Page 62 - สื่อศึกษา
P. 62

14-52 สื่อศกึ ษา
       ในงานวิจยั เรอื่ ง การต่อรองอ�ำนาจของผหู้ ญิงจากการน�ำเสนอเรือนรา่ งผ่านสือ่ นิตยสารไทย ของ

กนกวรรณ ไมส้ นธ์ิ (2544) ไดเ้ สนอประเดน็ ทนี่ า่ สนใจเกยี่ วกบั การสรา้ งและตคี วามหมายภาพตวั แทนเรอื น
ร่างผู้หญิงว่า ในขณะท่ีสังคมไทยถูกตีกรอบด้วยเพศวิถีท่ีห้ามผู้หญิงแสดงออกซึ่งเสน่ห์และความยั่วยวน
ภายใต้กรอบอุดมการณ์แบบชายเป็นใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อการถ่ายแบบของนางแบบท่ีโชว์สัดส่วนและรูปร่าง
ถกู สังคมและนักวิชาการสายสตรีศกึ ษามองว่าเปน็ “วตั ถุทางเพศ” กนกวรรณ ได้ศกึ ษาการตอ่ รองความ
หมายของการถา่ ยแบบของนางแบบวา่ นางแบบสรา้ งความหมายของการถา่ ยแบบอยา่ งไร และตอ่ รองกบั
ระบบทุนนยิ มทีห่ นุนหลังอตุ หกรรมการถ่ายแบบอย่างไรบ้าง

       ผลการศึกษาพบว่า ลักษณะของภาพตัวแทนของเรือนร่างนางแบบในนิตยสารทีผ่านการใส่รหัส
และตอ่ รองโดยนางแบบเองมี 3 ลกั ษณะ คอื 1) การกลบั ทศิ ทางของภาพแบบฉบบั (reverse the stereotype)
มคี วามคล้ายคลึงกบั การรือ้ สร้างความหมายใหม่ เชน่ อดีตนกั แสดง จารณุ ี สุขสวัสด์ิ ทม่ี อี ายเุ กนิ 40 ปี
ถา่ ยแบบอวดสรีระเพือ่ สรา้ งความหมายใหม่ว่า ถงึ แมม้ อี ายุมากแล้วแตย่ ังคงรปู ร่างทีส่ วยงามอยู่ 2) การ
ใช้ภาพบวกแทนภาพลบ (substitute positive image into negative image) เป็นการตอ่ รองอำ� นาจ
ของกรอบเพศวิถีโดยการสวมบทบาทและใช้เส้ือผ้าเป็นคนชาติอื่น เพ่ือลดการไม่ยอมรับค่านิยมท่ีขัดกับ
กรอบเพศวถิ ขี องสงั คมไทย และ 3) ภาพแบบฉบบั เดมิ แตเ่ ปลย่ี นความหมายใหม่ (live with stereotypes
but change meaning) คอื การทน่ี างแบบใชภ้ าพแบบฉบบั ความเซก็ ซเี่ ชน่ เดมิ แตน่ างแบบใหค้ วามหมาย
วา่ ไมใ่ ชก่ ารถา่ ยภาพนดู้ และไมใ่ ชภ่ าพลามกอนาจาร แตเ่ ปน็ การถา่ ยภาพเรอื นรา่ งทสี่ วยงามและเปน็ ความ
ภูมิใจของนางแบบ

       สว่ นการตอ่ รองกบั ระบบทนุ นยิ มและกระบวนการเขา้ รหสั ของนางแบบนนั้ นางแบบใชอ้ ำ� นาจการ
ตอ่ รองจากการสะสมทนุ วฒั นธรรม ทนุ สญั ลกั ษณ์ และทนุ ทางสงั คม กลา่ วคอื นางแบบสะสมทนุ วฒั นธรรม
ด้วยการดูแลรปู รา่ ง ซึง่ นางแบบน�ำไปใช้ในการสรา้ งชอ่ื เสยี งหรือทุนสัญลักษณ์ ความรูจ้ ักสนิทสนมกับทีม
งานถา่ ยภาพในกระบวนการผลติ หรอื คอื ทนุ ทางสงั คม โดยทนุ ทง้ั สามชนดิ ทกี่ ลา่ วมานน้ั นางแบบใชใ้ นการ
ตอ่ รองกบั เจา้ ของทนุ และกระบวนการผลติ วา่ ตนเองตอ้ งการใหภ้ าพตวั แทนออกมาในรปู แบบใด นอกจาก
นน้ั แลว้ นางแบบยงั ตอ่ รองกบั สงั คมโดยการกำ� หนดขอบเขตของภาพใหอ้ ยภู่ ายใตก้ รอบของเพศวถิ ใี นสงั คมไทย

       ในดา้ นการถอดรหสั สารนน้ั สจว๊ ต ฮอลล์ เสนอวา่ การถอดรหสั ความหมายอาจเกดิ ขน้ึ เปน็ 3 รปู
แบบ คือ 1) การอ่านแบบตรงตวั (preferred reading) เปน็ การอ่านความหมายตามท่ีผสู้ ่งสารเข้ารหัสมา
ให้ (absolutely yes) 2) การอา่ นแบบทางเลอื กหรอื ตอ่ รอง (alternative/ negotiated reading) เปน็ การ
อา่ นความหมายทแี่ ตกตา่ งไปจากทผี่ สู้ ง่ สารเขา้ รหสั มา โดยอาจมกี ารตอ่ รอง หรอื สรา้ งเงอื่ นไขขน้ึ มา (yes,
but...) และ 3) การอา่ นแบบตรงขา้ ม (oppositional reading) เปน็ การอา่ นความหมายแบบปฏเิ สธความ
หมายทผ่ี สู้ ง่ สารใสร่ หสั มาให้ (absolutely no) เชน่ งานวจิ ยั เรอ่ื งกระบวนการสรา้ งความเปน็ จรงิ ทางสงั คม
ของตวั ละครนางร้ายในละครโทรทัศน์ไทย ของ อภริ ัตน์ รทั ยานนท์ (2547) ท่พี บวา่ ความหมายของนาง
รา้ ย คอื ผหู้ ญงิ ทเี่ บยี่ งเบนไปจากกฎเกณฑบ์ รรทดั ฐานของสงั คม วถิ ปี ระชา ประเพณี และกฎหมาย ขณะ
ที่การถอดรหัสการรับรู้ความหมายและสร้างความเป็นจริงต่อภาพนางร้าย ซ่ึงผู้ชมบางส่วนมีทัศนะท่ี
ขดั แยง้ ไปจากบรรทดั ฐานดงั กลา่ ว โดยเหน็ วา่ ตนเองอยากเปน็ นางรา้ ยในละคร เนอื่ งจากนางรา้ ยมอี ำ� นาจ
และวิถีชีวติ ทีส่ ะดวกสบาย ในขณะทน่ี างเอกตอ้ งถูกกล่ันแกลง้ และมเี รือ่ งให้ทุกขใ์ จตลอดเวลา
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67