Page 94 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 94

3-40 การส​ ่งเ​สริมสุข​ภาพ​และ​การ​ป้องกันโ​รค

       จาก​การพ​ ิจารณา​แนว​โน้ม​การอ​ อก​กำลัง​กาย​ของ​ประชากร​ไทย ผลจ​ าก​การเ​ปลี่ยนแปลง​สังคมไ​ทยเ​ป็น​สังคม​
อุตสาหกรรม​ใหม่ ที่​มี​วิถี​ชีวิต​ที่​รีบ​เร่ง​หรือ​แข่งขัน​กัน​ทาง​เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์​และ​โทรคมนาคม​สื่อสาร​มี​บทบาท​
ใน​การ​โฆษณา ประชาสัมพันธ์ มี​อิทธิพล​ต่อ​วิถี​ชีวิต​และ​การ​ออก​กำลัง​กาย ภาค​รัฐ​และ​เอกชน​ของ​ประเทศไทย​ได้​มี​
การ​รณรงค์​ให้​ประชาชน​มี​การ​ออก​กำลัง​กาย​อย่าง​สม่ำเสมอ ขณะ​เดียวกัน​กระแส​การ​ตื่น​ตัวการ​สนใจ​ใน​สุขภาพ​กับ​
การอ​ อกก​ ำลังก​ ายม​ มี​ ากข​ ึ้น โดยเ​ฉพาะใ​นเ​มืองใ​หญ่ๆ จะเ​ห็นไ​ดจ้​ ากก​ ารข​ ยายต​ ัวข​ องธ​ ุรกิจฟ​ ิตเนส เพิ่มส​ าขาไ​ปย​ ังส​ ถาน​
ที่​ต่างๆ ตามห​ ้าง​สรรพ​สินค้า และห​ มู่บ้านใ​น​เขตเ​มือง โดยข​ ้อมูล​ของศ​ ูนย์วิจัย​กสิกร​ไทยไ​ด้ค​ าดก​ ารณ์​ไว้ว​ ่า ใน​ปี 2551
ธรุ กิจฟ​ ติ เนสม​ มี​ ลู ค่าต​ ลาดไ​มต่​ ำ่ ก​ ว่า 6,000 ล้านบ​ าท แตใ่​นส​ ว่ นข​ องป​ ระชาชนเ​องก​ บั ใ​หค​้ วามส​ ำคญั ใ​นเ​รือ่ งข​ องก​ ารอ​ อก​
กำลังก​ ายน​ ้อย ซึ่งอ​ าจม​ าจ​ ากว​ ิถีช​ ีวิตท​ ี่เ​ร่งร​ ีบ ประกอบก​ ับส​ ิ่ง​แวดล้อมไ​ม่​เอื้ออ​ ำนวย เช่น การจ​ ราจร ค่าน​ ิยม สถานภาพ​
ทางเ​ศรษฐกิจ การท​ ำงาน ทำให้ป​ ระชาชน​โดย​เฉพาะ​เยาวชนแ​ ละ​วัยแ​ รงงานย​ ังล​ ะเลยก​ ารอ​ อก​กำลังก​ ายเ​พื่อ​สุขภาพ

2. 	การบ​ รโิ ภค​เคร่ือง​ด่มื แ​ อลกอฮอล์

       ตัวเลข​การ​บริโภค​เครื่อง​ดื่ม​แอลกอฮอล์​ของ​ประเทศไทย​ที่​สำนักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เก็บ​ล่าสุด​ใน​ปี 2550 พบ​
ว่า ประชากร​กว่า 15 ล้านค​ น หรือ​คิดเ​ป็น​ร้อยล​ ะ 30 ของ​ประชากรด​ ื่ม​สุราแ​ ละเ​ครื่อง​ดื่ม​แอลกอฮอล์​เป็นป​ ระจำ เป็น​
เพศช​ าย​ประมาณ 13 ล้าน​คน และห​ ญิง 2 ล้าน​คน ส่วนใ​หญ่​อายุ 15 ปีข​ ึ้น​ไป เครื่อง​ดื่มท​ ี่​ประชากรน​ ิยม​ดื่ม​มาก​ที่สุดค​ ือ
เบียร์ รองล​ ง​มาค​ ือ เหล้า​ขาว และ​สุราผ​ สม โดย​ผู้​ดื่ม​เบียร์​มี​จำนวน 7,015,907 คน คิด​เป็นร​ ้อย​ละ 45.67 ของ​ผู้​บริโภค​
สุรา​ทั้งหมด รองล​ ง​มา​คือ ผู้ด​ ื่มเ​หล้า​ขาว​หรือ​สุราก​ ลั่น​ชุมชน 6,016,624 คน คิด​เป็นร​ ้อย​ละ 39.17 ตาม​ด้วย​ผู้​ดื่ม​สุรา
​สี​ยี่ห้อ​ไทย 1,642,786 คน คิด​เป็น ร้อย​ละ 10.69 และ​สุรา​สี​ยี่ห้อ​ต่าง​ประเทศ 324,198 คน คิด​เป็น​ร้อย​ละ 2.11
ยาดอ​ งเ​หล้า 203,309 คน คิดเ​ป็น ร้อยล​ ะ 1.32 ไวน์ค​ ูลเ​ลอร​ ์ 64,265 คน คิดเ​ป็นร​ ้อยล​ ะ 0.42 ไวน์ห​ รือแ​ ชมเปญ 35,519
คน คิดเ​ป็นร​ ้อยล​ ะ 0.23 สุราห​ มัก​พื้นบ​ ้าน 24,417 คน คิด​เป็น ร้อย​ละ 0.16 สุร​ าจ​ ีน​เชี่ย​ ง​ชุน 18,581 คน คิด​เป็นร​ ้อยล​ ะ
0.12 ตามล​ ำดับ จาก​ผลว​ ิจัยท​ ี่ผ​ ่านม​ า​พบ​ว่า แม้ร​ ัฐบาลจ​ ะ​ขึ้น​ภาษี​สรรพ​สามิต​สุรา​และ​เบียร์​พบว​ ่า ประชากรย​ ัง​บริโภค
เ​ครือ่ งด​ ืม่ แ​ อลกอฮอลเ​์ ชน่ เ​ดมิ โ​ดยเ​ฉพาะเ​บยี รแ​์ ละเ​หลา้ ข​ าว ซึง่ ย​ งั เ​ปน็ เ​ครือ่ งด​ ืม่ แ​ อลกอฮอลท​์ ไี​่ ดร​้ บั ค​ วามน​ ยิ มอ​ ยา่ งม​ าก

       การ​บริโภค​เครื่อง​ดื่ม​แอลกอฮอล์​นอกจาก​จะ​ทำให้​ผู้​ดื่ม​ขาด​สติ แล้ว​ยัง​เป็น​สาเหตุ​ของ​การ​เกิด​โรค​ต่างๆ
มากมาย ได้แก่ กลุ่ม​โรคท​ าง​ระบบ​ประสาท ทำให้ค​ วาม​จำเ​สื่อม หงุดหงิด ฉุนเฉียว​ง่าย เสีย​การค​ วบคุม​ด้าน​อารมณ์
โรค​นอนไ​ม่ห​ ลับ กระบวนการก​ ารร​ ับร​ ู้ ความเ​ข้าใจบ​ กพร่อง ขาดส​ ติ จิต​หลอน ประสาทหลอน โรค​คลั่ง​เพ้อ เกิด​จาก​
โรคพ​ ษิ ส​ ุราเ​รือ้ รงั การท​ ำห​ นา้ ทีข่​ องส​ มองผ​ ิดป​ กตส​ิ ง่ ผ​ ลถ​ งึ ก​ ารท​ ำงานข​ องอ​ วยั วะภ​ ายในร​ ่างกาย อาจท​ ำใหก​้ ลา้ มเ​นือ้ ส​ ่วน​
ปลายแ​ ขน ขา อ่อนแ​ รง ปลาย​ประสาท​พิการ โรคซ​ ึม​เศร้า โรค ลมช​ ัก และ​โรค​ระแวงเ​พราะ​สุรา คน​ติดส​ ุราย​ าเ​มาม​ ัก​จะ​
เสียช​ ีวิตด​ ้วย​โรค​หัวใจว​ าย มะเร็ง​กระเพาะ ตับ​แข็ง​และ​เส้นเลือด​ใน​สมอง​แตก คน​ขับ​รถ​ที่​เมาม​ ัก​จะข​ าดพ​ ลังค​ วบคุม​
สติสัมปชัญญะ ทํา​ให้​เกิดอ​ ุบัติเหตุ​บนท​ ้องถ​ นน หญิง​มี​ครรภ์ท​ ี่​ดื่ม​แอลกอฮอล์​จะแ​ ท้งล​ ูก​ใน​ท้อง หรือ​หากไ​ม่แ​ ท้งท​ ารก​
ที่​คลอดอ​ อกม​ าจ​ ะม​ ี​ร่างกายแ​ ละส​ ติ​ปัญญาท​ ี่บ​ กพร่อง ภัยอ​ ันตราย​ทั้ง​หลายเ​หล​ ่าน​ ี้​ทําใ​ห้​แพทย์ส​ รุปไ​ด้​ว่า แอลกอฮอล์​
เป็นส​ า​เหต​ ุสําคัญอ​ ันดับ​สองร​ อง​จาก​บุ​หรี่ท​ ี่​ทําใ​ห้​คน​เราเ​สีย​ชีวิตก​ ่อน​ถึงเ​วลาอ​ ัน​ควร

       จากก​ ารพ​ จิ ารณาแ​ นวโ​นม้ บ​ รโิ ภคเ​ครือ่ งด​ ืม่ แ​ อลกอฮอลข​์ องค​ นไ​ทยท​ ไี​่ ดจ​้ ากก​ ารส​ ุม่ ส​ ำรวจป​ ระชาชนก​ วา่ 17,000
คนในป​ ี 2551 พบ​ว่า มีผ​ ู้​ป่วย​ที่ท​ ั้ง​เสี่ยงแ​ ละ​ติด​สุราม​ าก​ถึงร​ ้อย​ละ 10.9 ในจ​ ำนวน​นี้ ร้อย​ละ 4 ดื่มจ​ นต​ ิดส​ ุรา อายุเ​ฉลี่ย​
ลด​ลง​จาก 30-45 ปี เป็น 20-30 ปี ที่​สำคัญผ​ ู้​ป่วยท​ ี่​มี​อาการ​ทาง​จิต​จากก​ ารด​ ื่มส​ ุรา อายุเ​ฉลี่ย​ลด​ลงน​ ้อย​ที่สุดเ​พียง 9
ขวบ และข​ ้อมูลจ​ าก​สำนักงานส​ ถิติ​แห่ง​ชาติพ​ บ​ว่า เด็กร​ ุ่น​ใหม่ม​ ี​แนว​โน้ม​การ​ดื่ม​แอลกอฮอล์เ​พิ่มม​ าก​ขึ้น และ​เริ่มด​ ื่ม​ที​่
อายุน​ ้อยล​ ง ในช​ ่วง​เวลา​เพียง 7 ปี (พ.ศ. 2539-2546) กลุ่มผ​ ู้​หญิงว​ ัย 15-19 ปี เป็นกล​ ุ่ม​ที่น​ ่า​จับตาม​ าก​ที่สุด เนื่องจาก​
มี​การ​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​เกือบ 6 เท่า​คือ จาก ร้อยล​ ะ 1.0 เป็นร​ ้อย​ละ 5.6 และ​ใน​กลุ่ม​หญิงท​ ี่​ดื่ม​วัย 15-19 ปี​นี้ ร้อย​ละ 14.1
เป็นกล​ ุ่มท​ ี่ด​ ื่มป​ ระจำ (ดื่ม 1-2 ครั้งต​ ่อส​ ัปดาห์ถ​ ึงด​ ื่มท​ ุกว​ ัน) วัยร​ ุ่นเ​พศช​ ายว​ ัย 11-19 ปี ที่ด​ ื่มม​ ีจ​ ำนวนป​ ระมาณ 1.1 ล้าน​

                             ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99