Page 40 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 40
8-30 ทฤษฎีและการวจิ ารณภ์ าพยนตร์
ขณะทเ่ี มหร์ งิ (Mehring, 1990) มเี กณฑใ์ นการจำ� แนกตวั ละครทต่ี า่ งกนั ออกไป โดยพจิ ารณาถงึ
บทบาทของตวั ละครซงึ่ เปน็ ตวั กลางในการสอื่ สารแกน่ ของเรอื่ ง และเปน็ สว่ นประกอบโครงสรา้ งซง่ึ จะทำ� ให้
เรอ่ื งน�ำไปสกู่ ารแก้ปญั หา ตวั ละครถกู จ�ำแนกออกเปน็ ประเภทต่างๆ ดงั นี้
(1) บทเดน่ (Protagonist) คอื บทบาทหลัก ทเี่ ป็นตวั ส่อื สารความเป็นแกน่ เรื่อง เป็นบทบาท
ของตัวละครทน่ี ำ� ไปสู่การเปล่ยี นแปลงมากที่สดุ มกี ารพฒั นาและการเติบโต
(2) บทเสรมิ (Modifier) คอื บทบาทของตัวละครท่บี ังคบั ส่งเสริมให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงเติบโต
ของตวั เด่น เปน็ สว่ นประกอบหนง่ึ ของตัวเด่น คอยแนะนำ� เรื่องใหมๆ่ ที่เปน็ สาเหตุของสงิ่ ใหม่ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้น
กบั ตัวเอก
(3) ศัตรู (Opponents) เปน็ บทบาทของตวั ละครทเี่ ผชญิ หนา้ กบั ตวั ละครในบทเด่น เปน็ ตวั ละคร
ที่เรม่ิ ต้นเหตกุ ารณ์ทีจ่ ะสร้างปญั หา ซง่ึ กอ่ ให้เกดิ ผลลพั ธ์ทงั้ ดีและไม่ดี
(4) ตวั เร่ง (Catalyst) เปน็ ตัวแนะน�ำ สร้างสถานการณ์ ข้อมูลใหมๆ่ เพอ่ื ใหเ้ กิดการตอบรบั จาก
บทเดน่ แตไ่ มใ่ ชบ่ ทบาททจ่ี ะเผชญิ หนา้ โดยตรงกบั ปญั หาพรอ้ มบทเดน่ เปน็ บทบาททไี่ มใ่ ชต่ วั กระทำ� หลกั
(5) บทสนบั สนุน (Supporting) เปน็ บทบาทหนึง่ ทเ่ี หมือนตวั เคล่ือนเพ่ือการส่องสว่างและสร้าง
สีสันใหก้ ับบทเด่น เปน็ บทท่ีช่วยให้รายละเอียดเรื่องภูมหิ ลงั และช่วยในการอธิบายสงิ่ ที่เกิดขึ้นในอนาคต
(6) บทบาทประกอบ (Lesser roles) คือ บทบาทของคนท่ีสรา้ งความจรงิ ของสถานการณแ์ ละ
จดั ใหเ้ กดิ เนอ้ื หาสาระของโครงเรอ่ื งโดยรวม เปน็ บทเพมิ่ สสี นั เปน็ สว่ นประกอบรอบๆ สถานการณใ์ นเรอื่ ง
นอกจากน้ยี ังมีการจำ� แนกตวั ละครจากเกณฑค์ ณุ สมบตั ขิ องตัวละคร ออกเป็น 2 ชนดิ ไดแ้ ก่
- ตัวละครผู้กระท�ำ (active character) มีลักษณะเข้มแข็งพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ถูกคุกคาม หรือ
ครอบงำ� จากบคุ คลอน่ื ไดง้ า่ ย สว่ นใหญม่ เี ปา้ หมายและการตดั สนิ ใจเปน็ ของตวั เอง ตวั ละครชนดิ นโี้ ดยมาก
เป็นตัวละครทม่ี กี ารศกึ ษาดี และมักเปน็ เพศชาย
- ตัวละครผู้ถูกกระท�ำ (passive character) เปน็ ตวั ละครทม่ี ลี กั ษณะออ่ นแอ ตอ้ งพงึ่ พาผอู้ นื่ หรอื
ต้องอยู่ภายใต้การดูแลหรือการควบคุมตัวละครอ่ืน ตัวละครผู้ถูกกระท�ำส่วนใหญ่มักเป็นผู้ด้อยการศึกษา
มีฐานะหรือสถานะต่าํ ตอ้ ย โดยมากเปน็ ผหู้ ญิงมากกวา่ ผู้ชาย
“การสร้างตัวละคร”
การสร้างตัวละครนั้นถือเป็นเทคนิควิธีท่ีส�ำคัญในการมัดใจผู้ชม ลักษณะของตัวละครท่ีดึงดูดใจ
ผู้ชมน้ันคือตัวละครที่สามารถท�ำให้ผู้ชมตกหลุมรัก หรือมิเช่นนั้นตัวละครตัวน้ันต้องมีลักษณะท่ีน่าต่ืนตา
ตนื่ ใจ ท้าทาย มีความสลบั ซบั ซ้อนถึงแมว้ า่ คาแรคเตอรน์ น้ั ดจู ะเป็นคนท่ไี มน่ า่ ชื่นชอบกต็ าม โดยตัวละคร
ตวั นจ้ี ะเปน็ ผทู้ ข่ี ับเคล่ือนการกระทำ� ต่างๆ การสรา้ งตวั ละครเพอื่ ให้ผ้ชู มช่นื ชอบอาจเรม่ิ จากการตง้ั คำ� ถาม
วา่ คนลกั ษณะแบบไหนคอื คนทตี่ วั ผเู้ ขยี นบทเองจะรกั เขาตอ้ งมที า่ ทาง ความคดิ การกระทำ� แบบไหน และ
อะไรคือส่งิ ทา้ ทายในชีวติ เขาท่เี ขาจะต้องเอาชนะ หนงั สอื แนะนำ� การเขยี นบทภาพยนตร์บางเล่มนน้ั ถึงกบั
แนะน�ำว่าถ้าเรื่องท่ีคิดไม่สามารถหาตัวละครท่ีเรารักได้ควรสร้างสรรค์เรื่องใหม่ ถ้าเจอตัวละครตัวนั้นแล้ว
แตเ่ ขาไม่ใชต่ วั ละครตัวหลกั ตอ้ งเปล่ยี นเรอ่ื งไปโฟกัสทเ่ี ขาให้เขาเป็นตัวละครตัวหลักแทน