Page 150 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 150
12-20 พฤติกรรมมนุษย์และจ ริยธรรมทางเศรษฐกิจแ ละธุรกิจ
เร่ืองที่ 12.2.1
ความเป็นม าและแ นวคิดด้านจรยิ ธรรมตอ่ ส ิ่งแ วดล้อม
จริยธรรมเป็นป ระเด็นท างด ้านป รัชญาท ี่เกี่ยวข้องก ับค วามด ี ความถ ูกต ้อง หรือค วามไม่ด ี ความไม่ถ ูกต ้องใน
การกร ะท ำข องม นุษย์ต ่อส ิ่งใดส ิ่งห นึ่ง จริยธรรมท างส ิ่งแ วดล้อมจ ึงเกี่ยวข้องก ับค วามส ัมพันธ์ท างจ ริยธรรมท ี่ม นุษย์ม ี
ต่อส ิ่งแ วดล้อมทางธ รรมชาติ ในล ักษณะของค วามถ ูกต ้องห รือค วามไม่ถ ูกต ้องข องก ิจกรรมของม นุษย์ต ่อส ิ่งแ วดล้อม
นักป รัชญาม ากมายได้ม ีข ้อคิดเห็นเกี่ยวก ับป ระเด็นน ี้ม าต ั้งแต่ในอ ดีต อย่างไรก ็ตาม ตั้งแต่ท ศวรรษท ี่ 1970 เป็นต้นม า
แนวคิดด ้านจ ริยธรรมท างส ิ่งแ วดล้อมได้ม ีก ารพ ัฒนาอ ย่างเป็นร ะบบม ากข ึ้นจ ากท ี่ม ีก ารต ระหนักม ากข ึ้นถ ึงผ ลกร ะท บ
ของการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของประชากรที่มีต่อสิ่ง
แวดล้อม แนวคิดด ้านจ ริยธรรมท างสิ่งแ วดล้อมได้เริ่มต้นข ึ้นในช่วงทศวรรษท ี่ 1960 จากห นังสือชื่อ Silent Spring
ที่เขียนโดย ราเชล คาร์สัน (Rachel Carson) ใน ค.ศ. 1962 (Carson, 1962) เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ทำให้เกิดความ
ตระหนักถ งึ ภ ัยอ นั ตรายจ ากก ารใชย้ าฆ ่าแ มลงอ ยา่ งแ พรห่ ลายแ ละม ลพิษท เี่กิดจ ากส ารเคมใี นข ณะน ั้นท ีม่ ผี ลต ่อส ขุ ภาพ
ของม นุษย์แ ละการทำลายชีวิตส ัตว์ป ่า2 ผลงานข อง พอล เออร์ลิช (Paul Ehrlich) ใน ค.ศ. 1968 เรื่อง Population
Bomb (Ehrlich, 1968) เป็นการเตือนถึงผ ลกระทบในการท ำลายล ้างท รัพยากรข องโลกจากการเพิ่มข ึ้นของประชากร
นักจ ริยธรรมท างส ิ่งแ วดล้อมได้พ ยายามว างก รอบข องภ าระห น้าที่ท างค ุณธรรม (moral obligations) ที่ม นุษย์ค วรจ ะ
มีต ่อปัญหาการพัฒนาแ ละสิ่งแ วดล้อม ซึ่งเกี่ยวข้องกับคำถามพ ื้นฐาน 2 ประการ ประการแ รก คือ อะไรค ือภ าระห น้าที่
ของมนุษย์ท ี่มีต่อส ิ่งแวดล้อม และ ประการทส่ี อง ทำไมม นุษย์ถึงต้องมีภ าระห น้าที่นั้น คำถามประการห ลัง มักจ ะเป็น
คำถามที่มาก่อนคำถามแรก เพราะการที่เราจะพิจารณาว่าภาระหน้าที่ของเราคืออะไร เรามักจะต้องพิจารณาก่อนว่า
ทำไมเราจึงต้องมีภาระหน้าที่นั้น เช่น เรามีภาระหน้าที่ทางสิ่งแวดล้อมเพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ในปัจจุบัน
หรือเพื่อม นุษย์ในอนาคต หรือเพื่อส ิ่งท ี่ม ีอ ยู่ในสิ่งแ วดล้อมโดยไม่ต้องคำนึงถ ึงประโยชน์ของมนุษย์ นักปรัชญาแต่ละ
คนก ็จ ะมีคำตอบต่อคำถามพื้นฐานนี้ต ่างก ันไป
การแ บ่งแ นวคิดด ้านจ ริยธรรมต ่อส ิ่งแ วดล้อม สามารถแ บ่งเป็น 2 แนวคิดห ลัก ได้แก่ แนวคิดท ี่ย ึดม นุษย์เป็น
ศูนย์กลาง (anthropocentrism) และแนวคิดที่ไม่ยึดมนุษย์แต่ยึดสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (non-anthropo-
centrism) (Cochrane, 2007) ดังต่อไปนี้
1. แนวคิดท ย่ี ดึ ม นษุ ยเ์ป็นศูนยก์ ลาง
แนวคิดนี้มีพื้นฐานมาจากปรัชญาทางตะวันตก ที่ใช้มุมมองจากมนุษย์ว่า มนุษย์จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
ถ้าเราไม่จำกัดก ิจกรรมข องเราที่มีต ่อสิ่งแวดล้อม จริยธรรมดังกล่าวถือว่าเป็น “การยึดม นุษย์เป็นศ ูนย์กลาง” ในแง่
ที่ว่า จริยธรรมท ั้งห ลายข ึ้นอยู่ก ับมนุษย์ เพราะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นท ี่สามารถใช้เหตุผลและสะท้อนความค ิดเกี่ยวก ับ
ประเด็นทางจริยธรรมได้ แนวคิดทางจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดนี้จึงให้กรอบจริยธรรมที่เป็นจุดยืนทาง
คุณธรรม (moral standings) แก่มนุษย์ และสะท้อนให้เห็นถึง “การขยายกลุ่มที่เกี่ยวข้องด้านคุณธรรม” (an
extension of the moral reference class) กลุ่มที่เกี่ยวข้องด ้านค ุณธรรมที่ได้ขยายออกไปจากแ นวคิดนี้ ได้แก่ คน
รุ่นปัจจุบัน ขยายส ู่ค นรุ่นอนาคต ขยายสู่สัตว์ และขยายสู่แผ่นดิน
2 ผลง านข องค าร์สัน ไดน้ ำไปส ูก่ ารอ อกก ฎหมายต ้นแบบท างส ิ่งแ วดล้อมข องส หรัฐอเมริกา คือ กฎหมายน ้ำส ะอาดแ ห่งส หรัฐ (The U.S.
Clean Water Act) และก ารห้ามการใช้สาร ดี.ดี.ที. ในห ลายประเทศท ั่วโลก
ลขิ สทิ ธิ์ของมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช