Page 43 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 43
การเล่าเรอื่ งในภาพยนตร์ 8-33
(7) การสร้างตัวละครโดยใช้การขยายหรือการท�ำซํ้า (Characterization through cari-
cature and leitmotif) เพื่อให้ตัวละครไดเ้ ข้าถึงจิตใจและความทรงจำ� ของคนดูมากข้ึน ตวั แสดงก็จะใช้วิธี
แสดงคุณสมบัติอันเป็นลักษณะเด่นหรือบุคลิกภาพของตัวละครให้เป็นไปในลักษณะท่ีมากเกินไปหรือ
บดิ เบอื นออกไป เทคนคิ นเ้ี รยี กวา่ “caricature” (ภาพลอ้ ) ซง่ึ มาจากเทคนคิ ในการวาดการต์ นู อกี วธิ กี าร
หนึ่ง เรียกว่า “leitmotif” คือการสร้างประโยค วลีหรือความคิดของตัวละครนั้นข้ึนมา แล้วให้ตัวละคร
พูดซํ้า ทำ� ซํ้าบ่อยๆ จนกลายเปน็ ตราประจ�ำตัวของตัวละครตัวนนั้
ในการศึกษาตัวละครในภาพยนตร์นัน้ ประเด็นทีน่ ่าสนใจคอื การสรา้ งตัวละครใหใ้ ครเป็นพระเอก
นางเอก ใครเป็นศัตรูผู้ร้าย ใครเป็นตัวตลกน้ันได้ก่อให้เกิดการสร้างภาพตวั แทน (representation) และ
ภาพตายตัว (stereotyping) ใหเ้ กดิ ข้ึนในโลกของความเปน็ จริง บางครัง้ ถูกนำ� ไปใช้ในการประกอบสร้าง
ความหมายให้ชนชาติหน่ึงมีฐานะท่ีอยู่เหนือกว่าอีกชนชาติ ดังจะเห็นได้จากภาพยนตร์อเมริกันแบบ
ตะวนั ตก (western) ทเ่ี ลา่ เรอื่ งการเผชญิ หนา้ ระหวา่ งคนอเมรกิ นั ผวิ ขาวทอ่ี พยพมาจากยโุ รปกบั คนอเมรกิ นั
พื้นเมอื ง (อินเดียนแดง) เพ่ือสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝรง่ั ฝงั่ ตะวนั ออกทีเ่ ข้าไปรุกรานไลท่ แี่ ยง่ ชิงทำ� กนิ
ของชาวอเมรกิ นั พนื้ เมอื ง ภาพยนตรป์ ระเภทนมี้ กี ารประกอบสรา้ งความหมายผา่ นเครอื่ งมอื ในการเลา่ เรอ่ื ง
จากมมุ มองของฝร่ังผิวขาว และเม่ือน�ำแนวคิดในเร่ืองความสัมพันธ์แบบคูต่ รงขา้ ม (binary opposition)
ของ Levi-Strauss (Claude Lévi-Strauss) มาทำ� การวเิ คราะหก์ ารประกอบสรา้ งบคุ ลกิ ตวั ละคร พบวา่
ภาพยนตร์ได้ประกอบสร้างบุคลิกตัวละครให้ชาวอเมริกันพื้นเมืองเป็นคนท่ีมาจากชนบท เช่ียวชาญใน
การขม่ี ้าและใช้ปนื ป่าเถอื่ น ดุรา้ ย ไรอ้ ารยธรรม รักอสิ ระ เป็นอาชญากร เลวรา้ ย ไมซ่ อ่ื สตั ย์ ท�ำทกุ อย่าง
เพราะความโลภ เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งกว่าตัวละครทุกตัวรอบๆ ตัว ยกเว้นพระเอก แต่สุดท้ายต้อง
พ่ายแพพ้ ระเอก ถูกพระเอกยิงตายในท่ีสุด
ต่างจากชาวอเมรกิ นั ผวิ ขาวที่ถกู ประกอบสร้างใหเ้ ปน็ ผู้มอี ารยธรรม มคี วามศิวิไลซ์ เปน็ ผ้มู าจาก
ชนบท เขา้ สเู่ มอื ง แลว้ หวนกลบั สชู่ นบทอกี ครงั้ ในตอนจบ เชย่ี วชาญในการขม่ี า้ การใชป้ นื รกั อสิ ระซอ่ื สตั ย์
เปน็ คนดี แขง็ แกรง่ กว่าตวั ละครทกุ ตัวที่อยรู่ อบตัว แต่ก็มอี ดตี ท่พี ัวพนั กับอาชญากรรมบางอย่าง
ภาพยนตร์ที่มีการประกอบสรา้ งลกั ษณะน้ี เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Shane (1953) (Ben – Shaul,
Nitzan, 2007, pp. 45-46) หรอื ในงานของศริ ิมติ ร ประพนั ธ์ธรุ กจิ ทศี่ กึ ษาความสมั พนั ธไ์ ทย-ลาวในสอ่ื
บนั เทงิ ไทย: ศกึ ษากรณกี ารประกอบสรา้ งอตั ลกั ษณค์ วามเปน็ ลาวจากภาพยนตรเ์ รอื่ ง หมากเตะโลกตะลงึ
เราสามารถเหน็ กระบวนการในการประกอบสรา้ งภาพทางบวกและทางลบใหแ้ กต่ วั ละครในงาน โดยในการ
ประกอบสร้างอัตลักษณ์ความเป็นลาวในภาพยนตร์น้ัน ลาวถูกประกอบสร้างให้เป็นร่างแบบอนารยะ
(uncivilized bodies) ของชนชัน้ แรงงานทีก่ �ำลังพยายามแปลงตัวเองใหก้ ลายเปน็ รา่ งแบบสากลมากขน้ึ
โดยถูกประกอบสร้างให้ทางด้านกายภาพเป็นคนตัวเตี้ย ผิวด�ำ กล้ามใหญ่ ลักษณะบุคลิกเกียจคร้าน
สกปรก ชอบอบายมุข ไม่ฉลาด ซื่อๆ เซ่ืองๆ ลักษณะชีวิตความเป็นอยู่ยากจนและล้าหลังแบบชนบท
ขณะทค่ี วามเปน็ ไทย ถกู ประกอบสรา้ งใหม้ รี า่ งทอี่ ารยะ (civilized bodies) มลี กั ษณะความเปน็ ตะวนั ตก
ไมว่ า่ จะเปน็ การสรา้ งรา่ งกายใหเ้ ปน็ รา่ งของผทู้ มี่ อี ำ� นาจบรหิ ารจดั การสงู สดุ ตวั ละครสว่ นใหญเ่ ปน็ กรรมการ
ตดั สนิ ในสนาม ใสช่ ุดเครื่องแบบ มีนกหวดี หอ้ ยคอ ถือใบเหลือง ใบแดง เปน็ ผูอ้ อกคำ� ส่ังให้ทุกคนทำ� ตาม
เปน็ ผทู้ กี่ า้ วทนั โลกเทคโนโลยสี ารสนเทศ รา่ งกายประดบั ของมคี า่ เพอ่ื แสดงฐานะ ออกกำ� ลงั เพอื่ โชวค์ วาม