Page 26 - อารยธรรมมนุษย์
P. 26
4-16 อารยธรรมมนุษย์
2.3) ศิลปกรรม ผู้คนในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับอารยธรรมทางด้าน
ศิลปกรรมจากอนิ เดีย เพือ่ มาใช้ในงานศาสนาเชน่ กัน กล่าวคือ ในศาสนาพราหมณม์ ีการสรา้ งศาสนสถาน
และเทวรูป เพ่ือใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ในท�ำนองเดียวกันเม่ือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับพุทธศาสนา
เขา้ มากร็ บั เอาศิลปกรรมทางพทุ ธศิลป์เขา้ มาด้วย (อา่ นรายละเอียดเพมิ่ ในเร่อื ง 4.3.2 ศลิ ปกรรม)
2.4) การปกครอง อารยธรรมทางดา้ นการปกครองของอนิ เดยี ทเ่ี ขา้ มาในเอเชยี ตะวนั ออก-
เฉียงใต้ สง่ ผลโดยตรงตอ่ ระบบกษัตรยิ ข์ องอาณาจกั รตา่ งๆ กล่าวคอื กอ่ นไดร้ ับอารยธรรมอนิ เดยี แม้ว่า
กษตั รยิ ไ์ ดร้ บั ยกยอ่ งใหเ้ ปน็ ประมขุ มฐี านะสงู กวา่ ประชาชน แตค่ วามสมั พนั ธแ์ ละการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งกษตั รยิ ์
กบั ประชาชนกไ็ มต่ า่ งกนั มากนกั เมอื่ รบั แนวคดิ จากอนิ เดยี กษตั รยิ จ์ งึ มฐี านะเปน็ สมมตเิ ทพ นอกจากนม้ี กั
อา้ งตนว่าเป็นผสู้ บื เช้ือสายมาจาก “วงศข์ องพระอาทิตย์” หรือ “วงศ์ของพระจนั ทร์” เป็นผลใหพ้ ิธกี รรม
และธรรมเนียมปฏิบัติของกษัตริย์มีหลายขั้นตอนทั้งยังมีความซับซ้อนด้วย ท่ีเห็นได้ชัดคือพิธีราชาภิเษก
หรอื พธิ ีเทวราชา
พิธีราชาภิเษก หรือพิธีเทวราชาได้รับแบบอย่างจากคัมภีร์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิ
ตนั ตระ เมือ่ กษัตรยิ ์ไดผ้ า่ นพธิ ีเทวราชาแล้วจึงมีฐานะเป็น “เทวราช” ซ่ึงหมายถงึ กษตั รยิ ม์ ิได้มฐี านะเปน็
มนษุ ยธ์ รรมดา แตเ่ ปน็ จกั รพรรดยิ ง่ิ ใหญเ่ หนอื ราชาทงั้ ปวง18 ประชาชนมฐี านะเปน็ ไพรพ่ ล และตอ้ งปฏบิ ตั ิ
ตอ่ กษตั รยิ ใ์ นฐานะสมมตเิ ทพ อยา่ งไรกต็ าม พธิ กี รรมและประเพณตี า่ งๆ ตอ้ งอาศยั พราหมณเ์ ปน็ ผปู้ ระกอบ
พธิ ี กษตั ริ ยเ์ องกต็ อ้ งมกี ารใหเ้ กยี รตติ ามสมควรแกพ่ ราหมณด์ ว้ ยเชน่ กนั ซงึ่ ดเู หมอื นวา่ พราหมณก์ ลายเปน็
ชนชั้นหน่ึงที่มีความส�ำคัญต่อการปกครองในดินแดนแถบน้ี ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นอกจากรบั
การปกครองเขา้ มาถอื ปฏบิ ตั ใิ นหมชู่ นชนั้ ปกครองแลว้ ยงั มกี ารรบั กฎหมายจากอนิ เดยี เขา้ มาเปน็ ตน้ แบบของ
กฎหมายของตนเอง เช่น กฎหมายพระมนูธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นกฎหมายท่ีมีอิทธิพลต่อกฎหมาย พม่า
มอญ ไทย และลาว เช่น กฎหมายตราสามดวงของไทย กฎหมายอาณาจักรหลักค�ำของอาณาจักรนา่ น
เปน็ ตน้ กฎหมายฉบบั ดงั กลา่ วมบี างสว่ นทเ่ี ปลย่ี นไป แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การเลอื กเฉพาะหลกั การทเี่ หมาะสมมาใช้
ในบริบทสงั คมของตน19
กล่าวโดยสรุป อารยธรรมอินเดียท่ีแพร่เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความส�ำคัญและมี
บทบาทอย่างมากในดินแดนนี้ การรับอารยธรรมอินเดียมิได้รับมาท้ังหมด หากมีการปรับเปล่ียนเพ่ือให้
สอดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของคนกลมุ่ ตา่ งๆ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ โดยในระยะเรม่ิ แรกอารยธรรมเหลา่ นน้ั
ยังมีความคล้ายคลึงกับอินเดียอยู่มาก แต่เม่ือมีการเลือกรับและปรับเปลี่ยนจึงท�ำให้อารยธรรมของเอเชีย
ตะวันออกเฉยี งใตม้ ีลักษณะเฉพาะตนแตกต่างกนั ไป
2. อารยธรรมจีน
หลกั ฐานเอกสารจนี ปรากฏขอ้ มลู วา่ ชาวเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตม้ กี ารตดิ ตอ่ กบั จนี อยา่ งชา้ ทส่ี ดุ ก็
ในคริสต์ศตวรรษที่ 1-2 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับการท่ีติดต่อกับอินเดีย แม้จะติดต่อกับจีนในเวลาท่ี
18 A.L., Basham. (1959). The Wonder that was India. New York, NY: Grove Press. p. 81.
19 สมคดิ ศรสี ิงห์. เร่ืองเดียวกัน. น. 38.