Page 155 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 155
การพัฒนาแ บบย ั่งยืนกับจ ริยธรรมต่อสิ่งแ วดล้อม 12-25
2.3 ลทั ธคิ วามเทา่ เทยี มก นั ข องผ หู้ ญงิ ด า้ นนเิ วศน์ (ecofeminism) แนวคดิ ในล ทั ธคิ วามเทา่ เทยี มก นั ข องผ หู้ ญงิ
ด้านนิเวศน์ ก็เช่นเดียวก ับแ นวคิดน ิเวศวิทยาส ังคมท ี่ช ี้ให้เห็นถ ึงค วามเชื่อมโยงร ะหว่างก ารค รอบงำท างส ังคมแ ละก าร
ครอบงำท างโลกธรรมช าติ แนวคิดน ี้เรียกร ้องเช่นเดียวก ับแ นวคิดน ิเวศวิทยาส ังคมแ ละแ นวคิดน ิเวศวิทยาเชิงล ึกท ี่ให้
มีก ารปรับปรุงแก้ไขมุมม องแ ละอ ุดมการณ์ของส ังคมต ะวันต กอย่างส ิ้นเชิง พลัมวูด (Plumwood, 1991) ได้ว ิพากษ์
วิจารณ์ตรรกะ (rationalism) ที่อยู่ในจริยธรรมดั้งเดิมว่า ตรรกะดังกล่าวเป็นการกดขี่ทั้งผู้หญิงและธรรมชาติ ซึ่ง
ปัญหาพ ื้นฐานข องต รรกะนี้ คือ การสนับสนุนให้เกิดท วิภาค (dualisms) ทวิภาคนี้เกี่ยวข้องกับก ารแบ่งแ ยกระหว่าง
เหตุผล (reason) และอ ารมณ์ (emotion) ในก ารใชต้ รรกะ โดยเฉพาะ การแ บ่งแ ยก จิต/ร่างกาย (mind/body) มนุษย์/
ธรรมชาติ (men/nature) และ ผู้ชาย/ผู้ห ญิง (man/woman) ซึ่งในแต่ละกรณีของการแ บ่งแ ยก สิ่งที่มาก่อนมักจ ะ
เหนือก ว่าสิ่งที่ต ามมา ดังน ั้น ผู้ห ญิงแ ละธรรมชาติจ ึงม ีค วามด ้อยกว่าโดยที่มีแหล่งท ี่มาเดียวกัน คือ ตรรกะการแ ก้ไข
ปัญหาก ารค รอบงำผู้หญิงและธรรมชาติจึงต ้องม ีม ุมม องใหม่
อย่างไรก็ตาม มีส์และชิวา (Mies & Shiva, 1993) ได้ให้มุมมองที่ต่างไปจากพลัมวูด โดยเน้นไปยังสิ่งที่
เชื่อมโยงผู้หญิงและธรรมชาติเข้าด้วยกัน กล่าวคือ ผู้หญิงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโลกธรรมชาติมาก เนื่องจาก
ศักยภาพในการให้กำเนิดลูก สิ่งนี้เป็นมุมมองเกี่ยวกับผู้หญิงที่นับว่าเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนักปรัชญาหลายคนก็ได้
สนับสนุนแนวทางทางจิตวิญญาณที่เชื่อว่าธรรมชาติและแผ่นดินมีคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ และนับย้อนถอยหลังกลับ
ไปในศาสนาโบราณก็มีความเชื่อที่ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่เป็นเพศหญิง ดังนั้น แนวคิดนี้มีมุมมองว่าในการแก้ปัญหา
สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ประสบอยู่และระบบการครอบงำที่เกิดขึ้น โลกทัศน์ด้านจิตสำนึกและด้านปรัชญาของคนแต่ละ
คนจ ะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
กจิ กรรม 12.2.1
จงอ ธบิ ายถึงความแ ตกต ่างร ะหวา่ งก ลมุ่ แนวคดิ ห ลกั ด า้ นจริยธรรมต ่อส ิง่ แ วดล้อม
แนวต อบก ิจกรรม 12.2.1
แนวคิดด้านจริยธรรมต่อส่ิงแวดล้อม แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ที่ประกอบไปด้วยแนวคิดท่ียึดมนุษย์เป็น
ศูนย์กลาง และแนวคิดท่ียึดสิ่งท่ีไม่ใช่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง กลุ่มแนวคิดแรกจะเน้นเร่ืองการอยู่รอดของมนุษย์
เปน็ ห ลกั สง่ิ แ วดลอ้ มเปน็ ส งิ่ ท ม่ี าต อบส นองค วามจ ำเปน็ ข องม นษุ ย์ สรรพส งิ่ ท งั้ ห ลายท อ่ี ยใู่ นร ะบบน เิ วศนใ์ นส งิ่
แวดล้อมมีคณุ ค่าในฐ านะเป็นเครือ่ งมอื ทีก่ ่อให้เกดิ ป ระโยชน์ตอ่ มนษุ ย์ ซ่งึ แนวคดิ น ี้ไดข้ ยายเรอ่ื งก ารอยรู่ อดของ
มนุษย์จากมนุษย์ในปัจจุบันไปถึงมนุษย์ในอนาคต และสิทธิของสัตว์ด้วย สำหรับกลุ่มแนวคิดหลังจะเน้นการ
อยู่รอดของระบบนิเวศน์ในสิ่งแวดล้อม เน่ืองจากสรรพสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในระบบน้ี มีคุณค่าในตัวเอง มิใช่เพียง
มีค ุณค่าในฐานะเป็นเครื่องม ือข องมนุษย์
ลขิ สิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช

