Page 42 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 42
8-32 ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
(3) การสร้างตัวละครผ่านการกระท�ำภายนอก (Characterization through external
action) ถึงแม้การปรากฏตัวคร้ังแรกของตัวละครจะเป็นมาตรวัดด่านแรกท่ีส�ำคัญที่จะท�ำให้ผู้ชมทราบว่า
ตวั ละครตวั นนั้ มลี กั ษณะบคุ ลกิ ภาพนสิ ยั ใจคอยงั ไง แตบ่ อ่ ยครงั้ ทนี่ ำ� ผชู้ มไปสกู่ ารคาดเดา การตคี วามอยา่ ง
ผิดๆ ดังน้ันสิ่งที่สะท้อนถึงลักษณะบุคลิกตัวละครได้ดีที่สุดจึงเป็นการกระท�ำของตัวละคร เพราะการ
กระท�ำจะเจริญเติบโตไปตามธรรมชาติของตัวละคร ถ้าแรงจูงใจของตัวละครถูกสร้างข้ึนมาอย่างดีแล้ว
การกระทำ� ของตัวละครกบั โครงเรื่อง (plot) จะเป็นสงิ่ ทไ่ี ปด้วยกนั ไม่มที างท่ที ง้ั สองจะแตกแยกออกจาก
กันไปคนละทิศละทาง ดังน้ันทุกๆ การกระท�ำของตัวละครจึงเป็นส่ิงที่สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกภาพของ
ตวั ละคร
(4) การสร้างตัวละครผ่านการกระท�ำจากภายใน (Characterization through internal
action) การกระท�ำจากภายในเกิดขึ้นภายในจิตใจ เป็นความรู้สึกของตัวละคร ความลับ ความคิด
จินตนาการ ความฝัน ความปรารถนา ความทรงจ�ำ ความกลัว บางครั้งผู้สร้างจะเปิดเผยให้ผู้ชมรู้จัก
ตัวตนข้างในตัวละครจรงิ ๆ ผา่ นการน�ำเสนอภาพและเสียงท่ีแสดงถงึ จินตนาการ ความทรงจำ� ความคิด
ของตัวละคร เชน่ ฉากฝนั ร้ายอย่เู นืองๆ ของตัวละครท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงอาการผิดปกติทางจิต
(5) การสร้างตัวละครผ่านปฏิกิริยาจากตัวละครอ่ืน (Characterization through reac-
tions of other characters) การสร้างตัวละครในรูปแบบนี้คือวิธีการที่ให้ตัวละครตัวอ่ืนพูดถึงตัวละคร
ตัวนั้นเป็นวิธีซึ่งจะท�ำให้ผู้ชมเข้าใจบุคลิกลักษณะของตัวละคร ก่อนหน้าที่ตัวละครตัวนั้นจะปรากฏตัวข้ึน
เปน็ ครงั้ แรก เชน่ เสยี งซบุ ซบิ นนิ ทาของลกู นอ้ งทมี่ ตี อ่ ความเจา้ ระเบยี บพระเอกทนี่ างเอกบงั เอญิ แอบไปได้
ยินมา
(6) การสร้างตัวละครโดยใช้ลักษณะของความตรงกันข้าม (Characterization through
contrast: dramatic foils) การสรา้ งตวั ละครโดยใชล้ กั ษณะของความตรงกนั ขา้ ม เปน็ วธิ หี นงึ่ ในการสรา้ ง
ตัวละครท่ีได้ผลดีที่สุด คือการใช้ตัวละครท่ีมีลักษณะตรงกันข้ามกับตัวละครตัวหลัก โดยตัวละครที่น�ำมา
เปรยี บเทยี บนีจ้ ะมีพฤติกรรม ทศั นคติ ความคดิ วิถชี วี ติ ลักษณะทางกายภาพและอืน่ ๆ ที่ตรงกนั ข้ามกับ
ตวั ละครหลกั เพอื่ ทจ่ี ะทำ� ใหเ้ กดิ การจำ� กดั ความและเนน้ ยาํ้ ถงึ บคุ ลกิ ของตวั ละครหลกั นน้ั ๆ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน
ขน้ึ การสรา้ งตวั ละครดว้ ยวธิ นี น้ี บั เปน็ วธิ ที ม่ี กั ใชใ้ นการสรา้ งภาพยนตรใ์ หเ้ ปน็ ทชี่ น่ื ชอบของผคู้ นเพราะหาก
มงุ่ แตส่ รา้ งความเปน็ ตวั ละครตวั เอกนนั้ ๆ โดยไมม่ ตี วั มาเปรยี บเทยี บใหเ้ หน็ คณุ สมบตั ทิ ด่ี ใี นตวั ละครเอกได้
เรือ่ งเลา่ นั้นกจ็ ะขาดเสน่หช์ วนตดิ ตามได้ ความเป็นพระเอกท่เี สียสละ เพือ่ ส่วนรวม มอี ดุ มการณ์ มรี กั แท้
จะเด่นชดั ไดก้ ็ต้องมีความเป็นผรู้ ้ายทเ่ี หน็ แกต่ ัว เอาเปรียบสงั คม เจ้าชหู้ ลายใจเข้ามาเปรยี บเทียบ ความ
เป็นนางเอกกเ็ ชน่ ความเปน็ คนขยนั จติ ใจดี มีเมตตา เปน็ แมบ่ ้านแม่เรอื นของนางเอก ก็ตอ้ งมีนางรา้ ยที่
แสนขเี้ กียจ เห็นแก่ตวั สกปรก ไมเ่ ป็นโล้เป็นพายเขา้ มาเปรยี บ ดังน้นั เวลาทเี่ ราพดู ถงึ การสร้างตวั ละคร
นั้นจึงเป็นการมองตัวละครอย่างเชื่อมโยงกันทุกตัว เพราะคาแรคเตอร์ของตัวละครเอกจะชัดเจนได้ต้องมี
คาแรคเตอร์ของตัวละครอ่ืนทมี่ ีคณุ สมบตั ิท่แี ตกต่างกนั ออกไปเขา้ มาเปน็ ตัวเปรยี บ ความเป็นตวั ละครเอก
จงึ จะสามารถเห็นไดอ้ ย่างเดน่ ชดั ในความรูส้ กึ ของผู้ชม