Page 23 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 23

การ​ประยุกต์​ใช้​ผล​การว​ ิจัยท​ าง​นิเทศศาสตร์ 14-13

       ตวั อยา่ งงานวจิ ัยท่​แี สดง​ถงึ ​การ​ขยาย​แนวทาง​การ​ศึกษาเ​พอ่ื ​พัฒนา​พลัง​ใน​การอ​ ธบิ าย​ของ​ทฤษฎี

          งาน​วิจัย​ของ นภ​วรรณ ตันติ​เวช​กุล (2542) ที่​มุ่ง​ศึกษา​เพื่อ​เพิ่มพูน​ความ​ลุ่ม​ลึก​ของ​ทฤษฎี​การ​อบรม​บ่ม​นิสัย
  โดยง​ านว​ ิจัยช​ ิ้นน​ ี้ไ​ด้ศ​ ึกษาต​ ่างจ​ ากข​ นบเ​ดิมใ​นก​ ารศ​ ึกษาต​ ามแ​ นวว​ ิธีท​ ฤษฎีก​ ารอ​ บรมบ​ ่มน​ ิสัยท​ างว​ ัฒนธรรมท​ ี่เ​ดิมศ​ ึกษา​
  ดว้ ยว​ ิธว​ี จิ ัยเ​ชงิ ป​ รมิ าณแ​ ละม​ าศ​ กึ ษาใ​นก​ รณก​ี ารบ​ ่มเ​พาะใ​นเ​ชงิ ว​ ฒั นธรรมด​ ้วยว​ ธิ วี​ จิ ัยเ​ชงิ ค​ ุณภาพ โดยศ​ ึกษาก​ ารว​ เิ คราะห​์
  อิทธิพลข​ องภ​ าพยนตรโ์​ฆษณาท​ างโ​ทรทัศนต์​ ่อเ​ยาวชนใ​นส​ ถานศ​ ึกษา โดยใ​ชร้​ ะเบียบว​ ิธวี​ ิจัยแ​ บบส​ องข​ ั้นต​ อน ได้แก่ การ​
  วิเคราะห์เ​นื้อหาข​ อง​โฆษณา​ทาง​โทรทัศน์ เพื่อ​ค้นหาแ​ นวทางค​ ิดเ​ชิงบ​ ริโภคท​ ั้ง​สิ้น 6 หมวดส​ ินค้า ที่​ออก​อากาศร​ ะหว่าง
  ​ปี 2537-2541 จำ�นวน 1,935 ชิ้น​งาน และ​ขั้น​ตอน​ที่​สอง​ได้แก่ การ​สนทนา​กลุ่ม ซึ่ง​จัด​ขึ้น​จำ�นวน 20 กลุ่ม นักเรียน​
  ร่วม​กลุ่ม 121 คน จาก 5 โรงเรียน ซึ่ง​เป็น​ตัวแทน​ของ​ภาค​เหนือ ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ ภาค​ใต้ ภาค​กลาง และ​
  กรุงเทพมหานคร ผลก​ ารว​ ิจัยพ​ บว​ ่าโ​ฆษณาท​ างโ​ทรทัศน์ม​ ีอ​ ิทธิพลใ​นก​ ารอ​ บรมบ​ ่มน​ ิสัยท​ างว​ ัฒนธรรม ด้วยก​ ารนำ�​เสนอ​
  แนวคิดแ​ ละค​ ่าน​ ิยมเ​ชิงก​ ารบ​ ริโภค และข​ ้อมูลเ​กี่ยวก​ ับส​ ินค้าแ​ กเ่​ยาวชนใ​นส​ ถานศ​ ึกษา ซึ่งอ​ ิทธิพลน​ ีเ้​กี่ยวข้องก​ ับล​ ักษณะ​
  ของ​การ​รับ​ชมโฆษณา​ทาง​โทรทัศน์​มาก ที่​อธิบาย​ได้​ด้วย​ทฤษฎี​การ​อบรม​บ่ม​นิสัย​ทาง​วัฒนธรรม และ​มี​ความ​แตก​ต่าง​
  กัน​ไป​ตาม​บริ​บท​ทางการ​ศึกษา​หรือ​ตาม​หมวด​สินค้า ดังนี้ การ​วิจัย​พบ​ลักษณะ​การ​อบรม​บ่ม​นิสัย​ทาง​วัฒนธรรม แบบ​
  กระแสห​ ลักเ​กี่ยวก​ ับก​ ารม​ ขี​ ้อมูลส​ ินค้าท​ ีค่​ ล้ายคลึงก​ ันในผ​ ูช้​ มโ​ฆษณาโ​ทรทัศนม์​ าก ขณะท​ ีผ่​ ูช้​ มโ​ฆษณาท​ างโ​ทรทัศนอ์​ ย่าง​
  เบาบางม​ ีข​ ้อมูลท​ ี่ต​ ่างก​ ันอ​ อกไ​ป โดยผ​ ู้ช​ มโ​ฆษณาโ​ทรทัศน์ม​ ากม​ ักจ​ ะอ​ ธิบายส​ ิ่งต​ ่าง ๆ ด้วย​การใ​ช้ภ​ าษาท​ ี่ค​ ล้ายคลึงภาษา​
  ใน​โฆษณา​ทาง​โทรทัศน์ และ​พบ​ลักษณะ​การ​อบรม​บ่ม​นิสัย​ทาง​วัฒนธรรม​แบบ​กรอบ​กำ�หนด ซึ่ง​เกี่ยวข้อง​กับ​ปัจจัย
  เ​สริมแรง และป​ ระสบการณ์​ตรง​ในช​ ีวิตป​ ระจำ�​วัน​ของบ​ ุคคล ใน​ผู้ช​ ม​โฆษณา​โทรทัศน์ม​ าก​และ​ผู้ช​ ม​โฆษณา​ทาง​โทรทัศน​์
  อย่างเบา​บาง ที่​ทำ�ให้​เกิด​การ​มี​ข้อมูล​สินค้า​และ​การ​มี​แนวคิด หรือ​ค่า​นิยม​เชิง​การ​บริโภค​บาง​ประการ ที่​คล้ายคลึง​กับ​
  แนวคิด​จาก​โฆษณา​ทาง​โทรทัศน์ อาทิ ค่า​นิยม​เกี่ยว​กับ​การ​มี​ผิว​ขาว​ของ​ผู้​หญิง ค่า​นิยม​เกี่ยว​กับ​ความ​มั่นใจ​ใน​ตนเอง
  ค่าน​ ิยมเ​กี่ยวก​ ับก​ ารด​ ื่มเ​ครื่องด​ ื่มป​ ระเภทแ​ อลกอฮอล์ เพื่อส​ ร้างม​ ิตรภาพ​ นอกจากน​ ี้ ปัจจัยแ​ วดล้อมท​ ีเ่​ป็นป​ ระสบการณ​์
  ตรง และม​ อ​ี ทิ ธพิ ลต​ อ่ แ​ นวคดิ ข​ องท​ งั้ ผ​ ช​ู้ มโ​ฆษณาโ​ทรทศั นม​์ ากแ​ ละผ​ ช​ู้ มโ​ฆษณาท​ างโ​ทรทศั นอ​์ ยา่ งเ​บาบาง ไดแ้ ก่ การเรยี นร​ู้ 
  ทาง​สังคมท​ ี่เ​กี่ยวข้อง​กับก​ าร​ใช้​สินค้า การ​สังเกต และ​การม​ ี​ปฏิสัมพันธ์​กับบ​ ุคคล​อื่น อาทิ ครอบครัว เพื่อน ญาติ และ​
  การเ​รียนร​ ู้​จากส​ ถาบัน​ต่าง ๆ อาทิ​ โรงเรียน และ​สื่อมวลชน

       จาก​ผล​การ​ศึกษาข​ องง​ าน​วิจัยข​ ้างต​ ้น​ สะท้อน​ให้​เห็น​ว่า ข้อ​เท็จ​จริงท​ ี่เ​กิด​ในป​ รากฏการณ์​ซึ่ง​สามารถ​สังเกต​ได​้
ใน​ที่​นี้​คือ ข้อมูล​ความ​รู้​ที่​เชื่อ​ถือ​ได้​เกี่ยว​กับ​การ​สื่อสาร​ใน​บริบท​ต่าง ๆ อัน​เป็น​ผล​จาก​การ​ศึกษา​ด้วย​วิธี​การ​ที่​มี​ระบบ​
ระเบียบ​ชัดเจน เมื่อ​ข้อเ​ท็จจ​ ริงเ​หล่า​นั้นถ​ ูกพ​ ิสูจน์​ตรวจส​ อบ​ถึงค​ วามถ​ ูกต​ ้องโ​ดยก​ ารว​ ิจัยห​ ลาย ๆ ครั้ง และ​มี​เชื่อม​ร้อย​
จัดร​ ะบบค​ วามส​ ัมพันธ์ร​ ะหว่างข​ ้อเ​ท็จจ​ ริงช​ ุดต​ ่าง ๆ ใหส้​ ื่อค​ วามห​ มายไ​ดส้​ มบูรณก์​ จ็​ ะก​ ลายเ​ป็นท​ ฤษฎี ซึ่งท​ ฤษฎอี​ ันเ​ป็น​
ผลจ​ าก​การ​วิจัย​นี้​เอง​อาจ​นำ�​ไป​สู่​การพ​ ัฒนาอ​ งค์ค​ วาม​รู้​ใน​มิติต​ ่าง ๆ จำ�แนก​ได้​เป็น 3 ทาง (นันท​วัน. 2546) คือ

       (1)	ข้อเ​ท็จจ​ ริง​มีส​ ่วน​ทำ�ให้​เกิด​ทฤษฎี
       (2)	ข้อเ​ท็จจ​ ริง​ทำ�ให้เ​กิดก​ ารพ​ ัฒนา​ทฤษฎี
       (3)	ข้อ​เท็จ​จริง​นำ�​ไปส​ ู่ก​ าร​ล้มเ​ลิกท​ ฤษฎี​เดิม

       (1)	ข้อ​เท็จ​จริง​มี​ส่วน​ทำ�ให้​เกิด​ทฤษฎี บ่อย​ครั้ง​ที่​ทฤษฎี​ใหม่​อาจ​เริ่ม​ต้น​จาก​การ​สังเกต​เห็น​ปรากฏการณ์​
บาง​อย่าง​ที่​เกิด​ขึ้น​ซํ้าๆ​  จาก​นั้น​จึง​มี​การ​จัด​ระเบียบ​ความ​สัมพันธ์​ของ​องค์​ประกอบ​ใน​ปรากฏการณ์​ต่าง ๆ เหล่า​นั้น
จ​ น​เกิดเ​ป็นกล​ ุ่ม​ความเ​ชื่อมโ​ยงข​ องข​ ้อ​เท็จจ​ ริงต​ ่าง ๆ เพื่อน​ ำ�​ไปต​ รวจส​ อบร​ ะบบค​ วามส​ ัมพันธ์เ​หล่าน​ ั้นใ​น​ปรากฏการณ​์
อื่นต​ ่อไ​ป​อีกค​ รั้ง เมื่อถ​ ูก​ตรวจ​สอบ​ซํ้า​แล้ว​ได้ร​ ับก​ ารย​ ืนยันจ​ ากข​ ้อมูล​อยู่​เสมอ ลักษณะเ​ช่น​นี้จ​ ะ​ทำ�ให้​ทฤษฎีน​ ั้นม​ ีค​ วาม​
แข็งแกร่งข​ ึ้น
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28