Page 47 - อารยธรรมมนุษย์
P. 47
อารยธรรมเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ 4-37
2. ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดเู ปน็ ศาสนาทม่ี บี ทบาทในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ แมจ้ ะไมป่ รากฏหลกั ฐาน
ท่ีแน่ชัดว่าศาสนาดังกล่าวได้เข้ามาดินแดนแถบนี้เมื่อใด แต่นักวิชาการตะวันตกสันนิษฐานว่า ศาสนา
พราหมณ์-ฮนิ ดูน่าจะแผจ่ ากอินเดียมาสดู่ นิ แดนแถบนีใ้ นชว่ งคริสตศ์ ตวรรษที่ 1-2 เนื่องจากพบหลกั ฐาน
ทางด้านโบราณวัตถุท่ีแสดงการนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูอยู่ในวิถีชีวิต เห็นได้จากศิวลึงค์ ซึ่งเป็น
สัญลักษณ์ทางด้านความเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงรูปเคารพพระศิวะ พระวิษณุ และ
พระพรหม เทพส�ำคัญในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อย่างไรก็ดียังมีการบูชาพระหริหระซ่ึงเป็นพระนารายณ์
และพระอิศวรรวมกนั ในองคเ์ ดียวด้วย
ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดทู แี่ ผเ่ ขา้ มาในดนิ แดนเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตแ้ ละไดร้ บั ความยอมรบั นบั ถอื
ในหมู่ชนช้ันปกครอง ซึ่งในจารึกบางหลักยังมีการกล่าวถึงการประกอบพิธีของพราหมณ์ถวายแด่กษัตริย์
และกลมุ่ ชนชน้ั พราหมณเ์ ปน็ ผมู้ อี ทิ ธพิ ลอยา่ งมากในราชสำ� นกั เนอ่ื งจากพราหมณเ์ ปน็ ผปู้ ระกอบพธิ กี รรม
สำ� คญั และเปน็ ผเู้ ขา้ ถงึ คมั ภรี ศ์ กั ดสิ์ ทิ ธทิ์ ง้ั หลาย ศาสนาพราหมณแ์ บง่ ออกเปน็ 2 นกิ าย ไดแ้ ก่ ไศวะนกิ าย
บูชาพระศิวะ นิกายนม้ี ีการสรา้ งรูปเคารพ “ศิวลึงค”์ เป็นสัญลกั ษณ์เพอ่ื การแสดงความอดุ มสมบูรณ์ และ
ไวษณพนกิ าย บชู าพระวษิ ณุ ในเมอื งพระนครของอาณาจกั รเขมรโบราณมศี าสนสถานทส่ี ำ� คญั คอื ปราสาท
นครวดั ปรากฏภาพสลกั ตำ� นานเกยี่ วกบั พระวษิ ณุ และภาคอวตารของพระองคค์ อื พระกฤษณะ ซง่ึ มผี กู้ ลา่ ววา่
ปราสาทนครวดั แสดงถึงการอทุ ศิ และนบั ถือพระวษิ ณใุ นไวษณพนิกาย
ในปัจจุบันศาสนาพราหมณ์-ฮินดูยังคงปรากฏอยู่ในขนบประเพณีราชส�ำนักของไทย เขมร ลาว
และท่ีมีความเด่นชัดไม่แพ้กันคือ ท่ีเกาะบาหลี ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีการน�ำระบบวรรณะเข้ามาใช้ในสังคม
ของชาวบาหลี ทั้งยงั มีส่วนสำ� คญั ในการก่อใหเ้ กิดรปู แบบทางวฒั นธรรมในแบบของบาหลีดว้ ย
3. พุทธศาสนา
พทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาทมี่ บี ทบาทตอ่ วถิ ชี วี ติ ของชาวเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตโ้ บราณเชน่ เดยี วกบั
ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู แมไ้ มท่ ราบวา่ ศาสนานไี้ ดแ้ ผเ่ ขา้ มามอี ทิ ธพิ ลในดนิ แดนแถบนเ้ี มอ่ื ไร แต่ในชว่ งตน้
ทพ่ี ทุ ธศาสนาแผเ่ ขา้ มานนั้ นกิ ายมหายานไดร้ บั การนบั ถอื มากกวา่ นกิ ายหนิ ยาน ภายหลงั เมอ่ื พทุ ธศาสนา
หมดความสำ� คญั ไปจากอนิ เดยี แลว้ แตใ่ นเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตย้ งิ่ แพรห่ ลายมากขน้ึ ผทู้ น่ี บั ถอื พทุ ธศาสนา
มกั จะนบั ถอื ศาสนาพราหมณด์ ว้ ยเชน่ กนั 51 หลกั ฐานทบี่ ง่ ชว้ี า่ พทุ ธศาสนาเปน็ สว่ นหนงึ่ ของวถิ ชี วี ติ ของชาว
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือการค้นพบจารึกท่ีเป็น “คาถาเยธมฺมา” (หัวใจของพุทธศาสนา) กระจายอยู่
ตามบริเวณต่างๆ ทเ่ี ป็นขอบเขตของอาณาจกั รโบราณ
เอกสารภาษาจนี ยงั ไดก้ ลา่ วถงึ การนบั ถอื พทุ ธศาสนาของชาวปยคู อื บนั ทกึ การเดนิ ทางของหลวงจนี
อจ้ี ิง (ค.ศ. 671-ค.ศ.695) ระบุว่าดินแดนเมืองแปรเก่ามแี ควน้ หนง่ึ ชือ่ สดิ หลีซาตอ๋ ล้อ (Shih li cha ta
loe) ชาวเมอื งนบั ถอื พระรตั นตรยั (พทุ ธศาสนา) ซงึ่ นกั วชิ าการสนั นษิ ฐานวา่ เมอื งทหี่ ลวงจนี อจ้ี งิ กลา่ วถงึ
51 สวุ รรณา สัจจวีรวรรณ และคณะ. (2522). อารยธรรมตะวนั ออกและตะวนั ตก. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร.์ น. 103.