Page 267 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 267
การสื่อสารด ้านสุขภาพแ ละความร ู้ค วามสามารถด้านสุขภาพ 9-21
ความส นใจฟ ัง เพราะม ีค วามร ู้สึกว ่า ผู้พ ูดร ู้ไม่จ ริง/หรือไม่มีค วามจ ริงใจ ฯลฯ ในบ างค รั้งก ารนำเสนอข ้อมูลอ อกไป ถ้า
ผู้ฟังเชื่อ/ผู้รับส ารไม่เชื่อถ ือ การส่งสารนั้นจ ะไม่บรรลุว ัตถุประสงค์เช่นกัน
3) ความรู้ท ี่เกี่ยวเนื่องก ัน
(1) ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องการจะสื่อสาร ถ้าผู้ส่งสารไม่มีความรู้เรื่องที่ต้องการจะ
สื่อสาร ผู้ส่งส าร/ผู้พ ูดจะไม่สามารถอธิบายให้ผ ู้รับส าร/ผู้ฟังเข้าใจข ้อมูลได้
(2) ความรู้เกี่ยวกับผู้รับสารของตน สามารถช่วยให้การสื่อสารประสบความสำเร็จตาม
ความม ุ่งห มายได้ในก ารส ื่อสาร ผู้ส ่งส ารต ้องว ิเคราะห์ให้ได้ว ่า ผู้ฟ ังห รือผ ู้รับส ารน ี้ ใครม ีความร ู้ความส ามารถอ ย่างไร
ใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร เช่น ถ้าพูดกับชาวอเมริกันโดยใช้ภาษาไทย ความสำเร็จในการสื่อสารคงไม่เกิด หรือใช้
ภาษาศัพท์เทคนิคด ้านก ารแพทย์พูดก ับผ ู้ป่วยที่ไม่ใช่บุคลากรท างการแ พทย์ ผู้ป่วยค งไม่เข้าใจเช่นกัน เป็นต้น
4) สถานภาพท างส ังคม ในว ัฒนธรรมไทย สถานการณ์ท างส ังคมม ีผ ลต ่อก ารส ื่อสารด ้วยเช่นก ัน
สังเกตได้ง ่ายๆ จากการไหว้ ถ้าไหว้ผ ู้ม ีส ถานภาพท ี่สูงกว่าทางส ังคม ก ารย กมือไหว้จะยกมือส ูงถ ึงปลายจ มูก ในขณะ
ที่ไหว้เด็กจ ะย กมือร ะหว่างอ ก การพ ูดห รือก ารส ื่อสารข องผ ู้ท ี่อ ยู่ในส ถานภาพท ี่ต ่ำก ว่าอ าจไม่ก ล้าแ สดง/พูดค วามร ู้สึก
ที่แท้จ ริง เช่น ลูกจ้างส ื่อสารกับนายจ้าง ลูกน ้องสื่อสารกับล ูกพี่ เป็นต้น
5) ขนบธรรมเนียมป ระเพณี เป็นส ิ่งก ำหนดแ นวคิดข องบ ุคคลในส ังคม เช่น การแ ต่งก าย การก ิน
การบ ันเทงิ เปน็ ต้น สิ่งเหลา่ น ที้ ำใหบ้ คุ คลม คี วามร ูค้ วามค ิดท ีแ่ ตกต า่ งก นั หากค ูส่ ือ่ สารไม่มคี วามร ูเ้รือ่ งข นบธรรมเนยี ม
ประเพณีของกันและกัน อาจทำให้เกิดความผิดพลาดทางการสื่อสารได้ เช่น พฤติกรรมการส่ายหน้าของชาวอินเดีย
แปลว่า ยอมรับในขณะท ี่ส ังคมไทยแ ปลว่า ไม่ย อมรับ เป็นต้น
1.2 ปัจจยั ดา้ นส ่อื เนื้อหาในการส ื่อสารต้องมีความช ัดเจนและมีความสอดคล้องตรงต ามความต้องการของ
ผู้รับสาร ถ้าเป็นสิ่งท ี่ผู้รับส ารอยากรู้ ตรงก ับป ัญหาข องตนเองจ ะท ำให้เกิดความสนใจ ตั้งใจฟัง
1.3 ปัจจัยด้านช่องทางการส่ือสารและผู้รับสาร ปัจจุบันช่องทางการสื่อสารมีการพัฒนาอย่างมากถึง
ขั้นสามารถประชุมหรือสัมมนาข้ามทวีปกันได้ ซึ่งช่องทางการสื่อสารที่จะนำมาใช้ในการสื่อสารผู้ส่งสารต้องวิเคราะห์
ถึงความสามารถของผู้รับสาร/กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร ถ้าหากผู้รับสารขาดศักยภาพในการเข้าถึงช่องทาง
การสื่อสาร หรือไม่มีค วามรู้ในก ารใช้ช ่องทางการส ื่อสาร ภาษา สัญลักษณ์ที่ใช้ จะทำให้ก ารส ื่อสารไม่ประสบผ ลสำเร็จ
ตัวอย่างเช่น การส ่งส ารห รือข ้อมูลบ นแ ผ่นผ ับให้บ ุคคลท ี่อ ่านห นังสือไม่อ อกด ้วยก ารใช้ภ าษาเขียนค งไม่เกิดป ระโยชน์
การสื่อสาร ต้องเปลี่ยนมาใช้รูปภาพแทน ผู้รับส ารไม่มีโทรทัศน์ ส่งข้อมูลข่าวสารทางโทรทัศน์คงไม่เกิดป ระโยชน์
1.4 ปจั จยั ด า้ นส ง่ิ แ วดลอ้ มข องก ารส อื่ สาร การส ือ่ สารไมไ่ ดเ้ กดิ ข ึน้ อ ยา่ งเดยี ว การส ือ่ สารท กุ ค รัง้ จ ะเกดิ ข ึน้ ภ าย
ใต้ส ิ่งแ วดล้อมอย่างใดอ ย่างห นึ่งเสมอๆ โดยเฉพาะการส ื่อสารด้านส ุขภาพ คู่สื่อสารภายใต้การให้ข้อมูลเพื่อผู้รับส าร
อยู่ในส ภาพแ วดล้อมใด ระยะใด ตัวอย่างเช่น ถ้าห ากให้ข ้อมูลในก ารป ฏิบัติตนเพื่อป ้องกันโรคไข้ห วัดนกในระยะที่ม ี
การร ะบาดข องโรคไขห้ วดั น กเกดิ ข ึน้ จะส ง่ ผ ลใหผ้ ูร้ บั ส ารม คี วามส นใจต ัง้ ใจร บั ส ารม ากข ึน้ หรอื ก ารใหข้ อ้ มลู ท สี่ อดคลอ้ ง
กับส ภาพค วามเป็นอยู่ข องผ ู้รับส ารจะทำให้ผ ู้รับส ารม ีความส นใจมากข ึ้น เช่น ถ้าผ ู้รับสารประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ในการประกอบอาชีพของผู้รับสารพบว่า ผู้รับสารเคยเกิดปัญหาสุขภาพที่สอดคล้องกับการที่นักศึกษา/ผู้ส่งสารให้
ข้อมูล การส ื่อสารจะม ีประสิทธิภาพเพิ่มม ากขึ้น เป็นต้น
1.5 ปจั จยั ดา้ นลักษณะการสื่อสาร ลักษณะก ารส ื่อสารมีผ ลต่อก ารส ื่อสารอย่างม าก ตัวอย่างเช่น
1) การสื่อสารทางเดียว/หรือสองทาง มีข้อพิสูจน์มากมายว่า การสื่อสารทางเดียวให้คุณค่าน้อยกว่า
สื่อสารส องท างท ี่ให้คู่ส ื่อสารส ะท้อนย ้อนค วามค ิด คู่ส ื่อสารจ ะมีความร ู้ ความเข้าใจ ได้ม ีประสิทธิภาพม ากกว่า เพราะ
มีโอกาสย ้อนถ ามข ้อมูลท ี่ผ ู้รับฟ ังไมเ่ข้าใจห รือผ ู้ส ่งส ารอ าจถ ามก ลับว ่า เข้าใจอ ย่างไร ถือเป็นการต รวจส อบค วามเข้าใจ
ไปด ้วย
ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช