Page 22 - อารยธรรมมนุษย์
P. 22
4-12 อารยธรรมมนษุ ย์
เพาะปลูก ซึง่ เรียกวา่ “ระบบหม่บู า้ น” โดยภายในหมบู่ ้านจะมีหวั หน้าปกครองแตล่ ะหม่บู ้าน อาชพี ของ
ชาวบา้ นสว่ นใหญค่ อื เกษตรกรรม อนั เปน็ ผลใหเ้ กดิ ชมุ ชน ทง้ั ยงั เปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ของประเพณแี ละธรรมเนยี ม
ตา่ งๆ ภายในสงั คมหมบู่ า้ น นอกจากนแี้ ลว้ ในแตล่ ะสงั คมยงั มกี ลมุ่ พระ หรอื นกั บวชเปน็ ผนู้ ำ� ทางดา้ นศาสนา
ตลอดจนมีกฎระเบียบของรัฐท่ีใช้ปฏิบัติ ซึ่งบรรดาสิ่งเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมที่ตกทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ดว้ ย10
2.2 ศาสนา สังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับถือวิญญาณหรือภูตผีปีศาจ ซ่ึงเชื่อว่าทุกส่ิงใน
ธรรมชาตมิ พี ลงั ชวี ติ หรอื วญิ ญาณ เหน็ ไดจ้ ากมกี ารบชู าเจา้ แหง่ พนื้ ดนิ ทท่ี ำ� ใหค้ นในสงั คมมอี าหารการกนิ
เช่น แมพ่ ระธรณี แม่โพสพ เป็นตน้ อกี ทงั้ ยังมกี ารก�ำหนดพธิ ีกรรม รวมถงึ ข้อหา้ มท่ตี ้องปฏบิ ัติ และห้าม
ปฏิบัตใิ นขน้ั ตอนต่างๆ ของการทำ� การเกษตร เพื่อเปน็ การรักษาพลงั ชวี ติ ดังกลา่ วไว้
2.3 ประเพณี ประเพณีของสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคเริ่มต้นที่เห็นเด่นชัด คือ
ประเพณีท่ีเกีย่ วข้องกบั ความตาย โดยมรี ายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี
2.3.1 โกศหินหรือไหหิน พบท่เี มืองเชียงของ ประเทศลาว โกศหนิ มลี กั ษณะเปน็ แทน่ หิน
ขนาดใหญท่ ่เี จาะให้ข้างในกลวงเหมือนไห พบเครื่องใช้ของมนุษยท์ ่ใี ชใ้ นพธิ ีศพ เชน่ ขวานหนิ ขัด ลูกปดั
แก้ว เคร่อื งป้นั ดินเผา เครอื่ งประดับท�ำด้วยส�ำรดิ เคร่ืองมือเหลก็ เป็นต้น เม่ือขดุ ลงไปข้างใต้ และรอบๆ
แผน่ หิน จะพบวัตถทุ างวฒั นธรรมเหมือนท่ีพบในโกศ
2.3.2 หินตั้ง พบทแี่ ขวงหวั พัน ประเทศลาวในปจั จบุ นั จากการคน้ พบมีการน�ำหนิ จำ� นวน
มากมาวางไว้ โดยหินมรี ปู รา่ งไม่แนน่ อน หินตง้ั ประกอบดว้ ย 3 ส่วน คอื เสาหิน ฝาหิน และหลุมดิน โดย
เสาหินจะเป็นที่ผูกเชือกล่ามควายที่น�ำมาฆ่า เสาหินจึงกลายเป็นแหล่งศักด์ิสิทธ์ิเพราะมีวิญญาณของ
บรรพบรุ ษุ สงิ อยกู่ บั วญิ ญาณของสตั วท์ ถ่ี กู ฆา่ โดยมคี วามเชอ่ื วา่ วญิ ญาณบรรพบรุ ษุ จะคอยดแู ลคมุ้ ครองลกู
หลาน ฝาหินเปน็ แผน่ หนิ ไมเ่ รียบ เป็นรูปวงกลมไม่สม�่ำเสมอ ใชส้ ำ� หรบั ปดิ หลมุ ดิน และหลุมดิน เป็นหลมุ
กลมลึกประมาณหนึง่ เมตรอยูก่ ลางเสาหนิ ท่ีปกั ลอ้ มรอบ11
สนั นษิ ฐานวา่ ทงั้ โกศหนิ และหนิ ตง้ั สรา้ งขนึ้ เพอื่ ใชใ้ นพธิ ฝี งั ศพ เพราะพบเศษกระดกู คนทเ่ี ผาแลว้
ซงึ่ เปน็ หลมุ ดนิ ทมี่ นษุ ยใ์ นเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตส้ รา้ งขน้ึ เปน็ สญั ลกั ษณข์ องโลกบาดาล กลา่ วคอื เปน็ อกี
โลกหนง่ึ ของคนตาย จากการคน้ พบโกศหนิ และหนิ ตง้ั ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ประเพณี
พิธกี รรม และความเช่อื ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับความตายของมนษุ ย์ได้เป็นอยา่ งดี
3. ภาษา
ผคู้ นในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้มภี าษาพูดเป็นของตนเองก่อนท่ีจะได้รบั อารยธรรมจากภายนอก
โดยภาษาจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ นักวิชาการสันนิษฐานภาษาที่ใช้สื่อสารของคนใน
ดนิ แดนแถบน้ีมี 2 กล่มุ คือ ข้อสนั นิษฐานแรก กลา่ วว่า ภาษาของคนในดนิ แดนแถบนจี้ ะมลี ักษณะเปน็
10 สมคดิ ศรสี งิ ห.์ เรื่องเดียวกนั . น. 16.
11 สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2538). หินต้ังกับไหหินในลาว เป็นผีมือ “ขมุ” หรือใครกันแน่?. ใน ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 17
ฉบับที่ 12 เดอื นธนั วาคม. น. 110-114.