Page 57 - สื่อ นวัตกรรม และการวัดและประเมินผล การเรียนรู้วิทยาศาสตร์

การสร้างและการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวัดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 13-47

และทักษะกระบวนการและการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์

3) วิธีสัมประสิทธิ์แอลฟา เป็นวิธีการท่ีครอนบาค (Cronbach) พัฒนาข้ึนในปี ค.ศ.
1951 วิธีน้ีบางทีเรียกว่า ครอนบาค แอลฟา (Crobach alpha) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แอลฟา (a: alpha) เป็น
วิธีการท่ีสามารถน�ำมาใช้กับแบบทดสอบท่ีให้คะแนนแบบ 1 กับ 0 ได้ด้วย กล่าวคือตอบถูกได้ 1 คะแนน
และตอบผิดได้ 0 คะแนน ซึ่งค่าความเที่ยงที่ได้จากการใช้วิธีสัมประสิทธ์ิแอลฟาจะเท่ากับการใช้สูตรของ
ดเู ดอร-์ ริชาร์ดสันที่ 20 นอกจากน้ียังสามารถใช้กับข้อสอบแบบตอบสั้น ๆ หรือข้อสอบแบบความเรียงท่ีมีการ
ให้คะแนนในแต่ละข้อค�ำถามที่หลากหลาย เช่น 4, 3, 2, 1, 0 เป็นต้น

ส�ำหรับการหาความเท่ียงโดยวิธีสัมประสิทธิ์แอลฟาสามารถท�ำได้ ดังน้ี

ra หรือ a = k 1 1 — (SS2i )
k— S2

เม่ือ ra หรือ a คือ ความเที่ยง
K คือ จ�ำนวนข้อค�ำถาม
Si2 คือ ความแปรปรวนของคะแนนในข้อค�ำถามข้อท่ี i
S2 คือ ความแปรปรวนของคะแนนรวม

โดยท่ี Si2 = NSX2i ­— (SXi)2
N(N — 1)

เม่ือ N คือ จ�ำนวนผู้สอบ
Xi คือ คะแนนของผู้สอบแต่ละคนที่ได้จากการตอบข้อค�ำถามข้อที่ i
จากสูตรการหาความเท่ียงโดยวิธีสัมประสิทธิ์แอลฟา เหมือนกับสูตร KR-20 เพียงแต่
แทนค่า Spq ด้วย SSi2 เท่าน้ัน

ตัวอย่างท่ี 13.10 แบบทดสอบกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่ง เป็นข้อสอบ
แบบอัตนัยมีจ�ำนวน 5 ข้อ น�ำไปสอบผู้สอบจ�ำนวน 5 คน ปรากฏผลดังตาราง จงหาความเท่ียง

คนท่ี 1 ข้อท่ี 5

15 234 3
22 1
32 533 3
41 111 2
53 321 4
451
134