Page 20 - อารยธรรมมนุษย์
P. 20
4-10 อารยธรรมมนุษย์
1.1 การใช้เคร่ืองมือ (หิน/โลหะ) ในการด�ำรงชีวิต มนษุ ยใ์ นเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตร้ จู้ กั และนำ�
เครอ่ื งมอื หิน/โลหะมาใชเ้ ปน็ อาวธุ โดยท�ำให้วตั ถนุ ัน้ มคี ม โดยใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื สบั หรอื ตดั ในระยะเร่มิ ต้น
มนษุ ยไ์ ดใ้ ชเ้ ครอื่ งมอื หนิ ทไ่ี ดน้ ำ� มากะเทาะใหเ้ กดิ รอยแหลมคม ตอ่ มาจงึ มนี วตั กรรมในการขดั เครอื่ งมอื หนิ
ใหผ้ วิ เรยี บขนึ้ เพอื่ ใช้งานได้ดยี ่ิงขน้ึ เครื่องมือหินพบในวัฒนธรรมฮัวบนิ ห์ ซึง่ อยทู่ ่ีต�ำบลฮัวบินห์ ใกล้เมือง
ฮานอย ประเทศเวียดนาม นอกจากน้ยี งั พบมนุษย์ทีใ่ ช้เครือ่ งมอื หนิ เป็นอาวุธในทีอ่ น่ื เชน่ ตำ� บลบา้ นเกา่
อ�ำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และบริเวณภาคเหนือบางแห่งของประเทศไทย รวมถึงบริเวณใกล้เมือง
หลวงพระบาง ในสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ฯลฯ
จากจดุ เร่ิมตน้ ของการใชเ้ ครื่องมอื หนิ ในการดำ� รงชวี ติ มนษุ ยใ์ นแถบนีไ้ ด้พัฒนาไปสูก่ ารใช้เครื่อง
มือประเภทอ่ืน เช่น กระดกู เปลอื กหอย เปน็ ตน้ ต่อมาได้มกี ารพฒั นานวัตกรรมในการใช้โลหะ โดยการ
หลอ่ ส�ำริดเพอื่ ใชเ้ ป็นเครื่องมือในการด�ำรงชีวติ เช่น ขวาน หอก หัวลกู ศร ด้ามมีด มดี ส้ัน ดาบ เป็นตน้
ซงึ่ ความรใู้ นการผลติ เครอื่ งมอื จากโลหะผสมนสี้ ะทอ้ นถงึ ความเจรญิ ทางดา้ นเทคโนโลยใี นสมยั อดตี ไดเ้ ปน็
อยา่ งดี
1.2 การท�ำเครื่องปั้นดินเผา เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาแสดงถงึ ความเจรญิ ทางดา้ นหตั ถศลิ ป์ หลกั ฐานจาก
การขุดค้นพบว่า ดินแดนแถบนี้รู้จักการท�ำเครื่องปั้นดินเผาต้ังแต่สมัยยุคหินกลาง เป็นเคร่ืองปั้นดินเผา
หยาบๆ ที่ท�ำลวดลายลงในเน้ือดิน ลักษณะเหมือนกระจาด หรือตะกร้า รูปทรงของเครื่องปั้นดินเผามี
รูปทรงต่างๆ หลายรูปทรง ลวดลายที่ท�ำประดับเคร่ืองปั้นดินเผาส่วนมากเป็นลายเชือกทาบ7 การท�ำ
เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาพบในวฒั นธรรมบคั ซอน และวฒั นธรรมดองซอน (ชอื่ เรยี กกลมุ่ วฒั นธรรม เปน็ ชอ่ื ทก่ี ำ� หนด
ตามแหล่งท่ีพบวัตถทุ างวัฒนธรรม ซึ่งอยูใ่ นประเทศเวยี ดนาม)
1.3 การสร้างที่อยู่อาศัย แม้ว่าในช่วงต้นของอารยธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ในช่วง
ยุคหินเก่า มนุษย์ในดินแดนแถบน้ีจะอยู่อาศัยตามถ�้ำ และด�ำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่
ยคุ หนิ ใหม่ มนุษย์รู้จักสร้างท่ีอยู่อาศัยในพ้ืนท่ีราบลุ่มจนกลายเป็นชุมชน บ้านเรือนที่สร้างท�ำด้วยไม้และ
ไม้ไผ่ ลักษณะบ้านท่ีสร้างเป็นบ้านแบบใต้ถุนสูง และผลจากการสร้างที่อยู่อาศัยจึงท�ำให้มนุษย์เริ่มเลี้ยง
สัตวป์ ระจ�ำบา้ น
1.4 การเพาะปลูก และการเลี้ยงสัตว์ มนษุ ยใ์ นเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้เร่มิ ตน้ การเพาะปลูก และ
เลยี้ งสตั วต์ ง้ั แตส่ มยั ยคุ หนิ ใหม่ ซง่ึ ถอื เปน็ การปฏวิ ตั เิ กษตรกรรมครง้ั แรกในดนิ แดนแถบน้ี โดยเปลย่ี นแปลง
การด�ำรงชีวิตจากการล่าสัตว์มาสู่การเพาะปลูก และการเล้ียงสัตว์ อันเป็นผลสืบเน่ืองมาจากการสร้าง
ถ่ินฐานเป็นชุมชนในบรเิ วณลุ่มแมน่ ้�ำท่ีอดุ มสมบรู ณ์ โดยระยะแรกเป็นการเพาะปลูกทยี่ ้ายแหล่งไปเรื่อยๆ
เมอื่ สภาพความสมบรู ณข์ องแหลง่ เพาะปลกู นนั้ หมดไปกจ็ ะหาแหลง่ ใหมท่ ส่ี มบรู ณก์ วา่ จนเมอ่ื คนในชมุ ชน
มีความรู้ในเร่ืองการกักเก็บน้�ำ และการทดน�้ำ จึงท�ำการเพาะปลูกในแหล่งถาวร พืชท่ีปลูกมีทง้ั ขา้ วเจา้
ขา้ วฟา่ ง นอกจากนี้ ยงั รจู้ กั การทำ� ไรเ่ ลอื่ นลอย สำ� หรบั สตั วเ์ ลยี้ งประจำ� บา้ น คอื ควาย และหม8ู
7 อรพินท์ ปานนาค และคณะ. เรื่องเดยี วกัน. น. 551-552.
8 สมคิด ศรีสิงห์. เรอ่ื งเดยี วกัน. น. 15-16.