Page 59 - สื่อศึกษา
P. 59

ส่ือกบั เพศสภาวะ 14-49
เช่น ความรู้ การศึกษา และทุนเศรษฐกิจ ทั้งน้ีสมสุขต้ังข้อสังเกตจากการศึกษาการดูโทรทัศน์โดยเก็บ
ข้อมลู แบบชาตพิ ันธ์ุวรรณนา พบว่า ครอบครัวทีส่ ถานภาพทางสงั คมไมต่ า่ งกันมากนกั ทง้ั ในแงก่ ารศกึ ษา
(ทนุ วฒั นธรรม) และการทำ� งาน (ทนุ เศรษฐกจิ ) จะมกี ารทา้ ทายและตอ่ รองอำ� นาจในการดโู ทรทศั นอ์ ยบู่ อ่ ย
ครง้ั เชน่ การทภี่ รรยาเรยี กใหส้ ามถี อนตวั จากหนา้ โทรทศั นม์ าชว่ ยเลย้ี งลกู แลว้ ตวั ภรรยาจงึ ไดเ้ ขา้ ไปครอบ
ครองพน้ื ทแี่ หง่ อำ� นาจนนั้ แทน สอดคลอ้ งกบั ผลการวจิ ยั ของ ตวงทอง สรประเสรฐิ (2560) ทพ่ี บวา่ ผหู้ ญงิ
ท่ีมีทุนทางเศรษฐกิจและทุนทางวัฒนธรรมจะสามารถสร้างอัตลักษณ์ผู้หญิงท่ีเป็นแม่บ้านแต่ไม่จ�ำเป็น
ไมต่ อ้ งอยกู่ บั เหยา้ เฝา้ กบั เรอื น เนอ่ื งจากมอี ำ� นาจในการตอ่ รองและสรา้ งอตั ลกั ษณท์ ที่ า้ ทายขนบความเปน็
แม่และภรรยาดว้ ยการทอ่ งเทยี่ วตามล�ำพัง และใช้สอื่ ออนไลน์ เช่น โซเชยี ลมีเดีย เฟซบ๊กุ อนิ สตาแกรม
เวบ็ บล็อก เพ่ือการสร้างอตั ลกั ษณข์ องตนเองได้

       เม่ือตีกรอบมาที่ “วิธีการรับส่ือ” ท่ีมีตัวแปรเรื่องเพศสภาวะเข้ามาเก่ียวข้องนั้น จะพบว่าผู้ชาย
และผหู้ ญงิ มวี ธิ กี ารทแ่ี ตกตา่ งกนั เชน่ ผชู้ ายจะตง้ั ใจดโู ทรทศั นข์ ณะทผี่ หู้ ญงิ จะดไู ปทำ� งานบา้ นไป หรอื เปดิ
โทรทัศน์ไว้เป็นเพ่ือนขณะท�ำงานบ้าน ดังผลการวิจัยของ อุทุมพร เล่ืองลือเจริญกิจ (2540) ท่ีศึกษา
แบบแผนการชมละครโทรทศั นข์ องผ้ชู าย พบว่า ผูช้ ายไมม่ ีความกระตอื รอื ร้นทจี่ ะดลู ะครเลย ในระหว่าง
ที่ดูละครผู้ชายที่สูงอายุจะต้ังใจดูมากกว่าผู้ชายท่ีอยู่ในวัยเรียนและวัยท�ำงาน ส่วนการวิจารณ์ละครผู้ชาย
จะวิจารณ์โดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ โดยจะวิจารณ์ในแง่ความสมจริงและความเป็นไปได้ของเน้ือหา
และบทบาทของนกั แสดง ขณะทก่ี ารชมละครโทรทศั นข์ องผหู้ ญงิ ที่ ไศลทพิ ย์ จารภุ มู ิ (2536) ศกึ ษาพบวา่
ผู้หญิงมีความเป็นแฟนละครคือมีความตั้งใจท่ีจะดูละครท้ังก่อนจะดูที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม มีอุปกรณ์ท่ี
จ�ำเปน็ ต้องใชใ้ นระหว่างดูละครอยู่ใกลต้ วั ในระหว่างท่ีดูละครนัน้ ผูห้ ญิงจะต้งั ใจดู ไม่ส่ือสารกับคนรอบขา้ ง
และไมท่ ำ� อยา่ งอน่ื รว่ มดว้ ยเหมอื นการดรู ายการโทรทศั นป์ ระเภทอน่ื ๆ สว่ นการวจิ ารณล์ ะครของผหู้ ญงิ นน้ั
ผู้หญิงมักจะมอี ารมณ์รว่ มไปกบั ตัวละครและเนอื้ หาของละคร

       เมอื่ พจิ ารณาถงึ การบรโิ ภคสอ่ื และการใช้สอ่ื ของผู้มคี วามหลากหลายทางเพศจะพบวา่ การศึกษา
การใชส้ อ่ื ประเภทสอ่ื กระแสหลกั เชน่ การชมละครโทรทศั น์ การอา่ นนติ ยสารหรอื หนงั สอื พมิ พย์ งั มจี ำ� นวน
ไมม่ ากนักเม่ือเปรยี บเทยี บกับการใชส้ ื่อใหม่ โดยส่วนใหญ่มกั จะพบการศกึ ษาถงึ พฤตกิ รรมการเปิดรับส่อื
เพอื่ ที่จะหาวธิ กี ารท�ำการตลาดกับกลุม่ ลกู คา้ ทเ่ี ปน็ เกย์ เช่น งานวิจัยของ กิง่ รัก องิ คะวัต (2542) ทศี่ ึกษา
รปู แบบการดำ� เนนิ ชวี ติ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค และพฤตกิ รรมการเปดิ รบั สอ่ื ของกลมุ่ ชายรกั ชาย (เกย)์ ใน
กรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า เกย์ในกรุงเทพมหานครมีการใช้สื่อใกล้เคียงกับการใช้ส่ือของผู้หญิง
กลา่ วคอื เกยใ์ นกรงุ เทพฯ นยิ มใชส้ อ่ื นติ ยสารสงู ถงึ รอ้ ยละ 85 โดยนติ ยสารสว่ นใหญจ่ ะเปน็ นติ ยสารผหู้ ญงิ
ข้อค้นพบที่น่าสนใจของงานช้ินนี้คือ ส่ือเฉพาะของกลุ่มเกย์ที่ส�ำคัญคือ “ส่ือบุคคล” โดยก่ิงรักอธิบายว่า
เนอ่ื งจากกลมุ่ เกยใ์ นสงั คมไทยยงั ถอื เปน็ กลมุ่ คนชายขอบ ซงึ่ กลา่ วไดว้ า่ เปน็ วฒั นธรรมยอ่ ย (subculture)
ชอ่ งทางการสอ่ื สารจึงมีไม่มากนักทีจ่ ะใชส้ ือ่ สารกับผูท้ ่มี ีรสนยิ มเดียวกัน

       เมอื่ สอื่ กระแสหลกั มลี กั ษณะแบบสอ่ื รวมศนู ย์ (centralised media) ดงั นน้ั สอื่ ออนไลนท์ มี่ ลี กั ษณะ
แบบกระจายศูนย์ (decentralised media) ไม่ผูกขาดบทบาทผู้ส่งและผู้รับ จึงตอบสนองความต้องการ
ของผู้มีความหลากหลายทางเพศได้มากกว่า โดยเฉพาะการตอบสนองเรื่องการสื่อสารอัตลักษณ์หรือตัว
ตนที่ไม่สามารถเปิดเผยในพ้ืนท่ีสาธารณะได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากค่านิยมของสังคมไทยที่มีต่อผู้มีความ
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64