Page 20 - เทพนิยายสงเคราะห์เรื่อง เมขลา-รามสูร และพระคเณศ
        P. 20
     10
      ๏	บัดนั้น พิเภกผ ู้มีอัชฌาสัย ตกใจก อดข้อพระบาทไว้ แล้วกราบท ูล
ไปท ันที  ไม่ค วรพระบาทจะกริ้วโกรธ  องค์ปะโรตเทเวศเรืองศรี  อันธรรมดา
โลกป ระเวณี  ย่อมม ีแต่กาลก่อนม า  ครั้นพ ิรุณออกจากวิมาน  ก็บ ันดาลฝน
ตกในแ หล่งห ล้า  ฝูงสัตว์ทั่วทั้งโลกา  ได้อาศัยน้ำฟ ้าส ำราญใจ  จงสั่งศรไปไล่
พลาหก  อย่าให้ฝนตกในที่ใกล้  มรรคาก็จะไม่ย ากใจ  ภูวไนยจ งทรงพระเมตตา
ฯ ๘ คำ ฯ
      ๏	เมื่อน ั้น  พระพรตส ุริยวงศ์นาถ า ได้ฟ ังส ั่งศ รศักดา  ผ่านฟ้าผาด
แผลงไปทันที ฯ ๒ คำ ฯ
      ๏	เสียงสนั่นครั่นครื้นอัมพร ศรไล่พลาหกเรืองศรี ทั้งปะโรตรามสูร
อสุรี นางมณีเมขลาก็ห นีไป ฯ ๒ คำ ฯ
      เรื่องหลังนี้มียักษ์ถือขวานชื่อปะโรต แปลกเข้ามาแทรกอีกตนหนึ่ง
ยักษ์ชื่อปะโรตนี้ ออกจะไม่ค่อยได้ยินชื่อเหมือนรามสูร คงมีชื่อปรากฏอยู่ใน
หนังสือรุ่นเก่าก็แต่บางเรื่อง เช่นในนารายณ์สิบปางกล่าวว่า “พระอิศวรทรง
รังสรรค์นางมณีเมขลาสำหรับรักษามหรรณพ แล้วบังเกิดอสูรปะโรตรามสูร”
ในนิราศพระยาตรังกล่าวไว้ว่า
	 	 	 ปะโรตเทเวศขว้าง 	          ขวานข วัญ แขวนแม่
	 หวาดส ะดกแ ดผัน	 	            ผากฟ้า
	 เวหาศ ป่วนเป็นควัน	 	         คลี่คลื่น น้อยฤๅ
	 แผลงซ ึ่งป ลายเปลวจ้า	 	      จ่อจ ้อท รวงก ง
      ในโคลงบทนี้ ไม่ได้กล่าวถึงรามสูร และในนารายณ์สิบปางเรื่อง
ข้างต้น ก็เอาคำว่าปะโรตรามสูรรวมต่อกัน อันที่จริงปะโรตกับรามสูรนั้นคง
เป็นตัวเดียวกัน หากเรื่องในรามเกียรติ์แยกออกเสียเป็นสองตัว ซึ่งจะยกเอา
ไว้ก ล่าวในท ีหลัง จะข อพ ูดเรื่องเมขลารามสูรในรามเกียรติ์ท ี่ยกเรื่องม าให้อ ่าน
แล้วเสียก่อน
      เมขลารามสูร ตามท ี่บรรยายม า ชี้ให้เห็นอยู่อย่างหนึ่ง ว่าเป็นเรื่อง





