Page 13 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 13
13
แบบประเมินผลตนเองหลังเรียนหน่วยที่ 2
วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักศึกษาเกี่ยวกับเร่ือง “ทฤษฎีภาพยนตร์
พ้ืนฐาน”
ค�ำแนะน�ำ ขอให้นักศึกษาอา่ นคำ� ถามแลว้ เขียนวงกลมล้อมรอบข้อคำ� ตอบทถ่ี ูกตอ้ งทสี่ ดุ
1. ถา้ พจิ ารณาจากโครงสรา้ งใหญๆ่ ของภาพยนตร์ 4. ขอ้ ใดคอื แนวคดิ ทฤษฎภี าพยนตรแ์ นวรปู แบบ
แลว้ การสรา้ งภาพยนตรอ์ าจแบง่ ออกได้ 2 แนว นิยมของอาร์นไฮมน์ (Rudolf Arnheim)
คือขอ้ ใด ก. ศลิ ปะภาพยนตรเ์ ปน็ ผลมาจากความแตก
ก. แนวสัจนิยมและแนวเหนือจรงิ ต่างระหว่างความเป็นจริงทางกายภาพ
ข. แนวรปู แบบนยิ ม 1 และแนวรปู แบบนยิ ม 2 กับความเป็นจริงของภาพยนตร์ (cine-
ค. แนวรูปแบบนิยมและแนวเหนอื จริง matic reality)
ง. แนวรปู แบบนยิ มและแนวสัจนิยม ข. ศิลปะของภาพยนตร์ไม่ได้อยู่ที่การลอก
จ. แนวสจั นิยมและแนวอาวองการ์ด แบบธรรมชาติ แต่อยู่ท่ีการแปลความ
หมายของสิ่งนั้นด้วยรูปแบบของส่ือ
2. นกั ทฤษฎภี าพยนตรช์ าวเยอรมนั คนแรก ทใี่ ช้ ภาพยนตร์
แนวทางทฤษฎีจิตวิทยาเกสตัลต์วิพากษ์ ค. ผสู้ รา้ งภาพยนตรค์ วรมบี ทบาทเปน็ ผแู้ ปล
พฒั นาการทางภาพยนตร์ คอื ใคร ความและผู้ถ่ายทอดความเป็นจริงทาง
ก. มนุ สเตอร์เบิร์ก (Hugo Munsterberg) กายภาพผา่ นกระบวนการทางภาพ แสง
ข. บาลาซส์ (Bela Balazs) มุมกลอ้ ง และอนื่ ๆ มากกวา่ เป็นผ้บู นั ทึก
ค. อารน์ ไฮมน์ (Rudolf Arnheim) เหตุการณ์ธรรมดา
ง. คราเคาเออร์ (Siegfried Kracauer) ง. กลไกการรบั รจู้ ากภาพยนตรแ์ ตกตา่ งจาก
จ. ไอเซนสไตน์ (Sergei Eisenstein) กลไกการรบั รปู้ กตขิ องคนเรา
จ. ถกู ทุกขอ้
3. “ศิลปะภาพยนตร์มีอิทธิพลต่อจิตใจของ
สาธารณชนมาก ถ้าเราไม่อยากอยู่ใต้อ�ำนาจ 5. คราเคาเออร์ (Siegfried Kracauer) นกั ทฤษฎี
ของภาพยนตร์ เราควรมีความรู้เกี่ยวกับ ภาพยนตร์แนวสัจนิยม ชาวเยอรมนั มีความ
ภาพยนตร์” ข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับ เหน็ วา่ ภาพยนตรเ์ ปน็ งานศลิ ปะ ซง่ึ สอดคลอ้ ง
ทฤษฎภี าพยนตร์ของใคร กบั ความคดิ ของอรสิ โตเติลในเรอ่ื งใด
ก. มุนสเตอรเ์ บริ ์ก (Hugo Munsterberg) ก. ศลิ ปะคอื การเลยี นแบบ
ข. บาลาซส์ (Bela Balazs) ข. ศลิ ปะคือรูปทรง
ค. อารน์ ไฮมน์ (Rudolf Arnheim) ค. ศลิ ปะคือการแสดงออกซึ่งอารมณ์
ง. คราเคาเออร์ (Siegfried Kracauer) ง. ศลิ ปะคือประสบการณ์
จ. ไอเซนสไตน์ (Sergei Eisenstein) จ. ศิลปะคือชีวิต