Page 99 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 99

โครงสร้าง และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย 5-89

ได้​อย่าง​จริงจัง​เท่านั้น​จึง​จะ​สามารถ​ทำ�ลาย​โครงสร้าง และ​พฤติกรรม​การ​คอรัป​ชัน​ทางการ​เมือง​ของ​กลุ่ม
“ไตรอ​ ัปลักษณท์​ างการเ​มือง” ได้ เพียงแ​ ตว่​ ่า ชัยชนะท​ ีจ่​ ะม​ ขี​ ึ้นย​ ังต​ ้องใ​ชเ้​วลาท​ ีไ่​มส่​ ามารถจ​ ะก​ ำ�หนดใ​หช้​ ัดเจน​
ได้​ใน​ขณะน​ ี้

2.	 ผลก​ระ​ทบใ​นด​ ้านล​ บ แยก​ออกไ​ ดด​้ ังน้ี คือ

       2.1 	เกิดก​ ารท​ ำ�ลายค​ ุณค่าร​ ะบอบป​ ระชาธิปไตย และ​หลักน​ ิติธรรมห​ ลายค​ รั้งจ​ นเ​กิด “มิติป​ ระชาธิป-
ไตย” ขึ้นห​ ลากห​ ลายแ​ ละแ​ ตกต​ ่างก​ ันใ​นค​ นแ​ ต่ละก​ ลุ่ม โดยบ​ างม​ ิติป​ ระชาธิปไตยอ​ าจแ​ ตกต​ ่างก​ ันค​ นละข​ ั้วจ​ น​
ไม่อ​ าจ​จะอ​ ยู่​ร่วมก​ ัน​ได้

       เฉพาะช​ ่วง​เวลา​ราว 8 ทศวรรษ ตั้งแต่​เปลี่ยนแปลง​การเมือง​การ​ปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้น​มา ก​็
พบ​ความ​จริง​ว่าโ​ครงสร้าง และส​ ถาบันท​ างการ​เมืองแ​ บบ​รวม​ศูนย์อ​ ำ�นาจ และแ​ บบก​ ึ่ง​ประชาธิปไตย สามารถ​
ดำ�รงอ​ ยู่ไ​ด้ย​ าวนานท​ ี่สุด คือ รวมเ​วลาท​ ั้งส​ ิ้น​เกือบ 60 ปี เพราะ​มี​กลไกข​ องร​ ะบบ​ทหารแ​ ละ​ราชการ​ค้ำ�จุน​ไว้
ผสมผ​ สาน​กับก​ าร​มีผ​ ู้นำ�​ทหารท​ ี่ม​ ีบ​ ารมี​ทางการ​เมืองส​ ูง คือ จอมพล ป. พิบูล​สงคราม จอม​พลส​ ฤษดิ์ ธนะ​รัชต​ ์
และพ​ ล.อ.เปรม ติณส​ ล​ู าน​ นท์ ดำ�รงต​ �ำ แหนง่ ป​ ระมขุ ข​ องฝ​ า่ ยบ​ ริหาร หรือ “ศูนยก์ ลาง” ของอ​ ำ�นาจใ​นโ​ครงสรา้ ง
และส​ ถาบนั ท​ างการเ​มอื งต​ า่ งๆ สว่ นโ​ครงสรา้ ง และส​ ถาบนั ท​ างการเ​มอื งใ​นแ​ นวทางป​ ระชาธปิ ไตย มเี​วลาใ​นก​ าร​
ทำ�งานอ​ ยู่​ไม่ถ​ ึง 20 ปี เพราะข​ าด​ความส​ ามารถใ​น​การท​ ำ�งานห​ รือก​ าร​สร้าง​พลัง​ให้​กับ “หลักน​ ิติธรรม” ทำ�ให้​
ไม่มี​พลัง​สนับสนุน​จาก​ภาค​สังคม คุณค่า​ประชาธิปไตย​จาก​พื้น​ฐาน​ของ​อำ�นาจ​อธิปไตย​ของ​ประชาชน​และ​
หลัก​นิติธรรม​จึงอ​ ่อน​ด้อย​กว่าค​ ุณค่า​ประชาธิปไตย​โดยช​ นชั้นน​ ำ�​และ​กลไกร​ ัฐ

       2.2 	โครงสร้าง และ​สถาบัน​ทางการ​เมือง​การ​ปกครอง​ที่​มี​ความ​หลาก​หลาย​และ​ซับ​ซ้อน​มาก​ขึ้น​
ภาย​ใต้ร​ ัฐธรรมนูญ​แห่ง​ราช​อาณาจักร​ไทย พุทธศักราช 2540 และ 2550 ได้ก​ ลาย​เป็น “พื้นที่ท​ องคำ�” แหล่ง​
ใหม่​ของ​กลุ่ม “ไตร​อัปลักษณ์​ทางการ​เมือง” ที่​พยายาม​ใช้​ระบบ​เส้น​สาย อุปถัมภ์ พวก​พ้อง​และ​เครือ​ญาติ
ผลกั ด​ นั ใ​หพ​้ วกพ​ อ้ งห​ รอื ค​ นในฝ​ า่ ยข​ องต​ วั เ​องไ​ดเ​้ ขา้ ไปม​ ต​ี �ำ แหนง่ ต​ า่ งๆ ในพ​ รรคการเมอื งส​ �ำ คญั ท​ มี​่ เ​ี งนิ ท​ นุ ม​ าก
และม​ ีอ​ ิทธิพลต​ ่อ​ผู้​มีส​ ิทธิเ​ลือก​ตั้งใ​น​จังหวัด​ต่างๆ สูง คือ ประชาธิปัตย์ ไทยรักไทย พลังป​ ระชาชน เพื่อไ​ทย
ชาติไ​ทย​พัฒนา เพื่อ​แผ่นดิน มัชฌิมาธ​ ิปไ​ตย รวมใจไ​ทย​ชาติพ​ ัฒนา และภ​ ูมิใจไ​ทย เป็นต้น ก็ม​ ี​บุคคล​และ​
กลุ่มก​ ารเมืองท​ ี่​ไม่ย​ อมรับก​ ลไก​การต​ รวจส​ อบ​และก​ ารด​ ำ�เนิน​การท​ าง​กฎหมายอ​ ยู่เ​ป็น​จำ�นวน​มาก แต่บ​ ุคคล​
และก​ ลุ่ม​การเมือง​ต่างๆ เหล่า​นี้ สามารถผ​ ่าน​การเ​ลือก​ตั้ง​เข้าไป​มี​ตำ�แหน่งท​ างการ​เมือง​ในร​ ัฐสภาแ​ ละ​รัฐบาล​
ได้อ​ ยู่เ​สมอ กระบวนการ​สร้างค​ วามเ​ป็นพ​ วกพ​ ้องเ​ดียวกัน​และช​ ่วยเ​หลือพ​ ึ่งพาก​ ันข​ องค​ นเ​หล่าน​ ีก้​ ับข​ ้าราชการ​
และ​เจ้า​หน้าที่​ของ​รัฐ​จึง​เป็น​ไป​อย่าง​ต่อ​เนื่อง จน​สามารถ​สร้าง​อิทธิพล​เข้า​สู่​องค์กร​อิสระ​และ​องค์กร​ของ​รัฐ​ที่​
จดั ต​ ัง้ ข​ ึน้ ใ​หมผ​่ า่ นก​ ารผ​ ลกั ด​ นั ท​ าง​ รฐั สภา เสน้ ส​ าย และร​ ะบบอ​ ปุ ถมั ภ์ พวกพ​ อ้ ง เครอื ญ​ าติ และเ​จา้ น​ าย–ลกู น​ อ้ ง

       โครงสร้าง และ​สถาบัน​ทางการ​เมือง​ใน​แนวทาง​การ​ปฏิรูป​การเมือง​จึง​มี​ลักษณะ​ถูก​ทับ​ซ้อน​ไว้​
โดย​โครส​ร้าง​และ​พฤติกรรม​การ​คอรัป​ชัน​ทางการ​เมือง พลัง​ใน​การ​บังคับ​ใช้​กฎหมาย​และ​การ​ตรวจ​สอบ​
กระบวนการท​ างการเ​มืองจ​ ึงม​ ีพ​ ลังน​ ้อย และไ​ม่ส​ ามารถป​ รับเ​ปลี่ยนค​ วามค​ ิดแ​ ละพ​ ฤติกรรมท​ างการเ​มืองข​ อง​
กลุ่ม “ไตรอ​ ัปลักษณ์ท​ างการ​เมือง” ได้
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104