Page 24 - อารยธรรมมนุษย์
P. 24
4-14 อารยธรรมมนุษย์
1. อารยธรรมอินเดีย
การติดต่อระหว่างเมืองท่าตามฝั่งทะเลด้านตะวันตกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับอินเดียอาจมี
มาตงั้ แตส่ มยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ การตดิ ตอ่ นน้ั คงมที งั้ ผคู้ นจากอนิ เดยี เดนิ ทางมายงั เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
และคนในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตก้ เ็ ดนิ ทางไปอนิ เดยี เชน่ กนั การตดิ ตอ่ ระหวา่ งคนสองอารยธรรมไดด้ ำ� เนนิ
เรอื่ ยมา จนกระทงั่ ในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 2-3 กม็ คี วามสมั พนั ธก์ นั มากขน้ึ โดยพบหลกั ฐานทางดา้ นวรรณคดี
คือศิลาจารึกภาษาสันสกฤต และพระพุทธรูปศิลปะอมราวดี ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะของอินเดีย14 การรับ
อารยธรรมอินเดียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นไปอย่างช้าๆ แต่ฝังรากลึกลงในดินแดนแถบนี้กระทั่ง
ปัจจบุ ัน
หลกั ฐานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ การตดิ ตอ่ ระหวา่ งอนิ เดยี และเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ มที งั้ จากหลกั ฐาน
ท่พี บภายในดินแดนเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตแ้ ละหลักฐานจากภายนอก ดังน้ี
1.1 หลักฐานภายใน หลักฐานจากภายในดินแดนแถบนี้มีท้ังจารึกท่ีเกี่ยวกับอาณาจักรฟูนัน
ศรีเกษตร ทวารวดี เรื่อยไปจนถึงอาณาจักรต่างๆ ในแหลมมลายู จารึกเหล่าน้ีส่วนใหญ่เขียนเป็นภาษา
สนั สกฤต โดยใชต้ ัวอักษรสมยั ราชวงศ์ปัลลวะ15 ซ่ึงมอี ายุอยู่ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 4 นอกจากนยี้ งั พบ
อิทธิพลของตัวอักษรสมัยก่อนนาครีจากแคว้นเบงกอลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย แพร่เข้า
มาในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ในช่วง ค.ศ. 707-807 ดว้ ย
1.2 หลักฐานภายนอก ส�ำหรับหลกั ฐานจากภายนอกทีส่ ำ� คญั มีรายละเอียดดังต่อไปน้ี
1.2.1 หลักฐานอินเดีย วรรณคดีของอินเดียและชาดกในพุทธศาสนา รวมถึงนิทานของ
อนิ เดยี สมยั โบราณ มกี ารกลา่ วถงึ ชอื่ ทมี่ นี ยั ยะหมายถงึ ดนิ แดนเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เชน่ วรรณคดเี รอื่ ง
รามายณะ กล่าวถึง “ยวทวปี ” ซ่งึ หมายถึง เกาะเงนิ เกาะทอง นกั วิชาการสันนษิ ฐานว่า “ยวทวปี ” คือ
เกาะชวาและสมุ าตรา นอกจากนใี้ นคมั ภรี อ์ รรถศาสตร์ ไดก้ ลา่ วถงึ เรอื่ งราวการอพยพชาวอนิ เดยี ไปยงั ดนิ แดน
แหง่ ใหม่ และดนิ แดนแหง่ นน้ั สนั นษิ ฐานวา่ คอื เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้16 ขอ้ มลู นด้ี จู ะสอดคลอ้ งกบั หลกั ฐาน
ประเภทเรือ่ งเล่าพนื้ บา้ นของอาณาจักรเขมรโบราณ ท่ีกล่าววา่ พราหมณ์อนิ เดยี ไดเ้ ดนิ ทางทางทะเล และ
มาต้ังถ่ินฐานในบริเวณท่ีสนั นษิ ฐานว่าเป็นอาณาจกั รฟนู ัน
1.2.2 หลกั ฐานจนี จดหมายเหตจุ นี ไดเ้ ลา่ เรอื่ งราวทแ่ี สดงการตดิ ตอ่ ระหวา่ งอนิ เดยี กบั เอเชยี
ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกล่าวว่ามีพราหมณ์ช่ือโกณฑินยะได้เดินทางมายังดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในราวคริสตศ์ ตวรรษที่ 1-2 และแตง่ งานกับหญิงชาวพื้นเมอื ง
1.2.3 หลักฐานโรมัน เห็นได้จากหนังสือเรื่อง ภูมิศาสตร์ (Geographia) ซึ่งเขียนเมื่อ
ประมาณ ค.ศ. 165 ของปโตเลมี (Ptolemy) ในหนงั สอื ไดแ้ สดงใหเ้ หน็ ลกั ษณะเดน่ ๆ ของผนื แผน่ ดนิ ใหญ่
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใตไ้ ดอ้ ยา่ งชดั เจน
หลักฐานภายใน และภายนอกช้ีให้เห็นว่าอินเดียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการติดต่อกัน ซ่ึง
การติดต่อดงั กลา่ วนา่ จะมาจากปจั จัยต่างๆ โดยมีรายละเอยี ดพอสังเขปดงั น้ี
14 สุภัทรดศิ ดศิ กุล, หมอ่ มเจา้ . เรื่องเดยี วกัน. น. 5.
15 ในประเทศไทยเรียกตวั อกั ษรนว้ี า่ อกั ษรปัลลวะ เปน็ การเรียกตามช่อื ราชวงศ์ของอินเดียใต ้
16 D.G.E. Hall. (1966). A History of South-east Asia. New York, NY: St. Martin’s Press, p. 13.