Page 54 - สังคมมนุษย์
P. 54
3-44 สังคมมนุษย์
เรื่องท่ี 3.2.2
แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดช่วงช้ันทางสังคม
แนวคิดและทฤษฎีเก่ียวกับชนชั้นมีมากมาย ทั้งท่ีเป็นทฤษฎีระดับใหญ่และในระดับย่อย ซึ่งใน
หนว่ ยนจ้ี ะขอนำ� เสนอแนวคดิ ทเี่ กยี่ วกบั “ชนชน้ั หรอื การจดั ชว่ งชน้ั ทางสงั คมซงึ่ จะมปี ระโยชนห์ รอื ใหโ้ ทษ
ต่อสังคม” ในมุมมองของนักวิชาการทางสังคมวิทยาโดยมีมุมมอง 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มทฤษฎีเชิงหน้าที่
และกลุ่มทฤษฎีขดั แยง้ ดงั นี้
1. กลุ่มทฤษฎีเชิงหน้าที่ (Functional Theory)
กลมุ่ ทฤษฎนี ม้ี คี วามเชอ่ื เรอ่ื งชว่ งชนั้ ทางสงั คม ทถ่ี อื วา่ การทคี่ นในสงั คมมคี วามไมเ่ ทา่ เทยี มกนั นนั้
มีผลดีต่อสังคม หรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม น่ันคือท�ำให้สังคมสามารถอยู่รอด มีความเจริญรุดหน้าและ
ผนึกตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าสังคมใดไม่มีการจัดช่วงชั้นทางสังคม หรือปราศจากชนชั้น โดยทุกคนมี
ความเท่าเทียมกันหมดแล้วสังคมอาจสลายตัวไม่ช้าก็เร็ว ซ่ึงเหตุผลท่ีส�ำคัญก็เน่ืองจากว่าสังคมทุกสังคม
น้ันจ�ำเป็นจะต้องมีสมาชิกเพ่ือมารับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ในสังคม ซึ่งจะต้องใช้ความรอบรู้และปัญญา
ความสามารถไมเ่ ทา่ กนั และสงั คมจะใหเ้ กยี รตผิ ลประโยชนแ์ ละการประเมนิ คา่ แตกตา่ งกนั ซง่ึ เปน็ การสรา้ ง
แรงจูงใจให้คนเรา อดทนเล่าเรียนและฝึกฝนเพื่อสร้างสมรรถนะ เกียรติ รางวัลในทางจิตใจและร่างกาย
อำ� นาจ ศักดศ์ิ รี ฯลฯ ให้มีมากยง่ิ ขึน้ เรอ่ื ยๆ
สรุป กลมุ่ ทฤษฎีเชงิ หน้าท่ีมคี วามเชอ่ื วา่ ชว่ งชน้ั ทางสังคมน้ันคอื วิธีการจงู ใจ ลอ่ ใจ หรอื บ�ำเหนจ็
รางวัลเพอื่ ใหส้ มาชกิ สังคมบางคนยอมรับหนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบทีส่ ำ� คญั และหนกั หน่วงของสงั คม
โดยมีนักทฤษฎที างด้านสงั คมวทิ ยาในกลุ่มทฤษฎนี ี้ท่สี �ำคญั ไดแ้ ก่
แมกซ์ เวเบอร์ (Max Weber) ในระหว่าง ค.ศ. 1864-1920 แมกซ์ เวเบอร์ เปน็ ผวู้ างรากฐาน
ทฤษฎอี งคก์ รทสี่ ำ� คญั โดยเฉพาะแนวความคดิ ในการพฒั นาประสทิ ธภิ าพการทำ� งานขององคก์ รขนาดใหญ่
(Bureaucracy) ถอื วา่ เปน็ รปู แบบขององคก์ ารในอดุ มคติ (The Ideal Form of Organization) (www.
th49.ilovetranslation.com สืบค้นเม่ือวันที่ 19 ธันวาคม 2557) ส่วนแนวคิดและทฤษฎีการจัดช่วงช้ัน
ทางสงั คมเวเบอรม์ คี วามคดิ เหน็ ในเรอ่ื งนวี้ า่ ผเู้ ปน็ เจา้ ของการผลติ หรอื ผทู้ ม่ี อี ำ� นาจจดั การทรพั ยส์ มบตั ิ เปน็
ชนชั้นที่มีความส�ำคัญ คนเราจะถูกก�ำหนดว่าอยู่ในช้ันเดียวกันเม่ือมีความสนใจทางเศรษฐกิจ อาชีพและ
รายได้เหมือนกัน เนื่องจากความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีปริมาณต่างกัน จึงท�ำให้คนมีโอกาสต่างกัน
โดยให้มีความม่ังค่ัง (Wealth) เป็นองค์ประกอบอย่างหน่ึงที่จะช่วยในการจัดล�ำดับชนช้ันทางสังคม
นอกจากนี้ยังมีสององค์ประกอบท่ีใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาในการจัดชนชั้นทางสังคมได้แก่ สถานภาพ
(Status) และอ�ำนาจ (Power) โดยสถานภาพจะเป็นตัวก�ำหนดระดับของเกียรติยศ ช่ือเสียง คน ที่มี
สถานภาพต่างกันจะมีวิถีชีวิตและพฤติกรรมต่างกัน ซ่ึงอาจท�ำให้สัมพันธภาพมีอยู่เพียงภายในกลุ่ม
สถานภาพเดยี วกนั เท่านัน้ อำ� นาจล้วนเกดิ จากการทีแ่ ตล่ ะบคุ คลหรือกลมุ่ บคุ คลมสี ทิ ธแิ ตกตา่ งกนั ทำ� ใหม้ ี
โอกาสในการกระท�ำแตกตา่ งกนั และมีสิทธติ ่อการกระท�ำของผอู้ ืน่ แตกต่างกนั