Page 80 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 2
P. 80
2-70 ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา
ความสมดุล เช่น โรงเรียนด้อยคุณภาพ ผู้บริหารอาจจะสั่งการให้มีการพัฒนา โดยคาดคิดว่าจะเกิดวงจร
เสริมแรงขึ้น ในระยะแรกก็อาจได้ผล แต่ต่อมาก็อาจมีปัญหาเพราะการสื่อสารไม่ทั่วถึงและครูอาจารย์ไม่มี
ส่วนร่วม สภาพเช่นนี้จึงเกิดความล่าช้า (delays) ในการดำ�เนินงาน ผลก็คือการพัฒนาแบบสั่งการไม่สำ�เร็จ
ผู้บริหารต้องหลีกเลี่ยงแม่แบบนี้
อีกแม่แบบหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นเสมอในโรงเรียนคือ แม่แบบย้ายประเด็นปัญหา (shifting the bur-
den) แม่แบบนี้เกิดขึ้นจากวงจรสมดุลสองวง วงหนึ่งมุ่งแก้ปัญหาที่อาการ อีกวงหนึ่งมุ่งแก้ปัญหาที่สาเหตุ
(เซงกี และคณะ 2000: 36) วงจรการแก้ปัญหาที่อาการเป็นวงจรการแก้ปัญหาระยะสั้น มองเห็นชัดกว่าและ
มักเป็นที่เห็นพ้องต้องกันมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น คะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษของโรงเรียนตกตํ่า โรงเรียน
จึงแก้ปัญหาระยะสั้นโดยการให้เรียนพิเศษ อาจจะแก้ปัญหาได้ในระยะสั้น แต่ระยะยาวยังเป็นปัญหาอยู่
คือทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนยังตํ่า ผู้บริหารต้องไม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ต้องมุ่งแก้
ปัญหาระยะยาว
2.3 การสร้างโรงเรียนที่เรียนรู้ หลักสำ�คัญคือ การสร้างคานงัดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีหลัก ดังนี้
1) การเปลี่ยนแปลงจะยั่งยืนหากความเปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
2) การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากจุดเล็ก แต่เติบโตเหมือนสิ่งมีชีวิต
3) กลุ่มนำ�ร่องคือ ตัวบ่มฟักของความเปลี่ยนแปลง
4) การริเริ่มที่สำ�คัญจะต้องคำ�นึงถึงปัญหา 2 ประการคือ (1) เรากำ�ลังจะไปที่ไหน และ
(2) เราอยู่ที่นี่เพื่ออะไร
5) การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นโดยผ่านภาวะผู้นำ�หลายระดับชั้น
6) ความท้าทายเป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงองค์การ
(เซงกีและคณะ 2000: 273-275)
2.4 การสร้างชุมชนที่เรียนรู้ ชุมชนเป็นระบบใหญ่ของโรงเรียนและโรงเรียนเป็นระบบย่อยของ
ชุมชน โรงเรียนจะเป็นโรงเรียนที่เรียนรู้ หากชุมชนเป็นชุมชนที่เรียนรู้ หลักสำ�คัญก็คือความเชื่อที่ว่า “ทุก
ชุมชนสามารถเรียนรู้” (เซงกี และคณะ 2000: 461) ถ้าโรงเรียนเชื่อเช่นนี้ก็สามารถที่จะสร้างความเชื่อมโยง
กับชุมชนได้ การคิดเชิงระบบให้ความสำ�คัญเรื่องการเชื่อมโยง (connections) มาก เพราะทุกภาคส่วนของ
ระบบมีความเชือ่ มโยงซึ่งกนั และกัน โรงเรียนจงึ ตอ้ งมรี ายชื่อของบคุ คลและหนว่ ยงานทีอ่ ยู่รอบโรงเรยี น และ
สรา้ งความสมั พนั ธก์ บั บคุ คลและหนว่ ยงานเหลา่ นี้ ทัง้ นีเ้ พือ่ ประโยชนใ์ นการสรา้ งชมุ ชนทีเ่ รยี นรู้ และโรงเรยี น
ที่เรียนรู้ควบคู่กันไป
2.5 ภาวะผู้นำ� เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เรียนรู้และชุมชนก็เป็นชุมชนที่เรียนรู้ ภาวะผู้นำ�จึง
ต้องมีลักษณะที่สอดคล้อง เซงกีเห็นว่า ภาวะผู้นำ�ในองค์การการเรียนรู้มีลักษณะ 3 ประการ คือ
1) เป็นผู้ออกแบบ (designer)
2) เป็นผู้ดูแล (steward) และ
3) เป็นครู (เซงกี 1990: 340) ภารกิจสำ�คัญของผู้นำ�อยู่ที่การออกแบบองค์การการเรียนรู้
เป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการองค์การการเรียนรู้ และเป็นผู้เอื้ออำ�นวยให้เกิดการเรียนรู้ในองค์การ