Page 28 - อารยธรรมมนุษย์
P. 28
4-18 อารยธรรมมนษุ ย์
2.2) ขุนนางจีนมีการควบคุมพ่อค้าอย่างใกล้ชิดในการเดินเรือค้าขายกับเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ ซ่งึ กลุม่ ขนุ นางจะควบคมุ พอ่ คา้ อย่างเขม้ งวดในการคา้ ขาย เนือ่ งจากกษตั ริยจ์ นี ไมต่ อ้ งการรายได้
จากการคา้ ขาย เพราะได้ประโยชนจ์ ากการสง่ เคร่อื งบรรณาการของอาณาจักรในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
ซง่ึ แตกต่างจากอนิ เดียที่ไม่มกี ารควบคมุ พ่อคา้ ในการเดินทางค้าขายกบั เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
2.3) ลัทธิความเช่ือของชาวจีน โดยลทั ธขิ งจ้อื มีข้อหา้ มมใิ ห้ชาวจีนเดินทางไปจากดินแดน
บ้านเกิดของบรรพบุรุษ ซ่ึงถือเป็นการละทิ้งบรรพบุรุษ ท�ำให้ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่นิยมเดินทางออกนอก
ดินแดนของตน แตกต่างจากชาวอินเดียที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและพุทธ ท่ีไม่ได้มีความเช่ือใน
ขอ้ ห้ามดงั กล่าว
กลา่ วโดยสรปุ อารยธรรมจนี ทแ่ี พร่หลายเข้ามาในดนิ แดนเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตท้ เี่ ห็นเดน่ ชัดมี
2 ดา้ น คอื ทางดา้ นการทตู และการคา้ ซงึ่ ทงั้ สองดา้ นกเ็ ปน็ สง่ิ ทสี่ ง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงบรบิ ททางสงั คม
และวัฒนธรรมในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก
3. อารยธรรมอิหร่าน
อารยธรรมอิหร่านเจริญรุ่งเรืองข้ึนในบริเวณดินแดนของประเทศอิหร่านในปัจจุบัน ชาวเปอร์เซีย
เดินทางเขา้ มาค้าขายในดนิ แดนเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ าเป็นระยะเวลานานกว่าพันปี ท้งั น้ี นักวชิ าการ
บางคนเช่ือว่าชาวอิหร่านเข้ามาในดินแดนแถบนี้อย่างช้าก็คริสต์ศตวรรษที่ 7 เม่ือพิจารณาจากหลักฐาน
ทางดา้ นภาษา พบวา่ ขอ้ ความในจารกึ หลกั ท่ี 1 จารกึ พอ่ ขนุ รามคำ� แหง มคี ำ� วา่ ตลาดปสาน ซง่ึ สนั นษิ ฐาน
ว่า มาจากคำ� ในภาษาอิหรา่ นว่า บาซาร2์ 2 หลักฐานจากจารึกดงั กลา่ วแสดงให้เห็นถงึ อารยธรรมอิหรา่ นท่ี
แพร่เข้ามาในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ว่าร่องรอยหลักฐานของอารยธรรมอิหร่านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจ�ำกัดกว่าอารยธรรม
อินเดยี และจนี อยา่ งไรก็ตาม ข้อมลู เก่ยี วกับอารยธรรมอิหรา่ นท่ีแพร่เขา้ มาในดนิ แดนแถบนท้ี พ่ี อจะสรุป
ได้ มรี ายละเอียดดงั ต่อไปนี้
1. สถาปัตยธรรม และศิลปกรรม การกอ่ สรา้ งโบราณสถานโดยใชเ้ ทคนิคการก่ออิฐแบบสันโค้ง
ยอดแหลม และการเรียงอิฐแบบระนาบแบนค่อยๆ เหล่ือมกันเข้าไปแล้วเอาปูนฉาบ ซงึ่ แตเ่ ดมิ นกั วชิ าการ
เชอ่ื ว่าเป็นรูปแบบที่รบั มาจากสถาปตั ยกรรมตะวนั ตก แต่ก็ได้มีขอ้ มลู หลักฐานทีท่ ำ� ใหพ้ อจะสรปุ ไดว้ ่าการ
ก่อสรา้ งรูปแบบดังกลา่ วเป็นสถาปัตยกรรมทไ่ี ดร้ บั อิทธพิ ลจากอิหร่าน
ในส่วนของศิลปกรรมนั้น ที่เห็นเด่นชัดคือ เทคนิคการสร้างลายรดน้�ำ ซึ่งเป็นการสร้างลาย
ทองบนพ้ืนรักสีด�ำ โดยนิยมเขยี นลายทองบนพนื้ รักสดี �ำบนบานประตู กรอบกระจก ลวดลายท่นี ิยมเขียน
คอื ลายพนั ธพ์ุ ฤกษาประกอบภาพนก เชน่ ลายรดนำ้� บนตพู้ ระธรรมทวี่ ดั เชงิ หวาย จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
ลายรดน�้ำบนเสาภายในศาลาการเปรียญวดั ใหญ่สวุ รรณาราม จงั หวดั เพชรบุรี เป็นตน้ 23
22 อดุลย์ มานะจิตต์. (2547). ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน. ใน ความสัมพันธ์อิหร่าน-ไทย ทางด้าน
ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท. น. 440-441.
23 ประภัสสร โพธ์ิศรีทอง. (2547). วัฒนธรรมเปอร์เซียในราชส�ำนักอยุธยา. ใน ความสัมพันธ์อิหร่าน-ไทย ทางด้าน
ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม. กรงุ เทพฯ: ม.ป.ท. น. 466-467.