Page 28 - แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หน่วยที่ 3
P. 28
3-18 แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
4) ยอมรับเฉพาะระเบียบวิธีแบบปรนัย (Objective Method) ไม่ยอมรับวิธีการสังเกตตนเอง
(Introspection Method) หรือลักษณะวิธีอัตนัย (Subjective Method) โดยมีความต้องการให้ระเบียบ
วิธีก ารทางจ ิตวิทยา (Psychology Method) เป็นล ักษณะส ากล
5) มุง่ เนน้ ก ารศ กึ ษาท พี่ ฤตกิ รรมโดยเฉพาะ นกั จ ติ วทิ ยาก ลุม่ พ ฤตกิ รรมน ยิ มต อ้ งการใหว้ ชิ าจ ติ วทิ ยา
เป็นศ าสตร์ท ี่เน้นในเรื่องข องพ ฤติกรรม
6) ยอมรับเฉพาะข ้อมูล (Data) ที่ได้จ ากร ะเบียบว ิธีทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น นำ�เอาร ะเบียบวิธีการ
สังเกตพฤติกรรม (Behavior Method) มาใช้เป็นสำ�คัญ ข้อมูลที่ได้จากการสังเกต ผู้สังเกตจะต้องบันทึก
เฉพาะปรากฏการณ์ท ี่พ บเห็นหรือเกิดข ึ้นจ ริงเท่านั้น ห้ามมิให้บ ันทึกค วามรู้สึกของต นล งไปด้วย
โดยสรุปแ ล้วก ารนำ�จิตวิทยาก ลุ่มพ ฤติกรรมน ิยมม าป ระยุกต์ใช้ในการแ นะแนวแ ละการปรึกษาเชิง
จิตวิทยานั้น ส่วนใหญ่เป็นการมุ่งเน้นในเรื่องของพฤติกรรมเป็นหลัก เช่นในเรื่องของการปรับพฤติกรรม
การแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้เป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ โดยเริ่มตั้งแต่ในเรื่องของการสังเกต
พฤติกรรม การปรับหรือสร้างพฤติกรรมใหม่โดยอาศัยหลักการของการวางเงื่อนไข ตลอดจนการเสริมแรง
ในร ูปแบบต่างๆ
หลังจากศึกษาเน้ือหาสาระเรือ่ งท่ี 3.1.4 แลว้ โปรดปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 3.1.4
ในแนวการศึกษาหน่วยท่ี 3 ตอนที่ 3.1 เรอ่ื งที่ 3.1.4
เร่ืองที่ 3.1.5 จิตวิทยาก ลมุ่ เกสตัลท์
ในเรื่องกลุ่มเกสตัลท์น ี้ ผู้เขียนนำ�เสนอสาระส ำ�คัญใน 2 ประเด็น คือ 1) แนวคิดสำ�คัญ และ 2) สาระ
หลักท ี่เกี่ยวข้องกับการแ นะแนวแ ละก ารปรึกษาเชิงจ ิตวิทยา โดยม ีร ายล ะเอียด ดังนี้
1. แนวคิดส �ำ คัญ
แนวคิดข องนักจ ิตวิทยากลุ่มเกสต ัลท์ (Gestalt Psychology) นี้ เกิดขึ้นในระยะใกล้เคียงกับกลุ่ม
แนวคิดพ ฤติกรรมน ิยม ผู้นำ�กลุ่มได้แก่ แมกซ ์ เวอรไ์ธเมอ ร์ (Max Wertheimer) ร่วมก ับ เคิร์ท เลอว ิน (Kurt
Lewin) เคริ ท์ คอฟฟก์ า (Kurt Koffka) และว ลู ฟก์ งั โคหเ์ ลอร ์ (Wolfgang Kohler) ค�ำ วา่ “เกสต ลั ท”์ (Gastalt) นี้
เป็นคำ�มาจากภาษาเยอรมัน หมายถึง ส่วนรวมทั้งหมด นักจิตวิทยาในกลุ่มนี้ พบว่าการเรียนรู้เกิดจากการ
นำ�เอาสิ่งเร้าต่างๆ มารวมกัน เริ่มต้นจากการรับรู้ในส่วนรวมก่อน (figure) แล้วจึงสามารถแยกวิเคราะห์
เพื่อการเรียนรู้ส่วนย่อยแต่ละส่วนต่อไป (ground) ทฤษฎีเกสตัลท์นี้ได้รับการปรับปรุงต่อมา และเรียก
ชื่อใหม่ว่าทฤษฎีสนาม (Field Theory) ซึ่งที่แท้จริงแล้วก็ยังคงใช่หลักการเดิมนั่นเอง กล่าวคือ การเรียน