Page 100 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 100
3-46 การส ่งเสริมสุขภาพแ ละก ารป้องกันโรค
ตัวก ำหนดโอกาสในการสัมผัสปัจจัยเสี่ยง โอกาสในก ารเกิดโรคและก ารบาดเจ็บ รวมทั้งการเกิดผลกระท บทางสังคม
จากการป่วยและบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม บริบทของสังคมรวมทั้งบริบททางนโยบายอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงได้
เช่นเดียวกัน
กลไกที่สัมพันธ์กับกรอบแนวคิดดังกล่าวประกอบด ้วยกลไก 4 ประการค ือ 1) การจัดช่วงชั้นทางสังคม มี
การจ ัดแ บ่งท รัพยากรในส ังคมไปย ังก ลุ่มค นต ่างๆ โดยไม่เสมอภ าคก ัน คนท ีอ่ ยูใ่นก ลุ่นช นชั้นล ่าง มักจ ะได้ร ับส ่วนแ บ่ง
ทางท รัพยากรน้อยและไม่เพียงพ อ 2) โอกาสก ารส ัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงท ี่แตกต่างก ันระหว่างช นชั้นต่างๆ 3) กลไกของ
การเกิดโรคและการบ าดเจ็บเมื่อส ัมผัสก ับปัจจัยเสี่ยง ซึ่งจะสัมพันธ์กับป ัจจัยทางช ีววิทยาท ี่แตกต่างก ัน หรือสัมพันธ์
กับระดับการศึกษาและสภาพการทำงานระหว่างคนในชนชั้นที่ต่างกัน และ 4) การเกิดผลกระทบจากโรคและการ
บ าดเจ็บต ่อป ัจจัยท างส ังคม เช่น ผลกร ะท บต ่อร ายได้ และส ภาพค วามเป็นอ ยู่ท ี่แ ตกต ่างก ันร ะหว่างช นชั้น คนในช นชั้น
ล่างจ ะได้ร ับผลกระท บทางเศรษฐกิจท ี่ส ูงกว่า หากม ีการเจ็บป ่วยเกิดขึ้น
สัดส่วนของประชากรตามระดับรายได้ที่รายงานการเจ็บป่วยแบบที่ไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
มลี กั ษณะใกลเ้ คยี งก บั ก ารเจบ็ ป ว่ ยท ตี่ อ้ งเขา้ ร บั ก ารร กั ษาในโรงพ ยาบาล กลา่ วค อื ประชากรก ลุม่ ร ายไดต้ ำ่ ส ดุ ม รี ายงานว า่
เจ็บป ่วยท ั้งส องล ักษณะในส ัดส่วนส ูงท ี่สุดค ือ ร้อยล ะ 26 ในข ณะท ีป่ ระชากรก ลุ่มร ายไดส้ ูงสุดม สี ัดส่วนจ ากก ารร ายงาน
ว่า เจ็บป่วยเพียงร ้อยล ะ 15 ซึ่งถ ้ามีร ายงานว่า ป่วยเท่าก ันในแ ต่ละกลุ่มร ายได้ ควรจะมีส ัดส่วนเท่ากันค ือ ร้อยล ะ 20
ฉะนั้น จึงอ าจก ล่าวได้ว ่า ฐานะท างเศรษฐกิจสังคมข องป ัจเจกห รือค รัวเรือนส่วนใหญ่ม ีแ นวโน้มท ี่ส ัมพันธ์กับ
ภาวะก ารเจ็บป ่วยโดยท ั่วไป ซึ่งเป็นการร ายงานว่า ป่วย (Self-Reported Illness) รวมทั้งภาวะท ุพพลภาพที่เป็นผ ลมา
จากการขาดก ารด ูแลท ี่เหมาะสม
ในบ างค รั้ง การว ิเคราะห์ค วามส ัมพันธร์ ะหว่างเศรษฐกิจส ังคมข องค รัวเรือนก ับส ุขภาพม ขี ้อจ ำกัดเนื่องจากไม่
สามารถเชื่อมข ้อมูลเศรษฐกิจส ังคมข องค รัวเรือนก ับข ้อมูลส ุขภาพได้ การว ิเคราะหฐ์ านะท างเศรษฐกิจส ังคมข องพ ื้นที่
กับส ุขภาพ จะช ่วยส ะท้อนค วามส ัมพันธ์ได้ในร ะดับห นึ่ง หรือช ่วยส ร้างส มมติฐานบ างอ ย่าง เพื่อก ารศ ึกษาย ืนยันต ่อไป
ทั้งนี้เนื่องจากมีข ้อจ ำกัดในก ารพ ิสูจน์ค วามส ัมพันธ์เชิงเหตุและผล อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่
เองอ าจจ ะม ีอ ิทธิพลต ่อส ุขภาพ โดยเป็นอ ิสระจ ากป ัจจัยท างเศรษฐกิจส ังคมข องค รัวเรือน หมายความว ่า การอ าศัยอ ยู่
ในพ ื้นทีท่ ีม่ ภี าวะเศรษฐกิจส ังคมต ่างก ันอ าจจ ะส ่งผ ลต ่อส ุขภาพท ีแ่ ตกต ่างก ันได้ ถึงแ ม้ว่า ครัวเรือนจ ะม ฐี านะเศรษฐกิจ
สังคมท ี่ใกล้เคียงก ัน
จากการวิเคราะห์ความส ัมพันธ์ระหว่าง ภาวะการข าดสารอ าหารข องเด็กอ ายุ 0-5 ปี กับรายได้เฉลี่ยในระดับ
จังหวัดใน พ.ศ. 2542 พบว ่า อัตราการข าดสารอ าหารในเด็กร ะดับจังหวัดม ีความส ัมพันธ์ก ับรายได้เฉลี่ยต ่อค รัวเรือน
ต่อเดือนร ะดับจังหวัด กล่าวค ือ จังหวัดท ี่ม ีรายได้เฉลี่ยสูง มีแนวโน้มที่จะมีอัตราก ารข าดส ารอาหารในเด็กลดน ้อยลง
ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับการเข้าถึงส ารอาหารโปรตีนแ ละพลังงานข องค นในพื้นที่
นอกจากนี้ ความแตกต่างของการป่วยและการตาย ระหว่างพื้นที่ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสังคมต่างกันคือ
การม ปี จั จยั เสีย่ งท ตี่ า่ งก นั ร ะหวา่ งพ ืน้ ที่ เชน่ ระหวา่ งพ ืน้ ทใี่นเขตเทศบาลแ ละน อกเขตเทศบาล คนท อี่ าศยั ในเขตเทศบาล
มสี ัดส่วนข องค นท ีม่ รี ะดับโคเลสเตอรอลส ูง (มากกว่า 200 มิลลิกรัม %) สูงก ว่าค นท ีอ่ าศัยอ ยูน่ อกเขตเทศบาลป ระมาณ
ร้อยละ 18
ลักษณะเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ในแง่ของการตาย ภาวะเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่มีอิทธิพลที่แตกต่างกันได้
ระหว่างโรคต ่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากป ัจจัยเสี่ยงในก ารเกิดโรคเหล่านั้นได้รับอิทธิพลที่แตกต่างก ันจากภ าวะทางเศรษฐกิจ
สังคมในแ ต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ ยังม ีห ลักฐานการศ ึกษาว ิจัยในต่างป ระเทศที่บ ่งช ี้ความสัมพันธ์ระหว่างภ าวะเศรษฐกิจสังคมข อง
พืน้ ทกี่ บั ส ขุ ภาพข องค นในพ ืน้ ทที่ นี่ อกเหนอื ไปจ ากฐ านะท างเศรษฐกจิ ส งั คมข องค รวั เรอื น ทัง้ นรี้ วมถ งึ ค วามไมเ่ สมอภ าค
ลขิ สิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช