Page 78 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 2
P. 78
2-68 ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา
เรือ่ งท่ี 2.6.2 แนวทางในการประยุกตท์ ฤษฎี
ทฤษฎีองค์การการเรียนรู้ของเซงกีสามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องต่อไปนี้ (1) ในการพัฒนาการ
เรียนการสอน (2) ในการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นองค์การการเรียนรู้ และ (3) ในการวิจัย
1. การพฒั นาการเรยี นการสอน
1.1 การพฒั นาคณุ ลกั ษณะของหอ้ งเรยี นใหม้ วี นิ ยั ทัง้ 5 ประการ วนิ ยั ทัง้ 5 ประการเปน็ คณุ ลกั ษณะ
ที่ทำ�ให้คนสามารถทำ�งานในหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมคนเพื่อให้พร้อม
ในการทำ�งานเพื่อสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้จึงเป็นภารกิจที่สำ�คัญ โรงเรียนอาจส่งเสริมให้มีการพัฒนา
คุณลักษณะทั้ง 5 ประการในตัวผู้เรียน กล่าวคือโรงเรียนพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้และทักษะ มีความเป็น
เลิศส่วนบุคคล คุณลักษณะที่ 2 ก็คือสอนให้นักเรียนมีมุมมองที่เปิด ยอมรับการเปลี่ยนแปลง คุณลักษณะ
ที่ 3 คือการมีวิสัยทัศน์ร่วม นักเรียนอาจเริ่มต้นด้วยการมีวิสัยทัศน์ของตนเองก่อน แล้วเชื่อมโยงวิสัยทัศน์
ตนเองเข้ากับวิสัยทัศน์ของกลุ่ม เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ร่วม คุณลักษณะที่ 4 คือ การเรียนรู้เป็นทีม โรงเรียน
ต้องจัดกิจกรรมให้นักเรียนรู้จักเรียนรู้ร่วมกันและรู้จักแบ่งปันความรู้ คุณลักษณะที่สำ�คัญประการที่ 5 ซึ่ง
เป็นคุณลักษณะที่สำ�คัญที่สุดของวินัย 5 ประการคือ การคิดเชิงระบบ นักเรียนจะต้องมีโอกาสเรียนรู้และ
มีความรู้ความเข้าใจในระบบต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เห็นความสลับซับซ้อน ความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ซึ่งกัน
และกัน ตลอดถึงความเป็นพลวัตของระบบต่างๆ
1.2 การใช้วินัยทั้ง 5 ประการเป็นวิธีการเรียนการสอน หลักสำ�คัญก็คือการเรียนรู้ด้วยการกระทำ�
(learning by doing) กล่าวคือถ้าอยากให้นักเรียนมีคุณลักษณะใด ก็ให้ทำ�กิจกรรมลักษณะนั้น เช่น ถ้า
ต้องการให้นักเรียนเรียนรู้เป็นทีมก็ต้องจัดกิจกรรมการทำ�งานเป็นทีม เป็นต้น
การสอนการคิดเชิงระบบก็มีเครื่องมือหลายอย่างเครื่องมือที่สำ�คัญคือ เครื่องมือเกี่ยวกับพลวัต
ของระบบ (system dynamics) เช่น กราฟแสดงพฤติกรรมในระยะเวลาที่ผ่านไป (behavior-over-time
graphs) ภาพไดอาแกรมของสินค้าคงคลังและการเคลื่อนย้าย (stock-and-flow diagrams) ตัวแบบ
คอมพิวเตอร์ (computer model) สถานการณ์จำ�ลอง (simulations) และแม่แบบ (archetypes) (Senge
et.al., 2000: 239)
นิทานต่างๆ ก็สามารถนำ�มาสอนการคิดเชิงระบบได้ เช่น เรื่องเมล็ดพืชมหัศจรรย์ของแอนโน
(Senge et.al., 2000: 267) ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น เรื่องเล่าว่า พ่อมดคนหนึ่งให้เมล็ดพืชทองค�ำ สอง
เมลด็ แกล่ งุ แจก๊ โดยบอกลงุ แจก๊ วา่ ใหก้ นิ เมลด็ หนึง่ แลว้ จะอยูไ่ ดห้ นึง่ ปี และอกี เมลด็ หนึง่ ใหป้ ลกู ลงุ แจก๊ กเ็ ชือ่
ฟัง ปีแรกลุงแจ๊กกินเมล็ดหนึ่งและปลูกเมล็ดหนึ่ง ต้นพืชเจริญงอกงามและได้ผลสองเมล็ด ปีต่อมาลุงแจ๊ก
ก็ปลูกสองเมล็ด ปลายปีก็เก็บเกี่ยวได้ผลสี่เมล็ด ลุงแจ๊กจึงกินเมล็ดหนึ่งแล้วปลูกสามเมล็ด ปลายปีลุงแจ๊ก
ก็เก็บเกี่ยวหกเมล็ด ลุงแจ๊กก็กินเมล็ดหนึ่งแล้วปลูก 5 เมล็ดที่เหลือ ลุงแจ๊กทำ�ไปเช่นนี้เรื่อยๆ คือกินเมล็ด