Page 21 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 21

21

แบบประเมินผลตนเองก่อนเรียนหน่วยที่ 4

วัตถุประสงค์	 เพอื่ ประเมนิ ความรเู้ ดมิ ของนกั ศกึ ษาเกยี่ วกบั เรอื่ ง “ทฤษฎภี าพยนตรแ์ นวรปู แบบนยิ ม 2”
ค�ำแนะน�ำ	 ขอให้นกั ศกึ ษาอ่านคำ� ถามแล้วเขียนวงกลมรอบขอ้ คำ� ตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ดุ

1. 	 ข้อใดไม่ใช่ทัศนะของ รูดอล์ฟ อาร์นไฮนม์                        จ. 	 นักแสดงควรแสดงออกให้มากและพูดให้
   เก่ียวกับศลิ ปะในการสรา้ งภาพยนตร์                                  มากเกินจริงเข้าไว้
   ก. 	 ภาพทเี่ ราเหน็ ในธรรมชาตนิ นั้ ไมไ่ ดแ้ ตกตา่ ง
       ไปจากภาพทเ่ี ราเหน็ บนจอภาพยนตรเ์ ลย                     3. 	 ในฉากท่ีชาลี แชปลิน ต้มรองเท้าบู้ตกิน ใน
   ข. 	การวางมมุ กลอ้ งไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใหผ้ ชู้ มเหน็            ภาพยนตร์เร่ือง The Gold Rush (1925)
       แบบจะแจ้งเสมอไป แต่ก็ควรให้ผู้ชมได้                         แสดงความหมายอะไร
       สงั เกตเห็นอย่างใกล้และชดิ ชวนตดิ ตาม                       ก. 	ความหิวท่ตี ้องต่อสู้
   ค. 	การลดความชัดลึกของภาพลงไป ท�ำให้                            ข. 	ความต้องการอาหารของคนงาน
       เกดิ ความสนใจและเกดิ ผลกระทบตอ่ อารมณ์                      ค. 	ต้องการทำ� ใหผ้ ้ชู มเกดิ อารมณ์ขัน
       ของผชู้ มได้                                                ง. 	 แสดงถึงความสกปรกของรองเท้าบตู้
   ง. 	 การจดั แสงเขม้ และจางออ่ น สามารถสรา้ ง                    จ. 	 แสดงความแตกตา่ งระหวา่ งความยากจน
       บรรยากาศของภาพยนตร์และปลุกเร้า                                  กับความรำ่� รวย
       อารมณผ์ ชู้ มได้
   จ. 	 พ้ืนที่ของภาพยนตร์มีจ�ำกัด แต่ถ้าพื้นท่ี                4. 	 “การเคลอ่ื นไหวในภาพยนตร”์ ตามทศั นะของ
       ของการเสนอภาพยนตร์มากขึ้น การจัด                            รดู อลฟ์ อารน์ ไฮนม์ เกิดจากองค์ประกอบใด
       องคป์ ระกอบภาพใหม้ คี วามหมายยงิ่ ยาก                       ก. 	การเคลอ่ื นของวตั ถทุ กี่ ลอ้ งบนั ทกึ ภาพไว้
       ขึ้นเทา่ น้ัน                                               ข. 	ผลของความลึกของภาพและระยะทาง
                                                                       จากกล้องถึงวัตถุ
2. 	 แนวคดิ เกย่ี วกบั “การแสดง” ของ อารน์ ไฮนม์                   ค. 	ผลของกลอ้ งท่เี คลื่อนไหวไป
   คือข้อใด                                                        ง. 	 การปะทะกันของภาพแต่ละช็อตที่น�ำมา
   ก. 	เน้ือหาของสารในภาพยนตร์ท้ังหมดมา                                เรียงกันดว้ ยวิธมี องทาจ
       จากการแสดง                                                  จ. 	 ถกู ทกุ ขอ้
   ข.	 การแสดงออกทางใบหนา้ และการเคลอื่ น-
       ไหวรา่ งกายย่อมใหผ้ ลดีอยา่ งแท้จริง                     5. 	 ค�ำว่า “Juxtaposition” ในความหมายของ
   ค. 	 การแสดงออกบนจอภาพยนตรบ์ างครงั้ อาจ                        มองทาจ คืออะไร
       ท�ำให้คนดูไม่เข้าใจบ้างและอาจผิดพลาด                        ก. 	การน�ำกลอ้ งมาวางไวต้ รงหนา้ ผ้แู สดง
       ไปบ้างเปน็ เรื่องธรรมดา                                     ข. 	การตดั ตอ่ แบบมเี หตกุ ารณส์ องเหตกุ ารณ์
   ง. 	 ผกู้ ำ� กับและนกั แสดงท่ีเก่งต้อง “กระท�ำ”                     เกดิ ขนึ้ พรอ้ มกนั
       การแสดงใหน้ อ้ ยทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะทำ� ได้ ใชก้ ริ ยิ า     ค. 	การน�ำชน้ิ ฟิลม์ สองชิน้ มาวางเรียงต่อกนั
       ทา่ ทางทเี่ ปน็ อยจู่ รงิ มากกวา่ จงึ ประสบผล               ง. 	 การล�ำดับเร่ืองโดยเวลาการเกิดก่อนและ
       ส�ำเร็จ                                                         หลงั
                                                                   จ. 	 การถ่ายภาพให้เห็นเฉพาะด้านข้างของ
                                                                       นักแสดง
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26