Page 85 - ระบบสำนักงานอัตโนมัติและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

แนวคิดและกระบวนการพัฒนากลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 9-5

เรือ่ งที่ 9.1.1
แนวคดิ การวเิ คราะหก์ ลยุทธ์

กลยทุ ธข์ ององคก์ รเปน็ เครือ่ งมอื หรอื วธิ กี ารทีท่ ำ�ใหอ้ งคก์ รบรรลพุ นั ธกจิ (mission) เปา้ หมาย (goal) นโยบาย
(policy) และแผนงาน (plan) ที่วางไว้ การวางกลยุทธ์จะต้องเริ่มต้นจากการทำ�ความเข้าใจว่า ในปัจจุบันองค์กรเป็น
อย่างไร อยู่ตรงไหนของการแข่งขัน และในอนาคตองค์กรต้องการเดินไปสู่จุดหมายใด ดังนั้น กลยุทธ์จึงมีนัยสำ�คัญ
ต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร

กลยุทธ์ขององค์กรจึงเป็นสิ่งสำ�คัญมาก ซึ่งจะบอกให้ทราบว่า อนาคตขององค์กรจะเดินไปทิศทางไหน และ
องคก์ รตดั สนิ ใจจะกระท�ำ หรอื ไมก่ ระท�ำ สงิ่ ใด ดงั นนั้ การวางแผนเชงิ กลยทุ ธข์ ององคก์ รจงึ เปน็ การตดั สนิ ใจเลอื กกระทำ�
และไม่กระทำ�สิ่งต่างๆ เช่น การเสนอขายสินค้า บริการ หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อเอาชนะคู่แข่ง เป็นต้น

การตัดสินใจเลือกกระทำ�และไม่กระทำ�สิ่งต่างๆ ในเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำ�
กำ�ไร การเพิ่มมูลค่าของหุ้นในระยะยาว อัตราการเจริญเติบโต และรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตขององค์กร ปัญหาคือ
การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยทั่วไปแล้ว การสร้างมูลค่าของสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อ
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าถือเป็นแนวทางสำ�คัญในการทำ�กำ�ไร และสร้างรายได้ให้กับองค์กร ซึ่งจะต้องอาศัย
กลยุทธ์เป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้

กระบวนการสร้างกลยุทธ์ในปัจจุบันจะต้องนำ�การเปลี่ยนแปลงทางด้านอินเทอร์เน็ตเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ
กลยุทธ์ด้วยเสมอ ซึ่งทำ�ให้มีความแตกต่างกับกระบวนการสร้างกลยุทธ์ในอดีต แม้จะมีความเชื่อว่า อินเทอร์เน็ตจะ
ทำ�ให้กลุยทธ์หมดความสำ�คัญไป แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม กลยุทธ์กลับมีความสำ�คัญมากขึ้นในการสร้าง
ความแตกต่างขององค์กร โดยที่อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการวางกลยุทธ์การแข่งขัน

แนวคดิ กลยุทธพ์ ลังการแข่งขันของพอร์ตเตอร์

แบบจำ�ลองที่ได้รับการยอมรับกันทั่วไปในการสร้างกลยุทธ์การแข่งขัน คือ แบบจำ�ลองพลังการแข่งขันของ
พอร์ตเตอร์ (Porter’s Competitive Forces) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาในปี ค.ศ. 1980 ในหนังสือ Competitive Stra-
tegy ของ ไมเคิล อี พอร์ตเตอร์ (Michael E. Porter) โดยแบบจำ�ลองนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้อย่างไร

แบบจำ�ลองดังกล่าวได้วิเคราะห์พลังการแข่งขันของอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อระดับความรุนแรง
ในการแข่งขัน และความสามารถในการทำ�กำ�ไร พลังการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมตามแบบจำ�ลองมีทั้งหมด 5
ประการ ได้แก่ ความรุนแรงของการแข่งขันจากคู่แข่งในปัจจุบัน (rivalry among existing firms in the industry)
อุปสรรคจากคู่แข่งรายใหม่ (treat of entry of new competitor) อำ�นาจต่อรองของลูกค้า (bargaining power of
customers or buyer) อำ�นาจต่อรองของผู้จำ�หน่ายปัจจัยการผลิต (bargaining power of supplier) และอุปสรรค
จากสินค้าทดแทน (treat of substitute products or services) ดังภาพที่ 9.1

ลิขสิทธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช