Page 151 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 151

การพ​ ัฒนา​แบบย​ ั่งยืน​กับจ​ ริยธรรมต​ ่อส​ ิ่งแ​ วดล้อม 12-21

       1.1 	แนวคิด​ว่า​ด้วย​สิทธิ​ของ​มนุษย์ จาก​ความ​วิตก​กังวล​ต่อ​สภาพ​การณ์​ที่​เลว​ร้าย​ลง​ของ​สิ่ง​แวดล้อม​ที่​ส่ง​ผล
ก​ระ​ทบ​ต่อ​มนุษย์ ตัวอย่าง​เช่น มลพิษ​ที่​มี​ผล​ต่อ​สุขภาพ การ​ลด​ลง​ของ​ความ​หลาก​หลาย​ทาง​ชีวภาพ​ที่​ส่ง​ผล​ต่อ​ความ​
สูญ​เสียโ​อกาส​ที่จ​ ะไ​ด้​ยาร​ ักษาโ​รค​จาก​พืช และก​ ารท​ ำลายค​ วาม​เป็นธ​ รรมชาติท​ ี่ห​ มายถ​ ึง​การส​ ูญเ​สีย​ความส​ วยงาม​ทาง​
ภูมิท​ ัศน์ ดัง​นั้น แนวคิด​จริยธรรม​ที่​ยึดม​ นุษย์เ​ป็นศ​ ูนย์กลาง​จึงม​ อง​ว่า มนุษย์เ​ท่านั้น​ที่​มีส​ ิทธิ​ในก​ ารก​ ำหนด​คุณธรรม
ซึ่ง​หมาย​ถึง​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​หรือ​ภาระ​หน้าที่​ทั้งหมด​ที่​มนุษย์​ต้อง​มี รวม​ทั้ง​ภาระ​หน้าที่​ต่อ​สิ่ง​แวดล้อม​ด้วย ทั้งนี้​เพื่อ​
ความ​อยู่ดีก​ ิน​ดีแ​ ละ​ความ​มั่งคั่งข​ องม​ นุษย์ (human well-being and prosperity)

       แนวคิด​นี้​ยัง​ได้​ขยาย​จุดยืน​ทาง​คุณธรรม​ออก​ไป​ยัง​มนุษย์​ที่​ยัง​ไม่​ถือ​กำเนิด​ขึ้น​หรือ​คน​รุ่น​อนาคต โดย​ไม่​ได้​
คำนึง​ถึง​โลกธรรม​ชาติ​ที่​ไม่ใช่​มนุษย์ (the non-human natural world) การ​ขยาย​แนวคิด​ไป​ถึง​คน​รุ่น​อนาคต​นั้น
เป็นค​ วามจ​ ำเป็นท​ ี่เ​กิดจ​ ากข​ ้อเ​ท็จ​จริงว​ ่า ปัญหาส​ ิ่ง​แวดล้อมม​ ากมาย เช่น การ​เปลี่ยนแปลงข​ อง​ภูมิ​อากาศแ​ ละ​การ​หมด​
สิ้น​ไป​ของ​ทรัพยากร จะ​ส่ง​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​คน​รุ่น​อนาคต​มากกว่า​จะ​กระทบ​ต่อ​คน​รุ่น​ปัจจุบัน ยิ่ง​กว่า​นั้น ยัง​มี​หลัก​ฐาน​
ที่​แสดง​ว่า กิจกรรม​และ​นโยบาย​ต่างๆ ที่​มนุษย์​ใน​ปัจจุบัน​ได้​ดำเนิน​การ​ไป จะ​มี​ผลก​ระ​ทบ​อย่าง​ใหญ่​หลวง​ต่อ​ความ​
อยู่ดีก​ ิน​ดีข​ องม​ นุษย์​ใน​อนาคต จากข​ ้อเ​ท็จจ​ ริงเ​หล่า​นี้​นัก​ปรัชญาบ​ างค​ น เช่น เก​อเ​วอร์​ท (Gewirth, 2001) จึงไ​ด้ข​ ยาย​
ความร​ ับ​ผิด​ชอบห​ รือ​ภาระ​หน้าที่ข​ องม​ นุษย์ ตาม​จริ​ยธรรมท​ างส​ ิ่ง​แวดล้อมไ​ป​ถึง​คนร​ ุ่น​อนาคต รวมถ​ ึง บาร์ร​ ี (Barry,
1999) ก็ได้เ​สนอว​ ่าค​ วามร​ ับผ​ ิดช​ อบห​ รือภ​ าระห​ น้าที่ข​ องม​ นุษย์ใ​นป​ ัจจุบัน คือ การร​ ับรองว​ ่าจ​ ะไ​ม่ข​ ัดข​ วางค​ นร​ ุ่นอ​ นาคต​
ใน​การ​ได้​รับ​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน​ใน​การ​ดำรง​ชีวิต ซึ่ง​ใน​นัย​กลับ​กัน มนุษย์​ใน​ปัจจุบัน​จะ​ต้อง​คำนึง​ถึง​และ​ปรับ​ระดับ​การ​
ปล่อยม​ ลพิษ การห​ มดส​ ิ้น​ไป​ของท​ รัพยากร การ​เปลี่ยนแปลง​สภาพภ​ ูมิ​อากาศ และก​ ารเ​พิ่มป​ ระชากรใ​ห้​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​
เหมาะส​ ม​ต่อ​การด​ ำรง​ชีวิต​ที่ด​ ี

       1.2 	แนวคิด​ว่า​ด้วย​สิทธิ​ของ​สัตว์ นอกจาก​การ​ขยาย​แนวคิด​ไป​ยัง​คน​รุ่น​อนาคต แนวคิด​นี้​ยัง​ได้​ขยาย​ไป​ถึง
​สัตว์​ต่างๆ ด้วย นักป​ รัชญา​ที่ช​ ื่อ ซิงเ​กอร์ (Singer, 1974) และ เรแ​ กน (Regan, 1983/2004, Chapter 7) ได้​เสนอ​
ให้​ขยาย​จุดยืน​ทาง​คุณธรรม (moral standing) ให้​ครอบคลุม​ถึง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ใน​ตระกูล​สัตว์​ด้วย เนื่องจาก​จุดยืน​ทาง​
คณุ ธรรมข​ องท​ ัง้ ส​ องน​ ักค​ ดิ เ​นน้ ไ​ปท​ คี​่ วามร​ ู้สึกน​ ึกคิด (consciousness) โดยเ​กณฑข์​ องจ​ ดุ ยืนท​ างค​ ุณธรรมข​ องซ​ ิงเ​กอร์
คือ ความ​รู้สึก (sentience) ที่​เกี่ยวข้องก​ ับศ​ ักยภาพท​ ี่​จะร​ ู้สึกถ​ ึงค​ วาม​สุข​และค​ วามเ​จ็บ​ปวด ในข​ ณะท​ ี่​ของเ​ร​แกน​อยู่ท​ ี่
“ทุกส​ ิ่งท​ ี่ม​ ีช​ ีวิต” (subjects-of-a-life) นั่นค​ ือ สิ่งท​ ี่ม​ ีค​ วามเ​ชื่อ ความต​ ้องการ ความค​ ิดเ​ห็น ความจ​ ำ อารมณ์ ความร​ ู้สึก​
ถึงอ​ นาคต และค​ วาม​สามารถ​ใน​การ​ริเริ่มก​ ารก​ระท​ ำ

       สำหรับ​ซิง​เกอร์ ใน​การ​กำหนด​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​หรือ​ภาระ​หน้าที่​ของ​มนุษย์​นั้น ถ้า​สิ่ง​ใด​ก็ตาม​มี​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า
ความร​ ู้สึก​นึกคิด สิ่งน​ ั้นจ​ ะ​ต้องไ​ด้ร​ ับ​การ​พิจารณาอ​ ย่าง​เท่าเ​ทียม​กัน กล่าว​คือ​ไม่ใช่​ว่าท​ ุกส​ ิ่งท​ ี่ม​ ี​ความ​รู้สึก​ควร​จะ​ได้ร​ ับ​
การป​ ฏิบัติอ​ ย่างเ​ท่าเ​ทียมก​ ัน แต่ค​ วรจ​ ะไ​ด้ร​ ับก​ ารพ​ ิจารณาอ​ ย่างเ​ท่าเ​ทียมก​ ัน ในน​ ัยห​ นึ่งบุคคลม​ ีค​ วามแ​ ตกต​ ่างก​ ัน และ​
ความ​สนใจ​หรือ​การ​ได้​ประโยชน์​ที่​แตก​ต่าง​กัน​ของ​บุคคล​ที่​ต่าง​กัน ควร​จะ​ได้​รับ​การ​พิจารณา ดัง​นั้น สำหรับ​ซิง​เกอร์
จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ผิด​หาก​มนุษย์​จะ​ปฏิเสธ​ไม่​ให้​หมู​มา​ออก​คะแนน​เสียง​เลือก​ตั้ง เนื่องจาก​หมู​ไม่มี​ความ​สนใจ​หรือ​การ​ได้​
ประโยชน์​จาก​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​สังคม​ประชาธิปไตย แต่​เป็น​สิ่ง​ที่​ผิด​หาก​มนุษย์​จะ​ไม่​ใส่ใจ​ถึง​ความ​สนใจ​หรือ​การ​ได้​
ประโยชน์ข​ องห​ มูใ​นเ​รื่องเ​กี่ยวก​ ับค​ วามเ​จ็บป​ วด เนื่องจากเ​ป็นส​ ิ่งช​ ัดเจนว​ ่าห​ มูจ​ ะม​ ีค​ วามส​ นใจห​ รือไ​ด้ป​ ระโยชน์ม​ ากใ​น​
การห​ ลีกเ​ลี่ยงค​ วามเ​จ็บป​ วดเ​ช่นเ​ดียวก​ ับม​ นุษย์ ซิงเ​กอร์จ​ ึงไ​ด้น​ ำห​ ลักก​ ารใ​นก​ ารพ​ ิจารณาค​ วามเ​ท่าเ​ทียมก​ ันเ​ข้าไปใ​ส่ใ​น​
กรอบจ​ ริยธรรม​ด้าน​อรรถประโยชน์ (a utilitarian ethical framework) ซึ่ง​จุดม​ ุ่ง​หมายท​ างค​ ุณธรรม​ขั้น​สูงสุด คือ
การ​ทำให้​เกิดค​ วามพ​ ึงพ​ อใจ​ที่ส​ ูง​ที่สุดท​ ี่จ​ ะ​เป็นไ​ปไ​ด้​ของ​ความส​ นใจ​หรือ​การไ​ด้​ประโยชน์ ดังน​ ั้น ทฤษฎีข​ องซ​ ิงเ​กอร์จ​ ึง​
มี 2 ส่วน คือ 1) มนุษย์ต​ ้องพ​ ิจารณาค​ วาม​สนใจ​หรือ​การไ​ด้​ประโยชน์​ของ​สิ่ง​ที่ม​ ีค​ วามร​ ู้สึก​อย่างเ​ท่าเ​ทียม​กัน และ 2)
ความร​ ับ​ผิดช​ อบห​ รือ​ภาระ​หน้าที่ข​ องม​ นุษย์​อยู่ท​ ี่​การท​ ำให้เ​กิด​ความ​พึง​พอใจใ​น​ความ​สนใจ​หรือ​การ​ได้​ประโยชน์​ให้​ได้​
มาก​ที่สุด​เท่า​ที่​มนุษย์จ​ ะ​สามารถ​ทำได้

                              ลขิ สทิ ธ์ิของมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156