท้ กุ คนเขา้ ใจตรงกนั และสามารถวดั ไดถ้ อื เปน็ การกำ� หนดนยิ าม
เชิงปฏิบัติการ ในกรณนี ีอ้ าจกำ� หนดให้อณุ หภูมิสงู กว่า 35 องศาเซลเซียสเรยี กว่า “อากาศร้อน” เป็นต้น
            3) 	การก�ำหนดและควบคุมตัวแปร (Identifying and Controlling Variables) คือ การ
ช้บี ง่ ตัวแปรตน้ ตัวแปรตาม และตวั แปรท่ตี อ้ งควบคมุ ในสมมตฐิ านหนึ่งๆ เชน่ การตง้ั สมมติฐานว่า การ
ออกกำ� ลงั กายจะชว่ ยลดนา้ํ หนกั โดยตวั แปรตน้ คอื การออกกำ� ลงั กาย ตวั แปรตามคอื นาํ้ หนกั สว่ นตวั แปร
ควบคุม คอื ระยะเวลาในการออกกำ� ลงั กายหรอื ปรมิ าณอาหารท่บี ริโภค เป็นตน้
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34