Page 54 - พื้นฐานสังคมเเละวัฒนธรรมเขมร
P. 54
1-44 พ้นื ฐานสงั คมและวฒั นธรรมเขมร
5. ประเพณแี ละพธิ ีกรรม
ประเพณีและพธิ ีกรรมเป็นส่วนหน่ึงของวิถชี วี ิตที่ทาใหเ้ ขา้ ใจคนในสงั คมเขมรท่ีใหค้ วามสาคัญกบั
การเปลี่ยนช่วงวัยนับต้ังแต่เกิดจนไปสู่บั้นปลายของชีวิต ประเพณีและพิธีกรรมของคนในสังคมจึงมี
รายละเอียดมากพอควร โดยเร่ิมตงั้ แต่ชว่ งก่อนเกดิ อยา่ งไรกด็ เี นอ่ื งจากสังคมเขมรมีความซับซ้อนและมี
ความต่อเน่ืองทางประวัติศาสตร์มายาวนาน ประเพณีและพิธีกรรมในสังคมจึงมีมาก เน้ือหาในชุดวิชานี้
จะกล่าวถึงเฉพาะประเพณีและพิธีกรรมท่ีเก่ียวกับชีวิต ได้แก่ ประเพณีและพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการเกิด
ประเพณีและพิธีกรรมท่ีเกี่ยวกับการแต่งงาน และประเพณีและพิธกี รรมท่เี ก่ยี วกับการตาย ประเพณีและ
พิธีกรรมทัง้ สามจะชว่ งฉายใหเ้ ห็นภาพของคนและสังคมได้ชดั ขึน้
ในส่วนของเทศกาลงานประเพณีมีบางส่วนท่ีคล้ายคลึงกับไทย ในทานองเดียวกันเทศกาลและ
งานประเพณีก็มีจานวนมาก เน้ือหาในชุดวิชานี้จึงจะกล่าวถึงประเพณีสาคัญ ได้แก่ ประเพณีขึ้นปีใหม่
ซ่ึงตรงกับเทศกาลสงกรานต์ของไทย ประเพณีสารท และประเพณีแข่งเรือ ลอยประทีป ไหว้พระจันทร์
และกรอกข้าวเม่า ในเทศกาลประเพณีเหล่าน้ียังมีกิจกรรมที่ให้ความสนุกร่ืนเริง ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของ
วฒั นธรรมเขมรดว้ ย
6. สถาปัตยกรรมและประตมิ ากรรม
สถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่สืบเนื่องมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จาแนกได้หลาย
ลกั ษณะทส่ี าคญั คอื
1) ปราสาท เปน็ ศาสนสถานที่สร้างดว้ ยวัสดทุ ีท่ นทานคืออฐิ และศิลา แม้บางส่วนของปราสาทจะ
สร้างด้วยไม้แต่ก็เป็นเพียงส่วนประกอบเท่าน้ัน ปราสาทเขมรสร้างตามแผนผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือ
ผืนผ้า ท่ีมีรายละเอียดวิจิตรบรรจง ทั้งในส่วนของหน้าบัน ทับหลัง เสาประดับกรอบประตู ประตูหลอก
หรือบางส่วนในบริเวณปราสาท เช่น กาแพงที่มีภาพสลักเล่าเรื่องราวทางศาสนาหรือพระราชกรณียกิจ
ของพระมหากษตั ริย์ ในบรรดาปราสาทรูปแบบศลิ ปะเขมรต้องถือว่าปราสาทนครวดั (สร้างข้ึนในครสิ ต์-
ศตวรรษท่ี 12) เป็นศาสนสถานทส่ี มบูรณแ์ ละงดงามทส่ี ดุ (สุภทั รดิศ ดศิ กุล, 2547: 31)
2) เทวรูป เป็นประติมากรรมรูปบุคคล ทาข้ึนจากการแกะสลักศิลาหรือหล่อจากสัมฤทธ์ิ ใน
ระยะแรกเทวรูปสลักลงบนศิลาแบบภาพสลักนูนสูง คือภาพบุคคลยืนอิงอยู่เหนือแผ่นหลังที่เป็นศิลา
ทั้งแผ่น ระยะต่อมาจึงพัฒนาข้ึนจนบคุ คลลอยตัวไม่ต้องมีส่ิงใดมาช่วยพยุง ส่วนเทวรปู สัมฤทธ์ิมลี ักษณะ
บางประการท่ตี า่ งจากศลิ า เพราะวา่ สัมฤทธิ์แสดงลวดลายละเอยี ดท่ีศลิ าทาไม่ได้ โดยเฉพาะรายละเอียด
บริเวณผา้ นุ่งของเทวรูป