Page 37 - เทพนิยายสงเคราะห์เรื่อง เมขลา-รามสูร และพระคเณศ
P. 37
27
ชื่อมารวมเป็นเรื่องเดียวกันเสีย และจะเป็นด้วยเหตุดั่งที่ ม.เลวีสันนิษฐานนี้
กระมงั ในค ตขิ องพ วกผ ู้ไทยท างภ าคอ ีสานข องเรา จึ่งม ผี ฟี ้าผ ูห้ ญิงช ื่อว่าเมขลา
โดยโอนเอาช ื่อเมขลาน ี้มาให้ผีฟ้าตนน ั้น (ดูในเรื่องล ัทธิธรรมเนียม ภาค ๑๘
ตอน ๒) ผีฟ้าในที่นี้หมายความถึงเทวดา คงเป็นคำที่ใช้เรียกเทวดามาก่อน
ที่เราได้คำว่าเทวดาม าจากอ ินเดีย พอเราได้ค ำว่าเทวดาม าใช้แ ทนคำว่าผี ซึ่ง
เป็นคำกลาง ๆ หมายถ ึงจำพวกอมนุษย์ จะเป็นเทวดาหรือภูตผีก ็ได้เลยต้อง
ตกต่ำ มีความห มายแ คบเข้า ดังที่เข้าใจก ันอ ยู่ในเวลาน ี้
อันลักษณะของฝ นในต ้นฤ ดู ว่าท างฝ ่ายค ติของอินเดีย ดูเหมือนจะไม่
กลา่ วถ งึ วา่ เปน็ ห นา้ ทขี่ องเทพองค์ใดน อกจากพ ระอนิ ทร์ ซึง่ ในสมยั พ ระเวทเปน็
เทพบดีประจำฟ ้าอ ากาศแ ละฝ น ที่โลกธาตุเกิดฟ ้าแลบฟ้าล ั่นอยู่ห วั่นไหว ก็ว่า
เพียงเป็นเพราะพระอินทร์ทรงขว้างสายฟ้าวชิราวุธไปสังหารศัตรู เหตุฉะนั้น
เมขลารามสรู ท ี่ ม.เลวี มคี วามเหน็ วา่ เปน็ เทพข องไทยม าแ ตเ่ ดมิ น ัน้ ด กู เ็ ขา้ ที แต่
เห็นจะส ืบสาวราวเรื่องได้ย ากส ักห น่อย เพราะถ ้าม ีจริงก็ค งลืมกันเสียน านแล้ว
แม้แต่ทางภาคอีสานซึ่งประชาชนชาติไทยในบางหมู่บางเหล่ายังคงรักษาคติ
ของไทยไวไ้ ดด้ กี วา่ เพราะความเจรญิ ในค ตอิ ยา่ งใหมย่ งั ไมแ่ พรห่ ลาย แตก่ ระนัน้
ความรู้เรื่องฟ ้าแลบฟ ้าร้อง เท่าท ี่ส อบถามม า ก็ม ีชื่อเป็นเมขลารามสูรเสียแ ล้ว
ยังม ีที่จะสอบถามได้อ ีกท างห นึ่ง ก็ค ือค ติทางจีน เพราะไทยก ับจีนเคยค ลุกคลี
กันมาช้านานตั้งแต่ด ึกดำบรรพ์ แต่เมื่อส อบห าด ู ก็ได้เรื่องไปอีกทางหนึ่ง คือ
มีเค้าอ ยู่น ิด ๆ ก็ท ี่รามสูรข องจีนน ั้นถ ือข วาน บางทีก ็แ ถมถ ือส ิ่วด ้วยอ ีกม ือห นึ่ง
ส่วนเมขลาจีนถ ือกระจกเงา ฉายแสงเป็นฟ้าแลบ กระจกเงากับดวงแ ก้วด ูก ็พ อ
จะไปก ันได้ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องฟ ้าฝ นน ี้ ทางฝ ่ายจีนม ีค วามค ิดเห็นในช ั้นด ั้งเดิม
ที่ว่ามีเป็นอ ย่างไร ถ้าจะนำม าเล่าไว้ด ้วยก ็เห็นจะเข้าเรื่องก ันได้
รามสูรของจีนนั้น เรียกตามส ำเนียงแต้จิ๋วว่าลุ่ยก ง มีรูปร่างน่าเกลียด
น่ากลัวคือตัวเป็นคนแต่หัวมีผมไว้อย่างลิง ส่วนหน้าเป็นอย่างครุฑ ผิวเนื้อ
ดำหรือเขียวและมีปีกอย่างค้างคาว ที่ตีนมีเล็บอย่างเหยี่ยว รูปลักษณะของ