Page 18 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 18

14-8 การว​ ิจัย​ทางน​ ิเทศศาสตร์

       (2)		ประยกุ ตใ​์ ชเ​้ ปน็ ช​ อ่ งท​ างใ​หเ​้ หน็ ถ​ งึ ช​ อ่ งว​ า่ งท​ างค​ วามร​ ดู​้ า้ นน​ เิ ทศศาสตรท​์ ยี​่ งั ไ​มส​่ มบรู ณ์ ชว่ ยใ​หเ​้ หน็ ว​ า่ ม​ อ​ี ะไร​
ไดศ้​ กึ ษาไ​ปแ​ ลว้ บ​ ้าง ประเดน็ ใ​ดย​ งั ไ​มพ่​ บข​ อ้ ส​ รุปท​ สี่​ ามารถอ​ ธิบายค​ วามส​ ัมพันธข​์ องอ​ งคป์​ ระกอบต​ า่ ง ๆ ใ​นป​ รากฏการณ​์
ได้อ​ ย่างส​ มบูรณ์​ใน​บริบท​ต่าง ๆ

       (3)		ประยุกต์ใ​ช้เ​ป็นแ​ นวทางใ​นก​ ารก​ ำ�หนดร​ ะเบียบว​ ิธีว​ ิจัยข​ องต​ นเองไ​ด้อ​ ย่างเ​หมาะส​ ม ทำ�ให้ท​ ราบถ​ ึงการใ​ช​้
แนวทางก​ ารว​ ิจัย เครื่องม​ ือ การท​ ดสอบ และม​ าตรการอ​ ื่น ๆ ใ​นก​ ารเ​ข้าถ​ ึงข​ ้อมูล ทีใ่​ชอ้​ ย่างไ​ดผ้​ ลม​ าแ​ ล้วใ​นง​ านว​ ิจัยอ​ ื่น ๆ

       (4)		ประยุกต์​ใช้​ใน​การ​วิเคราะห์​และ​อภิปราย​ผล​งาน​วิจัย​ของ​ตนเอง เพื่อ​ให้​ข้อ​ค้น​พบ​มี​ความ​ชัดเจน​ให้​เห็น​
ผล​ที่ส​ อดคล้องแ​ ละ​แตก​ต่าง​กัน ผู้ว​ ิจัยต​ ้องเ​ทียบ​เคียง​ผล​การศ​ ึกษา​ของต​ นเอง​กับ​ผล​การ​ศึกษา​จากง​ าน​วิจัยข​ องผ​ ู้​อื่น​
ที่ศ​ ึกษา​ใน​ประเด็นท​ ี่​ใกล้​เคียง​กัน​เพื่อใ​ช้เ​ป็น​จุด​อ้างอิงใ​นก​ าร​ตีความ​ผล​การ​ศึกษาใ​ห้เ​ห็นจ​ ุด​เด่นท​ ี่​ค้นพ​ บอ​ ย่าง​ชัดเจน

       การนำ�​ข้อ​ค้น​พบ​ใน​การ​วิจัย​มา​ใช้​เพื่อ​ประโยชน์​ต่าง ๆ โดย​ส่วน​มาก​มัก​มุ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ที่​ข้อ​ค้น​พบ​ของ​งาน​
วิจัยเ​หล่าน​ ั้นว​ ่าเ​ป็นเ​ช่นไ​ร แต่​การนำ�​ข้อ​ค้น​พบเ​หล่าน​ ั้นม​ ากล​ ่าว​ อ้างห​ รือน​ ำ�​ไป​ใช้ป​ ระโยชน์​ใน​ด้าน​ใดน​ ั้น มี​ข้อค​ วรร​ ะวัง​
อยู่​หลาย​ประการ เพราะ​ผล​จาก​งาน​วิจัย​มิใช่​ว่า​จะ​ถูก​ต้อง​ไป​หมด​ทุก​อย่าง ผู้​ใช้​ข้อมูล​จาก​งาน​วิจัย​ควร​ใช้​ด้วย​ความ​
ระมัดระวัง​และ​รู้จัก​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​ประเมิน​คุณภาพ​ของ​งาน​วิจัย​ก่อน​นำ�​ข้อมูล​มา​ใช้​ประกอบ​การ​ตัดสิน​ใจ ดัง​นั้น​ใน​
การนำ�​ผล​การ​วิจัย​ใด​มา​ใช้​ประโยชน์​ผู้​วิจัย​ควร​ทำ�การ​ประเมิน​งาน​วิจัย โดย​มี​ประเด็น​ต่าง ๆ ใน​การ​ประเมิน​คุณภาพ​
งาน​วิจัย ดังนี้

       (1)	ศกึ ษาภ​ าพร​ วมง​ านว​ จิ ยั จ​ ากบ​ ทคดั ยอ่ โดยท​ ัว่ ไปเ​มื่อน​ ักว​ ิจัยด​ ำ�เนินง​ านว​ ิจัยส​ มบูรณแ์​ ลว้ จ​ ะต​ ้องท​ �ำ การส​ รุป​
สาระส​ ำ�คัญ​ของก​ ารว​ ิจัย​ครั้งน​ ั้น ๆ เป็น​บทคัดย่อห​ รือ​บาง​ครั้งใ​ช้​คำ�​ว่า​บทส​ รุป​ผู้​บริหาร ซึ่งเ​ป็น​เสมือน​ตัวแทนข​ องง​ าน​
วิจัย​ที่​ผู้​อ่าน​สามารถ​ใช้​เป็น​เครื่อง​มือ​ประกอบ​การ​ตัดสิน​ใจ​ใน​ชั้น​ต้น​ว่า​งาน​วิจัย​ชิ้น​นั้น​อยู่​ใน​ข่าย​ที่​ต้อง​พิจารณา​ค้นหา​
ฉบับส​ มบูรณ์​มา​ศึกษา​หรือไ​ม่

       (2)	หาก​งาน​วิจัย​นั้น​เผย​แพร่​ผ่าน​วารสาร​วิชาการ ควร​พิจารณา​ว่า​วารสาร​ฉบับ​นั้น​ได้​รับ​การ​ยอมรับ​ใน​หมู่​
นัก​วิชาการ​จากส​ าขา​นั้น ๆ หรือไ​ม่ และว​ ารสารไ​ด้​ระบุ​รายช​ ื่อก​ รรมการ​ผู้​พิจารณา​บทความ​วิจัยเ​พื่อต​ ีพ​ ิมพ์ท​ ี่​น่า​เชื่อ​ถือ​
หรือไ​ ม่

       (3)	หาก​งานว​ ิจัย​นั้นเ​ผยแ​ พร่ผ​ ่านเ​ว็บไซต์ค​ วร​สังเกต​ว่า บทความ​วิจัย​นั้น​ระบุ​ราย​ละเอียด​ของเ​จ้าของ​ผล​งาน​
ที่ช​ ัดเจน​หรือไ​ม่ และ​เผยแ​ พร่ผ​ ่าน​เว็บไซต์ท​ ี่​เป็นท​ ี่​น่าเ​ชื่อถ​ ือไ​ด้ใ​น​วงว​ ิชาการ​หรือไ​ม่

       (4)	พิจารณาป​ ีท​ ี่ทำ�การว​ ิจัยป​ ระกอบก​ ารป​ ระเมินค​ ุณค่าข​ องง​ านว​ ิจัย เพราะห​ ากง​ านว​ ิจัยด​ ังก​ ล่าวจ​ ัดท​ ำ�​ไว้น​ าน​
อาจส​ ่ง​ผล​ต่อ​ประสิทธิภาพ​ใน​การ​อธิบาย​ปรากฏการณ์​ในป​ ัจจุบัน

       (5)	พิจารณา​ปัญหา​นำ�​วิจัย​และ​วัตถุประสงค์ ว่า​ได้​ระบุ​ประเด็น​ที่​เจ้าของ​ผล​งาน​สนใจ​ศึกษา​อย่าง​ชัดเจน​
สอดคล้อง​กับ​ราย​ละเอียด​ในส​ ่วน​ของท​ ี่มาแ​ ละ​ความส​ ำ�คัญข​ องก​ ารว​ ิจัย​หรือ​ไม่

       (6)	 พิจารณา​การ​กำ�หนด​ตัวแปร​ที่​ศึกษา​ว่า​สอดคล้อง​กับ​ทฤษฎี​ที่​ยก​มาก​ล่า​วอ้าง​ใน​การ​ทบทวน​วรรณกรรม​
หรือ​ไม่

       (7)	พิจารณาก​ าร​นิยามศ​ ัพท์ต​ ัวแปรว​ ่าร​ ะบุค​ รบถ​ ้วน​และส​ อดคล้องก​ ับทฤษฎี​ที่ย​ กม​ ากล​ ่าว​ อ้างใ​นก​ ารท​ บทวน​
วรรณกรรม​หรือไ​ ม่

       (8)	พจิ ารณาก​ ารอ​ อกแบบง​ านว​ จิ ยั ว​ า่ ส​ อดคลอ้ งก​ บั ป​ ญั หาน​ �ำ ​วจิ ยั ส​ ามารถน​ �ำ ​ไปส​ คู​่ �ำ ​ตอบส​ �ำ หรบั ง​ านว​ จิ ยั ห​ รอื ไ​ม่
       (9)	พิจารณาก​ ารก​ ำ�หนดข​ นาดต​ ัวอย่างว​ ่าม​ คี​ วามส​ อดคล้องก​ ับข​ นาดป​ ระชากร และถ​ ูกค​ ำ�นวณอ​ ย่างเ​หมาะส​ ม​
หรือไ​ ม่
       (10)		พิจารณา​การเลือก​ตัวอย่างว​ ่าม​ ีค​ วาม​ลำ�เอียงห​ รือไ​ม่
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23