Page 22 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 22

14-12 การว​ ิจัยท​ างน​ ิเทศศาสตร์

2. 	ตวั อย่าง​การ​ประยุกต​ใ์ ช​ผ้ ล​การ​วจิ ัย​เพื่อ​พฒั นาอ​ งค์​ความ​รดู้​ า้ นก​ าร​สอ่ื สาร

       ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​การ​วิจัย​กับ​การ​พัฒนา​องค์​ความ​รู้​ด้าน​นิเทศศาสตร์​นั้น​สามารถ​สะท้อน​ให้​เห็น​ใน​การ​
ศกึ ษาเ​ริม่ ต​ น้ ท​ ี่ ฮาโ​รล​ ด​์ ดี ลาสเวลล์ (อา้ งใ​นบ​ ญุ เ​ลศิ ศภุ ด​ ลิ ก. 2548) ทศี​่ กึ ษาการโ​ฆษณาชวนเชือ่ ใ​นส​ หรฐั อเมรกิ าภ​ ายห​ ลงั ​
สงครามโลก​ครั้งท​ ี่ 2 เขาไ​ด้พ​ บว​ ่า โฆษณาชวนเชื่อ​ทาง​วิทยุ​และ​ภาพยนตร์ม​ ี​อานุภาพ​มาก เวลา​นั้น​เชื่อม​ ั่นเ​ป็นอ​ ย่างย​ ิ่ง​
ว่า​สื่อมวลชน​มี​อิทธิพล​อย่างม​ หาศาล​ ต่อม​ า ลาสเวลล์ม​ ีชื่อ​เสียง​จาก​การ​เสนอข​ ้อความ 1 ประโยค คือ ใคร กล่าว​อะไร
ในส​ ือ่ ใ​ด ถึงใ​คร และม​ ผ​ี ลอย​ า่ งไ​ร ขอ้ ความน​ ไี​้ ดน​้ ยิ ามข​ อบเขตก​ ารว​ ิจัยค​ รอบคลมุ ไ​วท้​ ัง้ หมด แตด่​ ว้ ยข​ อ้ อ​ อ่ นขอ​ งแ​ นวคิด​
จาก​การ​ศึกษาข​ อง​ลาสเวลล์ท​ ี่​มุ่ง​เน้น​เพียงผ​ ลก​ระ​ทบ​ที่​เกิด​จาก​การ​สื่อสาร​ใน​รูป​แบบ​การ​สื่อสารท​ าง​เดียวเ​ป็น​เส้น​ตรง
โดย​ไม่​ค่อย​ให้​ความ​สนใจ​กับ​แหล่ง​สาร​เท่าไร​นี้​เอง​ ต่อ​มา พอล เอฟ ลา​ซาร์ส​เฟล​ด์ (อ้าง​ใน​บุญ​เลิศ ศุภ​ดิลก. 2548)
(ได้​ศึกษา​ค้นคว้า​ต่อ​มา​และ​พบ​ว่า สื่อมวลชน​นั้น​มิได้​มี​ผลก​ระ​ทบ​มหาศาล​อย่าง​ที่​เคย​เชื่อ​มั่น​กัน เขา​ศึกษา​และ​ได้​พบ
​การ​สื่อสาร​แบบ​สอง​จังหวะ โดย​ศึกษา​จาก​ปรากฏการณ์​การ​เลือก​ตั้ง​ประธานาธิบดี​สหรัฐอเมริกา​ปี ค.ศ. 1940
ลา​ซาร์ส​เฟล​ด์​อธิบาย​ว่า ความ​คิด​ที่​แพร่​กระจาย​ทางสื่อมวลชน​นั้น กลุ่ม​ผู้นำ�​ทาง​ความ​คิด​จะ​เป็น​ผู้รับ​รู้​และ​ส่ง​ผ่าน​
ไป​ยัง​ประชาชน​ทั่วไป​อีก​ทอด​หนึ่ง ซึ่ง​ผล​นี้​ตรง​ข้าม​กับ​ทัศนะ​ของ​ทฤษฎี​ลูก​กระสุน​ปืน​มหัศจรรย์ ด้วย​เหตุ​ที่​การ​แพร่​
กระจาย​ข่าวสารน​ ั้นเ​กิด​ขึ้น​สอง​จังหวะ จากก​ รณี​ข้างต​ ้น​จะ​พบ​การ​ใช้ผ​ ลก​ ารว​ ิจัยม​ าห​ ักล​ ้างค​ วามส​ ามารถใ​น​การอ​ ธิบาย​
ปรากฏการณ์​ของท​ ฤษฎีท​ ี่​มีอ​ ยู่​เดิม

       ตัวอยา่ งการประยุกต์ใชผ้ ลการวิจยั เพื่อพฒั นาองคค์ วามรดู้ ้านการสื่อสาร

          งานว​ ิจัยข​ อง ประยุทธ วรรณอ​ ุดม (2549) ทีม่​ ุ่งต​ รวจส​ อบค​ วามส​ ามารถใ​นก​ ารอ​ ธิบายป​ รากฏการณข์​ องท​ ฤษฎ​ี
  ของอ​ ดอ​ รโ์​น แห่งส​ ำ�​นักแ​ ฟร​ งเ​ฟิร์ตแ​ ละท​ ฤษฎีข​ องว​ อลเ​ตอร์เ​บนจ​ าม​ ิน โดยผ​ ูว้​ ิจัยส​ ันน​ ฐิ​ านว​ ่า ทฤษฎี​ตะวันต​ กไ​ม่ส​ ามารถ​
  อธิบาย​ปรากฏการณ์​ที่​เกี่ยว​กับ​หมอลำ�​ที่​มี​การ​เปลี่ยนแปลง​จาก​อดีต​จน​มา​สู่​ยุค​อุตสาหกรรม​วัฒนธรรม​ใน​ปัจจุบัน​ได้​
  ครอบคลมุ ท​ กุ อ​ ยา่ ง ดงั น​ นั้ ผ​ ว​ู้ จิ ยั จ​ งึ ป​ ระยกุ ตใ​์ ชท​้ ฤษฎต​ี ะวนั ต​ กม​ าเ​ปน็ ร​ ากฐาน เพอื่ ส​ รา้ งท​ ฤษฎใ​ี หมใ​่ หเ​้ ปน็ ท​ ฤษฎต​ี ะวนั อ​ อก
  โดย​เลือก​ศึกษา​กระบวนการ​ต่อ​รอง​ของ​หมอลำ�​และ​ผู้​ชม​หมอลำ�​ที่​มี​ต่อ​บทบาท​และ​อิทธิพล​ของ​ระบบ​อุตสาหกรรม​
  วัฒนธรรม ซึ่ง​ผู้​วิจัย​พบ​ว่า หมอลำ�​ที่​จะ​สามารถ​ดำ�รง​อยู่​ได้​ใน​สังคม​ที่​มี​การ​เปลี่ยนแปลง​ยุค​อุตสาหกรรม​วัฒนธรรม​
  นั้น ต้อง​มี​การ​รักษา​ราก​เหง้า​ทาง​วัฒนธรรม​ให้​แข็งแกร่ง เช่น ศิลปะ​แบบ​หมอลำ�  การ​สร้าง​และ​สืบ​เชื้อ​สาย​ผู้​สืบทอด
  ​รุ่นใ​หม่ ๆ มีก​ ารส​ ร้าง​และก​ ารต​ ่อย​อด​ต้นทุน​ที่ม​ ีอ​ ยู่​ทั้งท​ ี่​เป็น​รูปธ​ รรม และ​ต้นทุน​ที่เ​ป็น​นามธรรม ซึ่งห​ มอลำ�​ก็​ต้อง​มีก​ าร​
  สร้าง​และ​การค​ รอบค​ รอง​ต้นทุน มีก​ าร​รักษาแ​ ละ​การ “ต่อยอ​ ด” ต้นทุน หมอลำ�มี​การ​ใช้ต​ ้นทุน​เพื่อก​ ารต​ ่อ​รอง​กับ​ระบบ​
  อตุ สาหกรรมว​ ฒั นธรรม ขณะเ​ดยี วกนั ห​ มอล�ำ ​กม​็ ป​ี ญั หาแ​ ละอ​ ปุ สรรคท​ ที​่ �ำ ใหต​้ น้ ทนุ ท​ างว​ ฒั นธรรมข​ องห​ มอล�ำ ​ลดล​ ง ม​ ก​ี าร​
  สร้าง​ความ​หมาย​ใหม่​เพื่อ​การ​ต่อ​รอง​ทาง​ความ​หมาย และ​มี​การ​แตก​ตัว​ทาง​วัฒนธรรม โดย​ไม่​ต้อง​อยู่​ภาย​ใต้​กรอบ​ของ​
  ระบบ​อุตสาหกรรม​วัฒนธรรม​ซึ่ง​มีก​ ารต​ ่อร​ อง 3 อย่าง​คือ การต​ ่อ​รอง​ด้านเ​พศ สภาพ ชนชั้น​และ​เชื้อช​ าติ และจ​ าก​การ​
  ที่​หมอลำ�​มี​ต้นทุน​ทาง​วัฒนธรรม​อยู่​อย่าง​มาก​ทั้ง​ต้นทุน​ที่​เป็น​รูป​ธรรม​และ​นามธรรม จึง​เป็น​กำ�ลัง​สำ�คัญ​ที่​ทำ�ให้​หมอลำ�​
  สามารถต​ ่อร​ องก​ ับอ​ ุตสาหกรรมว​ ัฒนธรรมไ​ดแ้​ ละพ​ บก​ ารต​ ่อร​ องข​ องผ​ ูช้​ มห​ มอลำ� โดยก​ ารเ​ป็นผ​ ูช้​ มท​ ีช่​ าญฉ​ ลาด สามารถ​
  ต่อร​ องก​ ับ​หมอลำ�​ในร​ ะบบอ​ ุตสาหกรรมว​ ัฒนธรรมโ​ดยก​ ารส​ ร้างค​ วามห​ มายใ​หม่ และก​ ารว​ ิพากษ์ว​ ิจารณ์ง​ านศ​ ิลปะก​ าร​
  แสดง​หมอลำ�​อย่าง​เป็นป​ ระชาธิปไตย องค์​ประกอบท​ าง​วัฒนธรรม​ต่าง ๆ ดังก​ ล่าว​มีก​ าร​ยึด​โยง​กันอ​ ยู่อ​ ย่าง​เหนี่ยว​แน่น​
  คล้ายก​ ับร​ งั ผ​ ึ้งจ​ งึ จ​ ะท​ ำ�ใหห​้ มอล�ำ ​สามารถต​ ่อร​ อง และย​ ืนห​ ยดั อ​ ยใู่​นท​ ่ามกลางก​ ระแสอ​ ุตสาหกรรมว​ ัฒนธรรมไ​ด้​ ประย​ ทุ ธ​
  จึงก​ ำ�หนด​เรียกข​ ้อ​ค้นพ​ บใ​หม่ท​ ี่จ​ ะ​ทำ�ให้ห​ มอลำ�​คงอ​ ยู่ไ​ด้​นี้​ว่า “ทฤษฎีร​ ัง​ผึ้ง”
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27