Page 153 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 153
การพ ัฒนาแ บบยั่งยืนกับจ ริยธรรมต่อสิ่งแ วดล้อม 12-23
ถึงก ารกร ะท ำข องม นุษย์ต ่อส ิ่งแ วดล้อมในภ าพท ี่ก ว้างข ึ้น ก้าวข ้ามค วามเห็นแ ก่ป ระโยชน์ส ่วนบ ุคคลแ ละป ระโยชน์ข อง
มนุษยชาติ ไปส ู่ช ุมชนทางชีวภาพทั้งหมด
2. แนวคิดท ยี่ ดึ ส ่งิ ทไ่ี มใ่ ช่มนษุ ย์เปน็ ศูนย์กลาง
แนวคิดก ลุ่มน ี้จ ะม ีแ นวคิดท ี่แ ตกต ่างอ ย่างส ิ้นเชิงไปจ ากแ นวคิดแ รกท ี่เน้นม นุษย์เป็นศ ูนย์กลาง แนวคิดน ี้จ ะ
มีก ารขยายกลุ่มที่เกี่ยวข้องด้านค ุณธรรม (the moral reference class) ไปยังสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์
2.1 นเิ วศวทิ ยาเชงิ ล กึ (deep ecology) แนวคิดน ี้ม ีพ ื้นฐ านท ี่ว ่าจ ุดยืนท างค ุณธรรมที่เน้นม นุษย์เป็นศ ูนย์กลาง
และข ยายไปถ งึ ส ิ่งท ีม่ ชี วี ติ อ ืน่ น ั้นไมส่ ามารถแ ก้ไขว ิกฤตท ีเ่กดิ ก บั ส ิ่งแ วดลอ้ มได้ จำเปน็ ท ีจ่ ะต อ้ งม มี ุมม องใหมท่ ีก่ ว้างข ึ้น
ที่ต ้องม ีก ารเปลี่ยนแปลงทัศนคติแ ละค วามเข้าใจในค วามเป็นจ ริงข องม นุษย์ ซึ่งห มายถ ึง การท ี่ม นุษย์ต ้องท บทวนใหม่
ว่าม นุษยเ์ป็นใคร และพ ื้นทีข่ องม นุษยภ์ ายในโลกธรรมช าตอิ ยูท่ ีใ่ด แนวคิดใหมน่ ีเ้ป็นก ารเแกไ้ขว ิกฤตด ้านส ิ่งแ วดล้อม
ทีต่ ้องม กี ารเปลี่ยนแปลงข ั้นพ ื้นฐ านในส ังคมแ ละส ถาบันท างส ังคม นั่นค ือ การเปลี่ยนแปลงในว ิถชี ีวิตค วามเป็นอ ยูแ่ ละ
บทบาทห น้าที่ของม นุษย์ แนวคิดใหม่นี้จ ึงเกี่ยวข้องกับจริยธรรมต่อส ิ่งแวดล้อมด้านนิเวศวิทยา (ecology)
นิเวศวิทยาเชิงล ึก เป็นแนวคิดท ี่ม องว ่า นิเวศวิทยาเชิงผ ิวเผิน (shallow ecology) เป็นการมองท ี่ม นุษย์เป็น
ศนู ยก์ ลางแ ละเกีย่ วขอ้ งก บั ก ารล ดม ลพษิ แ ละก ารห มดส ิน้ ไปข องท รพั ยากร ในม มุ ม องข องน กั ป รชั ญาด า้ นน เิ วศวทิ ยาเชงิ
ลกึ จ ะไมเ่ หน็ ด ว้ ยก บั ก ารย ดึ ม นษุ ยเ์ ปน็ ศ นู ยก์ ลาง แนวคดิ น ตี้ อ้ งการโลกท ศั นใ์ หมแ่ ละป รชั ญาในแ นวใหม่ นกั น เิ วศวทิ ยา
เชิงล ึกได้มีค วามพ ยายามอย่างส ูงในก ารพัฒนาป รัชญาด้านนิเวศใหม่หรือที่เรียกว่า “นิเวศปรัชญา” (ecosophy) ขึ้น
มาแทนป รัชญาในทางท ำลายล้างข องส ังคมอ ุตสาหกรรมสมัยใหม่ (Naess, 1973) แนสส์ (Naess, 1986) ได้สรุปถึง
หลักก าร 8 ประการท ี่เป็นพื้นฐานแนวคิดของน ิเวศวิทยาเชิงล ึก ดังนี้
1) การอยู่ดีกินดีและความมั่งคั่งของชีวิตมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์บนโลกใบนี้มีคุณค่าในตัวของตัวเอง
ในความหมายเดียวกับ คุณค่าที่มองไม่เห็น (intrinsic value, inherent worth) คุณค่าเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นกับการใช้
ประโยชน์จ ากโลกท ี่ไม่ใช่ม นุษย์ต ามความต้องการของมนุษย์
2) ความมั่งคั่งและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมีส่วนช่วยให้มนุษย์สำนึกถึงคุณค่าเหล่านี้และเป็น
คุณค่าในตัวข องม ันเองด ้วย
3) มนุษย์ไม่มีส ิทธิในก ารไปท ำให้ค วามม ั่งคั่งแ ละค วามห ลากห ลายข องส ิ่งม ีช ีวิตล ดล ง ยกเว้นในก รณี
ที่มีค วามจ ำเป็นอย่างม ีน ัยส ำคัญ
4) ความรุ่งเรืองข องชีวิตและวัฒนธรรมข องมนุษย์จะเกิดขึ้นได้จากจำนวนประชากรท ี่น้อยกว่าที่เป็น
อยู่ ความร ุ่งเรืองข องช ีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ต ้องเกิดจ ากจ ำนวนป ระชากรมนุษย์ที่ลดน้อยลง
5) การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกที่ไม่ใช่มนุษย์ในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นมากมาย และสถานการณ์เลวร้ายลง
อย่างรวดเร็ว
6) นโยบายต้องมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายเหล่านี้มีผลต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ
อุดมการณ์ ผลจ ากการเปลี่ยนแปลงน ี้จะแตกต่างไปจากส ถานการณ์ป ัจจุบันอย่างล ึกซึ้ง
7) การเปลี่ยนแปลงทางอุดมการณ์ส่วนใหญ่จะไปในทางที่มีความซาบซึ้งต่อคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นการ
อยู่ในสถานการณ์ของคุณค่าที่มองไม่เห็น มากกว่าการมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น จะมีการตระหนักอย่างลึกซึ้ง
ถึงความแ ตกต่างร ะหว่างความใหญ่โต (bigness) และค วามยิ่งใหญ่ (greatness)
8) ผู้ที่เห็นด้วยกับประเด็นข้างต้นจะมีค วามรับผิดชอบหรือภาระหน้าที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมในการ
ทำให้เกิดก ารเปลี่ยนแปลงท ี่จำเป็น
ลิขสทิ ธ์ิของมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช