Page 269 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 269
การสื่อสารด้านสุขภาพและค วามรู้ค วามสามารถด้านส ุขภาพ 9-23
2.3 ลักษณะความหมายของภาษา เนื่องจากบุคคลรับรู้สิ่งต่างๆ จากสิ่งแวดล้อมทางกายภาพต่างๆ และ
ระเบียบวิธีปฏิบัติของสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมซึ่งส่งผลต่อการให้ความหมายของข้อมูล ตัวอย่าง
เช่น ผู้ป่วยรายหนึ่งไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช ภายหลังยื่นบัตรในกล่องการตรวจสุขภาพ พยาบาลบอก
ผู้ป่วยรายนี้ว ่า ให้ไปรอที่ฝั่งตรงข้าม (โรงพยาบาลศิริราชตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช
คือ ท่าพระจันทร์) จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งว ัน ผู้ป ่วยกลับมาพ บพ ยาบาลอ ีกพร้อมถามว ่า ตนเองรออ ยู่ต ั้งนานท ำไม
ไม่เรียกไปตรวจ พยาบาลจะถามผู้ป่วยเช่นกันว่า เรียกผู้ป่วยตั้งหลายครั้งผู้ป่วยไปอยู่ที่ไหนมา ผู้ป่วยตอบว่า คุณ
พยาบาลให้ไปร อฝ ั่งต รงข้าม ผู้ป ่วยจ ึงไปรอที่ท ่าพระจ ันทร์ เนื่องจากการให้ความห มายเป็นส ิ่งส ำคัญ การส ื่อสารเพื่อ
ให้ม ีค วามเข้าใจต รงกันจ ึงต ้องม ีก ารสะท้อนค วามค ิดร ะหว่างคู่สื่อสาร
2.4 การไ มเ่ ปลย่ี นแปลงค วามค ดิ ประสบการณ์เดิมข องบ ุคคลต อกย้ำพ ฤติกรรมแ บบเดิมๆ ทีค่ นๆ นั้นป ฏิบัติ
แล้วประสบความสำเร็จได้ผลตามสิ่งที่ตนเองมุ่งหวัง ตัวอย่างเช่น แดงที่ชอบร้องเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ไม่ว่า
แดงจะไปร้องเพลงที่ใดๆ จะได้รับคำชมเสมอๆ ว่า ร้องเพลงได้ไพเราะ จนแดงเกิดความเชื่อว่า ตนเองร้องเพลงได้
ไพเราะจริงๆ อยู่ม าวันห นึ่งแ ดงได้มาพบกับนักแต่งเพลงช ื่อดังมาบอ กว่า การร ้องเพลงข องแดงร้องไม่เข้าจ ังหวะ ร้อง
เพลงคร่อมจ ังหวะ แดงไมเ่ชื่อท ีน่ ักแ ต่งเพลงบ อก ทั้งนีเ้พราะม คี นต ั้งม ากมายท ีช่ มว ่า แดงร ้องเพลงไพเราะ เพราะค วาม
เชื่อท ี่สั่งสมมาเป็นเวลานานทำให้แดงไม่เชื่อท ี่น ักแต่งเพลงบ อก
2.5 การห้อยแขวนการตัดสินใจ เมื่อเห็นพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งแล้ว คนให้ความหมายถึงพฤติกรรม
นั้นทันที โดยไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบถึงที่มาที่ไปของพฤติกรรมของบุคคล ตัวอย่างเช่น ถ้าเห็นนักเรียนหลับใน
ห้องเรียน ครูผู้สอนมักจะตัดสินว่า นักเรียนที่หลับในห ้องเรียนเป็นนักเรียนท ี่ขี้เกียจไม่สนใจการเรียน โดยไม่ทราบ
ว่า ก่อนที่นักเรียนที่นั่งหลับในชั้นเรียนจะมาเข้าชั้นเรียน นักเรียนคนนั้นทำรายงานทั้งคืนเพื่อส่งให้ครูในชั่วโมงนี้
การตัดสินสิ่งที่เห็นท ันทีค วามคิดเช่นนี้ ทำให้ต ัดสินใจผิดได้ ทำให้ก ารสื่อสารผิดพลาด
2.6 การม คี วามค ดิ ว า่ ต นเองร มู้ าก หรอื อ ปุ มาเหมอื นช าล น้ ถ ว้ ย ถ้าบ ุคคลใดค ิดว ่า ตัวเองร ูท้ ุกเรื่องจ ะท ำใหป้ ิด
กั้นก ารรับข้อมูล ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสาร เป็นการป ิดกั้นการรับข ้อมูลทำให้ป ฏิเสธท ี่จ ะร ับข้อมูลอ ื่นๆ เปรียบ
เสมือนช าที่ล ้นถ้วย เพราะโดยทั่วๆ ไปแ ล้วในชีวิตจริงไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง ดังสำนวนไทยท ี่ว ่า “เส้นผมบังภ ูเขา” การป ิด
กั้นก ารรับข ้อมูลโอกาสที่จ ะเปลี่ยนแปลงต นเองจะเกิดขึ้นยาก
2.7 การมองข้ามความแตกต่าง การมองข้ามความแตกต่างมีผลเสียต่อการสื่อสารเป็นอย่างมาก เพราะ
ผู้ส ื่อสารจ ะม ีค วามค ิดอ ยู่เสมอว ่า ทำไมเรื่องง ่ายแ ค่น ี้ฟ ังไม่เข้าใจไม่รู้เรื่อง เรื่องน ี้เป็นเรื่องง ่ายแ ท้ๆ แต่เนื่องจากบ ุคคล
มีค วามแ ตกต่างก ันทั้งท างด ้านก ายภาพ และจิตใจ จากส ิ่งเร้าท ั้งท างด ้านความเป็นอยู่ ระดับการศ ึกษา ประสบการณ์
การประกอบอาชีพ สภาพสังคมส ิ่งแ วดล้อม ถ้าผ ู้สื่อสารมองข้ามความแ ตกต ่างจ ะขาดก ารให้ข ้อมูลที่ค รบถ้วน เพราะ
คิดเอาเองว่า ผู้อื่นคงคิดเช่นเดียวกับที่ตนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักสุขศึกษามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเห็นถึง
ความแ ตกต ่างของบ ุคคล จึงจ ะสามารถช่วยให้คนป รับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้
3. ปัญหาของก ารส อ่ื สารดา้ นส ขุ ภาพข องป ระเทศไทย
กองสุขศึกษา ได้เผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพในรูปแบบการดำเนินการศึกษาผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ
และได้มีการพัฒนาการสื่อสารด ้านส ุขภาพ ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก ซึ่งสื่อมีเพียงเอกสารและหนังสือจนก ระทั่งป ัจจุบัน
การพัฒนาทางด้านการสื่อสาร การให้ข้อมูลทางด้านสุขภาพมีการพัฒนามาเป็นลำดับ ตั้งแต่การสื่อสารทางเดียว มา
เป็นการสื่อสารสองทาง จนกระทั่งในปัจจุบันได้นำเอาสื่อที่มีการพัฒนาอย่างมากมายสามารถนำไปใช้กับคนหมู่มาก
ให้มีก ารเห็นภ าพ ได้ยินเสียง มีการโต้ตอบกันได้ และได้นำเอาค วามร ู้เรื่องการส ร้างพลัง มาใช้ในการให้ข้อมูลท างด ้าน
สุขภาพ โดยการให้ป ระชาชนร่วมรับรู้ ร่วมแ ลกเปลี่ยนความร ู้ ร่วมแสดงค วามคิดเห็น ความต ้องการข องต นเอง โดย
ลิขสิทธขิ์ องมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช