Page 15 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 15
ทฤษฎภี าพยนตรพ์ ้นื ฐาน 2-5
เร่ืองท่ี 2.1.1
ก�ำเนิดแนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีภาพยนตร์
นับแต่ภาพยนตร์กลายเป็นสิ่งบันเทิงที่แพร่หลาย ได้มีการสังเกตรูปแบบและองค์ประกอบต่างๆ
ของภาพยนตร์ ซง่ึ เมอื่ มกี ารสรา้ งภาพยนตรไ์ ปในรปู ลกั ษณต์ า่ งๆ หลากหลายกไ็ ดม้ กี ารแสดงทศั นะกนั วา่
ภาพยนตรน์ น้ั เปน็ งานศิลปะชนิดหนงึ่ อย่างไม่ต้องสงสยั
ความเจริญเติบโตของเทคโนโลยีทางภาพยนตร์และธุรกิจนี้ ด�ำเนินไปพร้อมกับการพัฒนาระบบ
ความคิดในการมองภาพยนตร์อย่างเป็นระบบและอย่างพินิจพิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผล จนเกิดเป็นทฤษฎี
ภาพยนตร์ที่มุ่งมองถึงการสื่อความหมายให้เป็นท่ีเข้าใจและการประเมินคุณค่าในทางสังคม สุนทรียภาพ
และเทคโนโลยี
แม้ภาพยนตร์จะมีรูปแบบและเร่ืองราวจ�ำแนกออกได้เป็นหลายประเภทก็ตาม แต่น่ันก็เป็นส่วน
แตกต่างปลีกย่อยหากเราจะมองดภู าพรวมท้งั หมด เพราะเมอ่ื มองดูโครงสรา้ งใหญ่แลว้ ความแตกตา่ งของ
การผลิตภาพยนตร์มีอยู่เพียง 2 แนวทางใหญ่ ๆ คือ แนวเหมือนจริงหรือสัจนิยม (realism) และแนว
รูปแบบนิยม (formalism) ทฤษฎีภาพยนตร์ก็ได้พัฒนาขึ้นตามแนวทางน้ีกลายเป็นทฤษฎีภาพยนตร์
แนวสัจนิยม (Realist Film Theory) และทฤษฎีภาพยนตร์แนวรูปแบบนิยม (Formalist Film Theory)
ภาพยนตร์ท่ีสร้างขึ้นในระยะเริ่มแรกโดยพ่ีน้องตระกูลลูมิแอร์ ชาวฝร่ังเศส คือ โอกุสและหลุยส์
ลูมแิ อร์ (Auguste and Louis Lumiere) มีลกั ษณะเป็นการบันทึกเหตุการณท์ เี่ กดิ ข้นึ จริงหรอื เหตุการณ์
ในชีวติ ประจ�ำวนั โดยการถา่ ยท�ำในสถานท่ีจริงไม่ได้สรา้ งเปน็ ฉากขึ้น ใช้ผูแ้ สดงท่เี กี่ยวข้องกับเหตกุ ารณ์
นน้ั ๆ ไมใ่ ชผ่ แู้ สดงอาชพี ทง้ั ในบางครง้ั กย็ งั มกี ารแอบถา่ ยโดยไมใ่ หร้ ตู้ วั เพอ่ื ใหด้ เู ปน็ ธรรมชาติ ภาพยนตร์
ทีล่ มู ิแอรส์ ร้างในปี ค.ศ. 1895 อาทิ คนงานเดินออกจากโรงงาน (La Sortie de l’ Usine Lumiere a
Leyons หรอื Workers Leaving the Lumiere Factory) รถไฟแลน่ เข้าชานชาลา (L’Arrivee d’un
train engare หรอื Arrival of a Train) อาหารเชา้ ของเดก็ นอ้ ย (Le Dejeuner de be be หรอื Baby’s
Breakfast) คนเลน่ ไพ่ (La Partie d’ ecarte หรอื The Card Players) ภาพยนตรข์ องลูมิแอรไ์ ด้เปน็
ต้นแบบของภาพยนตร์สารคดี (documentary) ในเวลาต่อมาและถือกันว่าลูมิแอร์เป็นผู้วางรากฐานของ
ภาพยนตรแ์ นวสจั นิยมดว้ ย
คนดูตื่นเต้นกับภาพยนตร์ของลูมิแอร์อยู่ได้ระยะหน่ึงก็เริ่มเบ่ือหน่ายเพราะเกิดความรู้สึกซ้�ำซาก
จ�ำเจกับเรื่องราวปกติธรรมดาที่ทุกคนเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเช่ือวัน จนกระทั่งได้เกิดมีภาพยนตร์แนวใหม่ข้ึน
ซ่ึงมีการผูกเร่ืองราวแบบละครอย่างน่าสนใจ หรือไม่ก็น�ำนิยายเร่ืองเด่นๆ มาสร้างให้ดูสนุกเพลิดเพลิน
ผู้แสดงก็เป็นนักแสดงอาชีพ แต่งกายสวยงามตามลักษณะของเรื่อง มีการจัดฉากให้ดูเป็นจริงเป็นจัง
วธิ ีการถา่ ยทำ� แปลกใหม่ข้นึ เชน่ มีการทำ� ภาพจางออก (fade out) ภาพซอ้ น (superimposition) ภาพ
จางซอ้ น (dissolve) ภาพเรว็ (fast motion) ภาพชา้ (slow motion) เปน็ ตน้ สง่ิ เหลา่ นท้ี ำ� ใหค้ นดไู ดร้ บั
ความบนั เทิงใจยง่ิ ขึน้ ตืน่ เต้นไปกบั เทคนคิ แปลกตาทที่ �ำใหค้ นหายตวั ได้ แปลงร่างได้ คนดจู ึงหนั กลับมา