Page 36 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 36
6-26 การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
3) เป็นรูปโค้งเบ้ขวา คนส่วนใหญ่ในชุมชนให้ความร่วมมือในระดับน้อย ค่าฐานนิยมตรงกับค่าน้อยแต่
ทางขวาร ะดับม ากที่สุดม ีจำ�นวนคนท ี่ให้ค วามร ่วมม ือมีจ ำ�นวนค ่อนข ้างน ้อยผิดปกติ
Mo Me X โค้งเบ้ข วา ความถี่จ ะเบ้ไปท างขวาหรือเบ้บ วก
น้อยท ี่สุด น้อย ปานก ลาง (positive skew) ข้อมูลส่วนใหญ่มีค ่าต ํ่าห รือ
ค่าสัมประสิทธิ์ความเบ้เป็นค ่าบ วก
ฐ านนิยมมีค่าน ้อยก ว่า ค่าเฉลี่ย
มาก มากท ี่สุด
ภาพท ี่ 6.8 การแ จกแจงของข ้อมลู ทเี่ปน็ ร ูปโคง้ เบ้ขวา
นอกจากน ั้น ภาพรวมข องข้อมูลในอ ีกลักษณะหนึ่งค ือ การกระจ ุกตัวข องข้อมูลพ ิจารณาได้จ ากค่าความโด่ง
(kurtosis) ความโด่งของขอ้ มูล จำ�แนกได้เป็น 3 แบบคือ
การแจกแจงลักษณะโด่งปกติ (Normal) เป็นลักษณะความสูงของโค้งสมมาตร จะมีค่าสัมประสิทธิ์
ความโด่งป ระมาณ 0
หากกลุ่มตัวอย่างจ ำ�นวนม าก หรือเกือบท ั้งหมด ให้ความร ่วมมือร ะดับใดระดับหนึ่ง การแ จกแจงของข ้อมูล
จะโด่งสูง ณ จุดนั้น คือ การแจกแจงความถี่โด่ง (Leptokurtic) มีลักษณะเป็นโค้งแคบ ๆ หากกลุ่มตัวอย่างให้
ความร่วมมือในร ะดับต ่าง ๆ กระจายก ันไป เรียกว ่า การแ จกแจงความถี่แ บน (Platykurtic)
Leptokurtic
Normal โค้งป กติ ค่าความโด่งประมาณ 0
Leptokurtic ค่าความโด่งมากกว่า 0
Platykurtic Platykurtic ค่าความโด่งน้อยกว่า 0
น้อยท ี่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากท ี่สุด
ภาพท่ี 6.9 การแ จกแจงค วามถโ่ี ดง่ โค้งป กติ และโคง้ แ บน