Page 32 - จุลยุทธการวงศ์
P. 32
จุลยุทธการวงศ์ 1188 ฉบับความเรียง (ตอนต้น)
ทุกวันนี้ พระร่วงน้ันพิจารณาเห็นศีลจะไม่บริสุทธ์ิแล้ว ด้วยเหตุน้ันจึงสึก
ออกจากผนวช แล้วกราบทูลพระกรุณาสมเด็จพระราชบิดา ด้วยปรารถนา
จะสร้างพระนครในที่สมควรว่าข้าแต่สมเด็จพระบิดา พระองค์ได้ทรงพระ
กรุณาโปรดอนุญาต ให้ข้าพเจ้าสร้างพระนครสักเมืองหนึ่งในท่ีสมควร
พระเจ้าศรีธรรมาโสกราชได้ทรงฟังเห็นชอบด้วย จึงอนุญาตให้กระทำ
พระนครว่า ดูกร เจ้าผู้เป็นลูกรัก เจ้าว่าทั้งนี้ชอบแล้ว เมืองเก่าบุราณชื่อ
ว่าเมืองสัชนาไล๑ อยู่ใกล้ริมแม่น้ำชื่อว่าปาฬอกยนที๒ ใกล้คีรีบรรพตชื่อว่า
เขาสัชนาไล๓ เมืองนั้นประกอบไปด้วยพระบรมธาตุ พระฤๅษีช่ือว่าพระ
สัชนาไลดาบส๔ เป็นพระอัยกาชวดแห่งเรา ท่านให้สร้างเมืองน้ันไว้แต่ก่อน
เราสร้างใหม่ให้ชื่อเมืองสวรรคโลกเถิด เจ้าพระร่วงได้ฟังดังนั้นก็ยินดี จึง
ถวายบังคมลาสมเด็จพระบิดาไปสร้างเมืองนั้น ให้พูนดินก่อถนนกว้าง ๙
วา แต่เมืองสุกโขไทยถึงเมืองสัชนาไลน้ันทางไกลประมาณ ๔ โยชน์เศษ
เจ้าพระร่วงเสวยลูกในมะขามคั่วสุกแล้วเอาเปลือกน้ันโปรยไป ๒ ข้างถนน
นั้น กล่าวด้วยวาจาสิทธ์ิว่า เปลือกเม็ดในมะขามน้ันจงเป็นต้นมะขามไป
เถิด เปลือกเม็ดในมะขามนั้นก็ค่อยงอกเป็นต้นมะขามเหมือนเม็ดในดิบน้ัน
ทั้งสองข้างถนนเป็นต้นมีใบดอกฝัก ไม่มีแต่เล็ด๕ ใน มีมาปรากฏตราบเท่า
๑ปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันในช่ือว่า ศรีสัชนาลัย แต่เรื่องจุลยุทธการวงศ์ (ความเรียง) ท่ี
พิมพ์ในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๖ ฉบับ พ.ศ. ๒๔๘๐ ใช้ว่า “เมืองสัชนาไลย” ส่วนใน
ประชุมพงศาวดารเล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒ ใช้ว่า “เมืองสัชนาลัย”
๒แม่น้ำยม
๓ช่ือน้ี ในจุลยุทธการวงศ์ (ความเรียง) ท่ีพิมพ์ในประชุมพงศาวดารภาคท่ี ๖๖ ฉบับ
พ.ศ. ๒๔๘๐ ใช้ว่า “เขาสัชนาไลย” ส่วนในจุลยุทธการวงศ์ ฉบับพิมพ์วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์
พ.ศ. ๒๔๘๐ และประชุมพงศาวดาร เล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒ ใช้ว่า “เขาสัชนาลัย”
๔ชื่อนี้ในจุลยุทธการวงศ์ที่พิมพ์ในประชุมพงศาวดารภาคท่ี ๖๖ ฉบับ พ.ศ. ๒๔๘๐ ใช้ว่า
“พระสัชนาไลยดาบส” ส่วนในประชุมพงศาวดารเล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒ ใช้ว่า
“พระสัชนาลัยดาบส”
๕“เล็ด” เป็นคำโบราณท่ีเรียกย่อจากคำว่า “เมล็ด”