Page 50 - สังคมมนุษย์
P. 50
3-40 สงั คมมนุษย์
3.3 ระบบชนชั้น
คารล์ มารก์ ซ์ (Karl Marx) นยิ ามชนชนั้ วา่ หมายถงึ กลมุ่ ทม่ี แี หลง่ ทม่ี าของรายไดร้ ว่ มกนั แหลง่
ทม่ี าของรายไดใ้ นสงั คมทนุ นยิ ม อาจแบ่งไดเ้ ปน็ 3 แหล่งใหญ่ๆ คือรายไดจ้ ากการลงทนุ คอื ก�ำไร รายได้
จากทด่ี นิ คอื คา่ เชา่ และรายไดจ้ ากแรงงานคอื คา่ จา้ ง ดงั นน้ั ชนชนั้ สำ� คญั ในสงั คมทนุ นยิ มตามความหมายนี้
ได้แก่ ชนช้ันนายทุน ชนช้ันเจ้าท่ีดิน และชนช้ันแรงงาน นายทุนและเจ้าที่ดินน้ันจัดว่าเป็นชนชั้นระดับ
เดยี วกันคอื มฐี านะเปน็ เจา้ ของปัจจยั การผลิต ชนชนั้ ทีค่ รอบครองปัจจยั การผลติ น้ีบางทีกเ็ รียกวา่ ชนช้ัน
“กระฎมุ พีหรือกระฏุมพ”ี (Bourgeoisie) สว่ นชนชน้ั ทไ่ี มเ่ ปน็ เจา้ ของปจั จยั การผลติ หรอื ชนชนั้ ผใู้ ชแ้ รงงาน
น้ันเรียกว่า ชนชั้น “กรรมาชีพ” (Proletariat) การเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตจึงน�ำมาซ่ึงรายได้จึงเป็น
เกณฑก์ �ำหนดชนชั้น (จ�ำนงค์ อดิวัฒนสทิ ธแิ ละคณะ, 2540, น. 70)
แมกซ์ เวเบอร์ (Max Weber) เหน็ วา่ ความแตกต่างทางชนช้นั มลี ักษณะ แยกไดเ้ ป็น 3 ด้านคอื
(จำ� นงค์ อดวิ ัฒนิสิทธิ และคณะ, น. 70-71)
1) ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ หรือความมั่นคั่ง
2) ความแตกตา่ งในเร่ืองของเกยี รติหรือศกั ดศ์ิ รี (Prestige)
3) ความแตกตา่ งในอำ� นาจ (Power) ชนชนั้ หนงึ่ อาจมคี ณุ สมบตั ทิ งั้ สามดา้ นไปดว้ ยกนั เชน่
ร่ํารวย มีเกียรติ และมีอ�ำนาจ แต่บางคร้ังคนที่รํ่ารวยอาจไม่มีเกียรติและอ�ำนาจ หรือคนท่ีมีเกียรติจะไม่
ราํ่ รวย ไมม่ อี �ำนาจก็ได้ ปกตคิ ณุ สมบัติทั้งสามมักควบคกู่ นั หรือเก้ือหนุนกัน
สรุป ชนชนั้ คอื กลมุ่ ทมี่ สี ถานภาพทางเศรษฐกจิ เหมอื นกนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั เชน่ กลมุ่ คนทมี่ อี าชพี
เดยี วกนั มรี ายไดร้ ะดบั เดยี วกนั ซง่ึ เปน็ การจดั ลำ� ดบั ความสามารถมากกวา่ ชาตกิ ำ� เนดิ ซง่ึ เกณฑใ์ นการแบง่
บคุ คลออกเปน็ ชนชนั้ มตี วั เกณฑใ์ นการพจิ ารณา ไดแ้ ก่ (1) เศรษฐกจิ (อาชพี เปน็ เรอื่ งสำ� คญั เพราะอาชพี
เปน็ แหล่งรายได้) (2) สถานภาพ เปน็ เคร่ืองวัดศักดศ์ิ รขี องบคุ คล (3) อำ� นาจ เป็นความสามารถในการ
ควบคมุ พฤตกิ รรมของบุคคลอ่นื ๆ อำ� นาจมกั เปล่ียนแปลโดยตรงกับเกณฑ์ทางเศรษฐกจิ
ช่วงช้นั ทางสังคมเปน็ เหมอื นแบบชีวติ (Style of Life) บุคคลท่ีอยู่ในชนชน้ั สังคมต่างกนั ย่อม
แตกต่างกนั ในด้านการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน รายได้ และระดับการศึกษา สิง่ เหลา่ น้ีแสดงออกให้เห็นแบบ
ของชวี ติ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากรปู แบบของการบรโิ ภค ระดบั การศกึ ษา กริ ยิ าทา่ ทาง รสนยิ ม และ
สงิ่ อื่นในท�ำนองคล้ายคลึงกนั เป็นทย่ี อมรับกันว่าชนชั้นของสงั คม มี 3 ช้ัน ดงั นี้ (ถาวร เกดิ เกียรตพิ งศ์
และวราคม ทสี ุกะ, 2522, น. 178-179)
1) ชนช้นั สงู (Upper Class) ไดแ้ ก่ บุคคลผเู้ ป็นเจ้าของการผลิต และแหล่งเศรษฐกจิ ของ
สงั คม
2) ชนชัน้ กลาง (Middle Class) ได้แก่ บคุ คลท่ีท�ำงานประจำ� สำ� นักงานและบคุ คลทำ� งาน
ประเภทใชว้ ชิ าชีพ เช่น ครู อาจารย์ ทนายความ วิศวกร และแพทย์
3) ชนชน้ั ล่าง หรอื ชนชั้นผู้ใช้แรงงาน (Lower Class or Working Class) ไดแ้ ก่ บุคคล
ทีอ่ าศัยคา่ จ้างแรงงานเลีย้ งชีวิต
ระบบชนช้ันเป็นระบบท่ีอยู่ในสังคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพราะกฎเกณฑ์ในการแบ่งชนช้ันมี
แนวโนม้ ในการแบง่ กฎเกณฑ์ในการวดั (Rate) และกำ� หนดล�ำดับช้ันและชัน้ ยศ (Rank) ระหวา่ งบุคคล