Page 40 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 40

40

    แบบประเมินผลตนเองหลังเรียนหน่วยที่ 8

วัตถุประสงค์	เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักศึกษาเก่ียวกับเรื่อง “การเล่าเรื่องใน
              ภาพยนตร์”

ค�ำแนะน�ำ	 ขอใหน้ กั ศึกษาอ่านคำ� ถามแลว้ เขยี นวงกลมล้อมรอบข้อคำ� ตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสดุ

1. 	 ขอ้ ใดต่อไปนี้ กล่าวถึง “การเลา่ เร่ือง” ผิด                     ง. 	 การกระท�ำของตัวละครพบว่ามีฟังค์ชัน
   ก. 	การส่อื สารข้อเทจ็ จรงิ ไปยังผรู้ ับสาร                            ทั้งหมด 31 ฟังกช์ นั ซ่ึงท้งั 31 ฟังกช์ ันน้ี
   ข.	 เรื่องเลา่ จะบรรจุชดุ ลำ� ดับของเหตุการณ์                          จะมกี ารเรยี งลำ� ดบั กอ่ นหลงั อยา่ งแนน่ อน
   ค. 	เรื่องทีเ่ ลา่ อาจเป็นเร่อื งของคน สัตว์ หรอื
       มนษุ ย์ต่างดาวกไ็ ด้                                           จ. 	 ตัวละครมี 7 ประเภท ได้แก่ พระเอก
   ง. 	 เร่ืองที่เล่าอาจจะส้ันมากจบในระยะเวลา                             (hero) ผู้ร้าย (villain) ผู้ให้ (donor)
       ไม่ถึงนาทีหรอื ยาวเป็นมหากาพย์กไ็ ด้                               ผนู้ ำ� สาร (dispatcher) พระเอกตวั ปลอม
   จ. 	 การเลา่ เรอื่ งมคี วามหมายสำ� หรบั ผทู้ ม่ี ชี วี ติ              (false hero) ผู้ช่วยเหลือ (helper) และ
       อยู่หรืออาศัยอยู่ในเร่อื งน้นั ไม่ว่าผูอ้ าศัย                     เจา้ หญงิ (princess)
       นั้นจะเป็นผู้สร้างเร่ืองเล่า ผู้ฟัง หรือผู้
       ตีความเรอ่ื งเล่าน้นั กต็ าม                                4. 	 ขอ้ ใดกลา่ วถงึ แนวคดิ ของนกั วชิ าการสญั วทิ ยา
                                                                      กลุม่ หลังโครงสรา้ งนิยมอยา่ งโรลอ็ งด์ บารธ์ ส์
2. 	 ขอ้ ใดตอ่ ไปนไี้ มใ่ ชก่ ารศกึ ษาการเลา่ เรอ่ื งภายใต้           และฌาคส์ แดรร์ ิดา ผิด
   กระบวนทศั น์การเล่าเรื่อง                                          ก. 	มรณกรรมของผู้ประพันธ์
   ก. 	เล่าเรือ่ งเพ่อื ประกอบสร้างความเป็นจริง                       ข. 	ผรู้ บั สารในฐานะทเี่ ปน็ ผสู้ รา้ งความหมาย
   ข. 	เน้นไปที่ “วิธีการเล่าเรื่อง” มากกว่า                              ให้เกดิ ข้ึนขณะท่ตี ีความสาร
       “เรื่องทีเ่ ล่า”                                               ค. 	สัญญะนั้นก็สามารถผ่านกระบวนการร้ือ
   ค.	 เนอ้ื หาทเ่ี ลา่ มที งั้ ทเ่ี ปน็ “เรอ่ื งแตง่ ” (fiction)         ถอน (deconstruction) และกระบวนการ
       และ “เรือ่ งจรงิ ” (factual)                                       สร้างข้นึ ใหม่ (reconstruction)
   ง. 	 น�ำเอาตรรกะต่างๆ ที่ใช้ในการศึกษา                             ง. 	 โครงสรา้ งการเลา่ เรอื่ งเกดิ จากการปฏสิ มั พนั ธ์
       โลกจรงิ มาใชใ้ นการศึกษาเร่ืองเลา่                                 กนั วา่ ระหวา่ งโครงสรา้ งในการเลา่ เรอ่ื งทงั้
   จ. 	 ไม่ศึกษาเพียงแค่ภาษาพูดและภาษา                                    2 โครงสรา้ ง ไดแ้ ก่ ซนิ แทกมาตกิ (syn-
       เขยี น แต่รวมไปถงึ ภาพ และเสยี งด้วย                               tagmatic) และพาราดกิ มาตกิ (paradig-
                                                                          matic)
3. 	 ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่แนวคดิ ของของวลาดเิ มียร์                    จ. 	 ความหมายในตัวบทไม่เคยมีอย่างหน่ึง
   พร็อพ (Valadimir Propp)                                                เดียว แต่มีลักษณะเป็นการล่ืนไหลของ
   ก. 	โครงสร้างของชดุ ตัวละคร                                            ความหมาย (the play of meanings)
   ข. 	โครงสรา้ งเกย่ี วกบั การกระทำ� ของตวั ละคร                         ข้ึนอยู่กับผูท้ ีต่ ีความสาร
   ค. 	การรอื้ สร้างความหมาย (de-construc-
       tion)
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45